เมื่อนึกถึงค่ายเพลงป็อปคุณภาพเยี่ยม ดนตรีหลากหลาย ชื่อแรกที่เรานึกถึงคงหนีไม่พ้น ค่าย What the Duck ค่ายเพลงป็อปที่เสกสรรค์ปั้นแต่งศิลปินขึ้นสู่ดวงดาวมากมายทั้ง The Toy, สิงโต นำโชค, ชาติ สุชาติ, Chanudom ซึ่งล้วนเป็นชื่อที่คุ้นหูคุ้นตานักฟังเพลงบ้านเรา
เมื่อฝากฝังรุ่นพี่จนเป็นฝั่งเป็นฝาเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของค่ายเพลงที่ดีย่อมไม่หยุดแค่นั้น พวกเขายังต้องเฟ้นหาและสนับสนุนศิลปินน้องๆ หน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ขึ้นไปประดับวงการควบคู่กับรุ่นพี่จากค่าย เพราะวงการดนตรีก็เป็นดั่งคลื่นที่ซัดเข้าหาชายหาด ลูกเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่สุดท้ายก็ล้วนพัดผ่านไป เหลือเพียงร่องรอยบนผืนทราย
สำหรับผู้ฟังอย่างเราๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องสนใจกระบวนการทำงาน หรือขั้นตอนต่างนานาที่เกิดขึ้นเท่าไร อย่างเดียวที่เราควรสนใจคือ เราจะได้ฟังเพลงดีๆ จากค่ายเพลงที่เราคาดหวังไว้มั้ย
What The Duck ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขาเปิดตัวชาวแก๊ง Little Duck ที่ประกอบไปด้วยดูโอ คุ้กกี้แอนด์ครีม Mints สาวหน้าคมลานา ดีเลย์ เมืองไทย Bowkylion สองพี่น้องนักสร้างสรรค์ Plastic Plastic และพี่ใหญ่ที่ติดอวนชาวแก๊งค์เป็ดจิ๋วมาด้วย สองคู่หูเจ้าทะเล Whal&Dolph
หวาน – เย็น (Mints)
Mints วงดนตรีป็อปหน้าใสจากค่าย What The Duck ประกอบไปด้วยสองหนุ่มหล่อมากความสามารถ จากฮอร์โมน เดอะซีรีส์ พวกเขาไม่เพียงมากไปด้วยความสามารถทางด้านการแสดง แต่แพรวพราวเหลือเกินในเชิงดนตรี การจับคู่กันอย่างลงตัวของ ตน—ต้นหน ตันติเวชกุล และ อัด—อวัช รัตนปิณฑะ สะท้อนให้เราเห็นผ่านบทเพลงที่เราไม่แน่ใจว่าจะสุขหรือเศร้าดีอย่าง ‘พร้อม’ ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของพวกเขา
สำหรับตน เขาเป็นลูกศิษย์สายตรงของกอล์ฟ – ทีโบน ที่บอกว่าสายตรงเพราะว่าตนทั้งเรียนกีตาร์กับกอล์ฟในช่วงมัธยม และขณะนี้เขาก็ยังศึกษาอยู่ที่คณะดุริยางคศิลป์ เอกดนตรีแจ๊ซ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งกอล์ฟเป็นอาจารย์อยู่อีกด้วย ทางด้านอัด เป็นนักศึกษาการเมืองผู้หลงรักในโลกศิลปะ ซึ่งเขาเป็นคนเขียนเนื้อร้องทุกเพลงของวง Mints
ดูโอ้หน้าหยกจากซีรีส์ฮอร์โมน ได้นำลีลาการแสดงมาปรับใช้บนเวทีได้อย่างดี พวกเขามีลูกรับ – ส่ง กันตลอดคอนเสิร์ต ทำให้ตลอดการแสดงเป็นไปอย่างลื่นไหลและเรียกเสียงเฮฮาจากผู้ชมได้ตลอด เมื่อชั้นเชิงทางดนตรีถูกนำมาผสมกับความขี้เล่นของทั้งคู่ ยากที่ใครจะทัดทานโชว์ของพวกเขาได้
ตนบอกกับเราว่าเพลง ‘พร้อม’ ซิงเกิลล่าสุดเป็นเพลงที่ตรงกับชีวิตของเขามากที่สุด ส่วนอัดผู้เขียนเนื้อเพลงบอกว่า เพลงที่เขาอินมากที่สุดเป็นแทรคสุดท้ายใน EP ซึ่งพวกเขากำลังจะวางขายให้จับจองครั้งแรกงาน Cat T-shirt ที่กำลังจะถึงนี้
ถ้าหากยังคงสงสัยในความสามารถมัลติฟังก์ชันของสองหนุ่ม เราแนะนำได้เพียงว่าจะ ‘เหลือ’ จะ ‘พร้อม’ หรือจะ ‘ยังไงดี’ ก็ลองฟังเพลงพวกเขาดูก่อน
ไลออนส์ควีน (Bowkylion)
Bowkylion เหล้าเก่าที่ถูกเทลงขวดใหม่ของ What The Duck เธอคัฟเวอร์เพลงเป็นกิจวัตร แต่งหน้าเป็นงานอดิเรก รับงานเอ็มวีบ้างตามโอกาส หลายคนอาจจะรู้จักเธอผ่านการประกวดรายการเดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ แต่อันที่จริงแล้วเธอมีความสามารถมากกว่าเพียงแค่การร้องเพลง เธอทั้งเขียนเนื้อร้อง ดนตรี โปรดิวซ์เพลง อีกทั้งเรียบเรียงเอง ว่ากันให้เข้าใจง่าย เธอทำเพลงได้ด้วยตัวคนเดียวนั้นแหละ
เธอบอกกับเราว่า เธอเป็นคนที่ยึดอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก ทำให้เธอปล่อยผลงานผกผันตามอารมณ์และบรรยากาศ เพราะรู้ดีว่าใช้อารมณ์นำทางมากเกินไป ร่วมไปกับคำเชิญชวนของพี่บอล (Scrubb) เธอจึงตัดสินใจเติบโตขึ้นไปอีกก้าว ภายใต้ชื่อค่าย What The Duck
เธอทำให้เรานึกถึง Lana Del Ray ทั้งความสวย ลึกลับ และที่สำคัญความสามารถที่ไม่ธรรมดาเลย ‘แขนซ้าย’ เพลงใหม่ล่าสุดของเธอ สะท้อนให้เราเห็นว่าเธอไม่เพียงเหลือเชื่อในแง่เสียงร้องเท่านั้น ในเชิงดนตรีเธอก็ทำได้ดีไร้ที่ติเช่นกัน โปรเจ็กต์อะแคปเปลลา(Acappella)ทางช่องยูทูบของเธอ ซึ่งเธอได้นำเพลงหลายเพลงมาเรียบเรียงใหม่ในแนวอะแคปเปลลา ก็น่าสนใจและแปลกใหม่ไม่น้อยเลย
Auto-tune Queen คือคำที่เราอยากใช้เรียกโบว์กี้ไลออน เพราะเธอเป็นคนที่ติดออโต้จูนมากๆ ออโต้จูนเป็นระบบที่ควบคุมไม่ให้เสียงร้องของเราผิดคีย์ แต่สำหรับโบว์กี้ ไม่ต้องผิดคีย์ เธอก็อยากจะจูน เราทั้งหลับตาฟัง ไขว่ห้างฟัง ตีลังกาฟังแล้ว ก็ยังสงสัยว่าเธอจะร้องผิดคีย์ได้อย่างไร เธอให้คำตอบกับเราว่า เธอรู้ตัวอยู่แล้ว ว่าเธอร้องไม่ผิดคีย์ แต่ถึงอย่างไร เธอก็อยากให้เสียงร้องของเธอออกมาดีที่สุด เธอจึงเลือกใช้ออโต้จูนอยู่เสมอ
ใครอยากรู้ว่าเพลงเธอจูนหรือไม่จูน ลองเสิซเพลง ‘แขนซ้าย’ ฟังได้ในหลายแพลตฟอร์มทั้งยูทูบ ฟังใจ เรายกสองนิ้วให้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ถ้าแขนซ้ายใครยังว่าง อาจจะโชคดีได้เป็นหมอนให้เธอหนุน
พลาสติกและพลาสติกและดนตรี (Plastic Plastic)
Plastic Plastic วงดนตรีหวานใส เต็มไปด้วยเครื่อง Percussion และซาวด์แสนเพลินตะรุงตุงนัง สองพี่น้องพาเราเดินทางท่องโลกผ่านเสียงดนตรีของพวกเขา ตั้งแต่ย่องเข้าไปในห้องครัวยามวิกาลเพื่อเปิดตู้เย็นหยิบกินแฮมแผ่นที่หก จนถึงความคร้านอยากหมกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มในเช้าของฤดูร้อน
เพลง และ ป้อง สองพี่น้องเชื่อว่าการเขียนเนื้อเพลง ไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดอยู่แค่เรื่องของความรัก ความรู้สึก และความสัมพันธ์ ระหว่างคนกับคน เพราะพวกเธอก็ทำให้เราเห็นจริงๆ ว่าความผูกพันระหว่างคนกับแฮม มันก็น่ารักสดใสได้มากขนาดไหนเหมือนกัน
อันที่จริงสองพี่น้อง คลุกคลีกับวงการดนตรียาวนานและต่อเนื่อง สำหรับป้อง เขาทำทั้งเพลงประกอบโฆษณา เพลงประกอบภาพยนต์ อีกทั้งทำวง Gym and Swim ว่ากันตามจริงแล้วป้อง เป็นนักมายากลผู้เสกสรรค์ทุกอย่างให้เป็นเสียงดนตรีได้ โดยที่เขามักจะถือไมค์และจ่อไปตามมุมต่างๆ รอบบ้านเพื่ออัดเสียงแปลกๆ มาใส่ในดนตรีของเขา ทั้งเสียงเปิดถุงขนม เสียงก่อสร้าง ตลอดจนเสียงน้ำแข็งบด
ส่วนเพลง เธอเป็นหญิงสาวตัวเล็กมากความสามารถ เธอทั้งเล่นแบ็คอัพให้กับวงสครับ เป็นคนเขียนเนื้อร้องในเพลงของวง และเธอเขียนหนังสือท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า ‘Nice to meet me in Brighton’ , ‘Once in the Wild’ อีกด้วย ซึ่งเราแนะนำอย่างมากสำหรับผู้ที่สนใจหนังสือท่องเที่ยวแนวโฟโต้บุ๊ค สำหรับคนที่อยากหามาอ่าน เราแนะนำว่านอกจากเตรียมเงินค่าหนังสือแล้ว เตรียมเงินค่าเครื่องบินไว้ด้วยเลยก็ดี เพราะฝีมือการถ่ายภาพของเธอบอกเล่าเรื่องราวอย่างละมุนละไมและน่าดึงดูด จนเราอยากยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางและจองตั๋วไปเที่ยวเดี๋ยวนั้นเลย
สองพี่น้องพึ่งวาดคฑาร่ายมนต์ปล่อยผลงานใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Summer Hibernation’ หนึ่งในซิงเกิลจากอัลบั้มที่สองของพวกเขาที่มีชื่อว่า ‘Anything Goes’ ซึ่งยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยซาวด์แปลกๆ และกลิ่นไอของดนตรีแนวทดลอง แต่ทั้งนี้ยังคงไม่ทิ้งความป็อปและสดใสอันเป็นเอกลักษณ์
ถ้าชื่นชอบในเรื่องราวในบ้านที่พวกเขาบอกเล่าผ่านอัลบั้ม Stay at Home เราชวนให้มาลองออกไปข้างนอกกับพวกเขาในอัลบั้ม Anything Goes ด้วยกันไหม
วาฬและโลมา (Whal&Dolph)
ถ้าหากถามเราถึงวงดนตรีที่เล่นกีตาร์ได้ไพเราะ และมีเนื้อเพลงหลากอารมณ์ที่สุด เราขอชี้สิบนิ้วไปทางสองหนุ่มเจ้าทะเล Whal&Dolph สองเพื่อนสนิทที่ปล่อยอัลบั้ม Rayon ออกมาให้เราได้สัมผัสกับความรู้สึกของการนั่งอยู่ข้างใครสักคนยามพระอาทิตย์ตกดินและซับน้ำตาที่ไหลออกมาเมื่อรู้ว่าใครคนนั้นจากไปดั่งคลื่นที่พัดพา
สำหรับพวกเขาสองคนจะบอกว่าเป็นหน้าใหม่ คงไม่ถูกนัก เพราะพวกเขาล้มลุกคลุกคลานในโลกดนตรีมาหลายครั้งหลายครา ก่อนที่จะมาลงตัวเข้าคู่กันภายใต้ชื่อ Whal&Dolph พวกเขาสองคนต่างเคยทำวงมาแล้วไม่น้อยกว่าคนละ 2-3 ครั้ง เพราะฉะนั้นไม่ใช่เพราะโชคลางหรือคำอธิษฐานใดๆ ที่ทำให้พวกเขามายืน ณ จุดนี้ในวันนี้ หากเป็นประสบการณ์ที่สั่งสม ร่วมกับความรักและความพยายามต่างหาก ที่เป็นบันไดส่งดนตรีของสองหนุ่มเจ้าทะเลมาถึงหูเรา
น้ำวน หนุ่มร่างใหญ่ ผมยาว อารมณ์ดี ผู้มักมาพร้อมยูนิฟอร์มเสื้อฮาวาย ความสามารถของเขาไม่ได้มาเพราะเทพโพไซดอนดลบันดาลพรใดให้ หากเป็นเพราะประสบการณ์ของการเป็นอดีตมือกีตาร์วง Public Mansion อดีตนักศึกษาดนตรี มหาวิทยาลัยศิลปากร อดีตแฟนเพลงเมทัลและอดีตนักดนตรีกลางคืน น้ำวนเป็นเซียนกีตาร์มือฉมัง ผู้ไม่เคยเล่นคอร์ดธรรมดา เขาชอบที่จะแต่งเติมเมโลดี้ในท่วงทำนองอยู่เสมอ ให้เราได้รู้สึกหวานหูทุกครั้ง ที่เห็นเขาจับกีตาร์
ปอ หนุ่มหน้ามน คนเสียงหวาน ปอมักจะแฝงตัวอย่างแนบเนียนอยู่กับฝูงชนตามงานคอนเสิร์ตน้อยใหญ่ เรามักจะเห็นเขาในมาดแฟชั่นยุค 90s กางเกงแสลคและเสื้อเชิ้ตหรือเบลเซอร์ตัวเก๋สักชิ้น ถึงแม้ปอจะไม่ได้เรียนจบทางด้านดนตรีมา แต่ปอก็อุทิศตนให้เสียงเพลงไม่แพ้ใครคนไหน เขาเริ่มเขียนเพลงครั้งแรกตอนอยู่ชั้นมัธยม 5 ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปอเล่าให้เราฟังว่าการที่เขาออกดูคอนเสิร์ตบ่อยและถี่ขนาดนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความหลงไหลในเสียงดนตรี และอีกส่วนหนึ่งมาจากความต้องการพัฒนาทั้งส่วนดนตรี และ Performance ของตัวเขาเอง
ทั้งปอและน้ำวนต่างเป็นนักฟังที่ดี ทั้งคู่เชื่อว่าการฟังเพลงหลากหลายจะทำให้พวกเขามีวัตถุดิบมากมายที่จะนำไปพัฒนากับเพลงของตัวเอง พวกเขาฟังทุกอย่าง ที่เล็ดรอดเข้ามาภายในกระดูกรูปค้อนในหู โดยล่าสุดพวกเขาบอกกับเราว่า พึ่งออกไปมอส (กิจกรรมอย่างหนึ่งในคอนเสิร์ตเมทัล) หน้าเวทีคอนเสิร์ต Retrospect ที่ผ่านมา และกำลังติดตามพี่เบิร์ด-ธงชัย อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
ถ้าหากใครยังไม่รู้จักพวกเขาเราแนะนำให้ฟังเพลงล่าสุด ‘ฉันยังเก็บไว้’ ซึ่งฟีเจอริ่งร่วมกับ เอิ๊ต ภัทรวี อีกทั้งได้เบ๊นซ์ – ธนชาติ ผู้กำกับมือดีมาร่วมทำเอ็มวีเพลงให้อีกด้วย หรือใครที่กำลังอยู่ในอารมณ์เฝ้ารอคอย ‘น้ำตาฟ้า’ ก็อาจจะเป็นเพลงสุดท้าย ที่อยากส่งให้ใครสักคนฟังเพื่อให้เขารู้ถึงความรู้สึกเรา แต่อันที่จริงเราแนะนำให้ฟังทุกเพลงในอัลบั้ม เพราะสองหนุ่มเจ้าทะเลคู่นี้ทำดนตรีโดนเกิ๊นน
สองหนุ่มยังแถมทิ้งท้ายให้เราฟังอีกว่า พวกเขามี EP จำนวน 5-6 เพลงซึ่งทำเสร็จแล้วในตอนนี้ และพร้อมปล่อยให้สาวกได้จับจองความหวานอมขมกลืนของห้วงความรัก ครั้งแรกที่งาน Cat T-shrit ที่จะถึงนี้
Tags: What The Duck, Whal&Dolph, Bowkylion, Plastic Plastic, เพลงไทย