ต้นปีหน้าถ้าลมหนาวยังไม่หมดแรง เราจะมีอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่น่าดูไม่แพ้กัน นั่นคือ ‘Chang Music Connection Presents นั่งเล่น Music Festival 3’ (‘ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ นั่งเล่น มิวสิค เฟสติวัล 3’) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2561 ที่ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ธีมปีนี้ใช้ชื่อว่า ‘เกร๋กันใหญ่’ เรียกว่าทุกอย่างของงานนี้ต้องเก๋แบบถึงที่สุด ทั้งสถานที่ บรรยากาศ ผู้คน อาหาร และศิลปินที่มาในงาน​

เก๋ที่ 1 เราจะได้ฟังเพลงท่ามกลางธรรมชาติมีพื้นที่สีเขียวกว้างๆ ให้เราได้เลือกที่นั่งตามใจชอบ ล้อมรอบด้วยต้นสน

เก๋ที่ 2 เราจะได้ทานอาหารสุดพิเศษจาก เชฟตาม – ชุดารี เทพาคํา ท็อปเชฟไทยแลนด์ บวกกับสตรีตฟู้ดและฟู้ดทรัคกว่า 40 ร้าน

เก๋ที่ 3 งาน Installation Art (ศิลปะจัดวาง) ขนาดใหญ่กลางแจ้ง ฝีมือของปอม ชาน นักวาดภาพประกอบชื่อดัง ที่การันตีความสวยงามจนอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายรูปด้วย

เก๋ที่ 4 ไลน์อัพศิลปินที่ใครเป็นแฟนเพลงสายชิลล์ต้องอย่าพลาด มาหมดทั้ง อะตอม ชนกันต์ อ๊อฟ ปองศักดิ์ เป๊ก ผลิตโชค ป๊อบ ปองกูล โอ๊ต ปราโมทย์ เบน ชลาทิศ สี่โพดำ (กัน นภัทร / แก้ม วิชญาณี / โดม จารุวัฒน์ / ตั้ม วราวุธ) คชา นนทนันท์ เบล สุพล บวกกับความสนุกจากปาล์มมี่และโจอี้ บอย​

เราคุยกับผู้อยู่เบื้องหลังความเก๋ทั้งหมดของงานนี้ ป็อบ-ศักดิ์สกุล แก้วมาตย์ ที่อยู่ในธุรกิจโชว์บิสมานานกว่า 20 ปี ทำมาแล้วถึง 50 คอนเสิร์ต เช่น คอนเสิร์ตไมโคร รียูเนียน ใหม่-เจริญปุระ ติ๊นา-คริสติน่า อากีล่าร์ โก๊ะตี๋ อารามบอย และอีกมากมายนับไม่ถ้วน ด้วยประสบการณ์ขนาดนี้ เขาจะบอกเราถึงความพิเศษของงานนี้ ว่าทำไมทุกคนจึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ธีม ‘เกร๋กันใหญ่’ มีที่มาอย่างไร

      คือทุกครั้งที่จัดเทศกาลดนตรี เราจะมีการทำรีเสิร์ชเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล อย่างงานนั่งเล่นที่ผ่านมา เราจัดมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกไปจัดกันที่สวนผึ้ง ครั้งที่สองจัดที่ดิ โอเชี่ยน พอจะจัดครั้งที่สาม เรารู้ว่าความต้องการของคนเริ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่การดูคอนเสิร์ตแล้วจบอย่างเดียว เขาอยากได้ความพิเศษมากกว่าที่เคยไปมา ยิ่งตอนนี้เรื่องของไลฟ์สไตล์มีบทบาทกับชีวิตมาก ถ้าเราทำคอนเสิร์ตอย่างเดียว เขาไปดูที่ไหนก็ได้ เรามีข้อมูลว่าสิ่งที่เขาต้องการมากกว่านั้นคือ บรรยากาศเก๋ๆ มีจุดถ่ายรูป เลยเป็นที่มาของธีม ‘เกร๋กันใหญ่’

 แต่คำว่าเก๋ เราก็แตกออกไปอีกหลายด้าน ทั้งศิลปินที่มาเล่นในงานนี้ เราว่าไลน์อัปศิลปินดีมากๆ และค่อนข้างแมส ชื่อศิลปินแต่ละคนเอ่ยชื่อมา ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครสงสัยว่าเขาเป็นใคร ส่วนบรรยากาศก็ต้องเก๋ มีจุดถ่ายรูปสวยๆ เพื่อให้เขาไปแล้วรู้ว่าไม่ใช่ไปดูคอนเสิร์ตอย่างเดียว เขาได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ยิ่งในสังคมโซเซียล เรารู้อยู่แล้วว่าต้องถ่ายรูป แชร์ และคอมเมนต์ ซึ่งงานนี้มันก็ตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้

นั่นจึงเป็นเหตุให้เลือก ปอม ชาน มาทำ Installation Art (ศิลปะจัดวาง) และเชฟตาม-ชุดารี เทพาคํา มาทำอาหารให้ด้วยใช่ไหม

    งานนี้มันคือการมาเจอกันของมิวสิคกับไลฟ์สไตล์ ซึ่งคำว่าไลฟ์สไตล์มันประกอบด้วย ศิลปะ อาหาร และแฟชั่น พอดีเราเห็นงานปอมแล้วรู้สึกว่าเป็นศิลปินคนไทยที่ดังในระดับสากล งานที่ปอมทำน่าสนใจ แต่อาจยังไม่มีคนติดตามผลงานมากนัก เราเลยลองชวนปอมมาทำงานนี้ด้วยกัน ก็ปรากฏว่าเป็นคนที่มีไอเดียพลุ่งพล่าน รู้สึกเลยว่าปอมอยากทำงานนี้ เราก็มีความสุขที่เห็นแบบนั้น เชื่อว่างานน่าจะออกมาดี

 เราก็เล่าคอนเซ็ปต์ของงานให้ฟัง บอกว่าอยากได้ Installation Art ขนาดใหญ่กลางแจ้ง อยากให้คนมาถ่ายรูปกัน ปอมก็กลับไปคิดมา แล้วก็บอกว่าทำเป็น Interactive ด้วยดีกว่า จะได้ให้คนสนุกกับงานได้ ไม่ใช่แค่ยืนถ่ายรูปอย่างเดียว

  ส่วนเชฟตาม ตอนแรกเราก็หาเชฟที่จะมาทำอาหารพิเศษให้ในงานนี้ ก็ลองถามๆ คนที่รู้จักว่ามีใครน่าสนใจบ้าง ก็สรุปมาที่เชฟตาม ซึ่งเป็นท็อปเชฟไทยแลนด์ด้วย เราก็นัดคุยกัน เล่าเรื่องงานนี้ให้ฟัง เชฟตามก็อยากทำเลย ก็กลับไปทำการบ้านแล้วมาคุยกัน เชฟตามก็บอกว่าอยากเอาวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำอาหาร แต่ใช้ศิลปะการจัดวางให้หน้าตาออกมาดูดีเหมือนร้านหรูๆ เราก็ว่าดี น่าสนใจ ก็จะมีชื่อเมนูแปลกๆ เช่น อ้าวเฮ้ย กะหล่ำปลี นวด และไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ แต่ต้องไปลุ้นว่าจะเป็นแบบไหน

ในฐานะคนจัดงาน อยากเห็นงานนี้เป็นอย่างไร คนที่มางานจะได้ประสบการณ์อะไรกลับไป

    เราในฐานะคนจัดก็คาดหวังให้คนดูมีความสุข ในช่วงที่อากาศดีๆ เพราะการที่เขามาดู เขาต้องจ่ายเงินค่าบัตร จ่ายค่าน้ำมันรถ จ่ายค่าที่พัก มันคือสิ่งที่เขาต้องเสียเงินเพื่อแลกกับประสบการณ์บางอย่าง เราอยากให้มันเป็นโมเมนต์ที่เขาจดจำว่ามีความสุขในวันนั้น เลยต้องคิดทุกอย่างให้มีความพิเศษ เพราะคนคิดว่าเวลาไปเทศกาลดนตรีหนึ่งต้องลำบากแน่ๆ ไหนจะการเดินทาง ต่อคิวเข้างาน ห้องน้ำหายากอีก เราต้องทำเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายของทุกคน ตั้งแต่การขับรถมาที่งาน มาถึงแล้วต่อคิวเข้างานก็ต้องไม่ใช่เรื่องใหญ่ พอเข้ามาในงานแล้วต้องเจอกับบรรยากาศที่ดี นั่นเป็นสิ่งที่เราคาดหวังว่าคนไปงานนี้จะได้กลับไป ​        สมัยก่อนเวลาทำคอนเสิร์ต เราจะคิดโปรดักชันแบบอลังการมาก เพราะรู้สึกว่าคนดูน่าจะชอบ แต่ตอนหลังเราว่าน้อยแต่มากก็ดีเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ามีโปรดักชัน แสง สี เสียงแล้วคนดูจะมีความสุขเสมอไป ทุกครั้งจะบอกกับศิลปินว่าเวลาคนดูเดินออกไปจากประตูหลังจบงาน เขาจำอะไรได้ อาจจะเป็นชีวิตของศิลปิน เพลงที่ตั้งใจแต่งขึ้นมา หรือความงามของไฟในงาน

Showbiz ครอบคลุมอะไรบ้าง

  โดยส่วนตัวเราแบ่งโชว์บิสเป็นสามแบบ อย่างแรกคือคอนเสิร์ตสำหรับแฟนคลับ เช่น นิว-จิ๋ว บอดี้สแลม อย่างที่สองคือคอนเสิร์ตแห่งความคิดถึง เป็นพวกเรโทร เช่น ใหม่-เจริญ ปุระ เจ-เจตริน และอย่างที่สามคือเทศกาลดนตรีที่สเกลค่อนข้างใหญ่ รองรับคนได้ 10,000-20,000 คน

    ถ้าเป็นคอนเสิร์ตที่ไม่ได้จัดกลางแจ้ง เราว่ามันเปรียบเสมือนการไปดูหนัง ละสายตาไปไม่ได้ ต้องตั้งใจดู แต่ถ้าเป็นเทศกาลดนตรีก็เป็นเรื่องของบรรยากาศ เหมือนเข้าไปดูนิทรรศการ เราสามารถเลือกดูในสิ่งที่ชอบได้ เสน่ห์ก็จะต่างกัน หรือคอนเสิร์ตที่เล่นในผับก็อีกแบบหนึ่ง แต่ทั้งหมดเป็นองค์รวมที่ทำให้ศิลปินอยู่ได้

ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้างที่จะทำให้เทศกาลดนตรีหนึ่งประสบความสำเร็จ เป็นที่จดจำและได้รับการตอบรับจากคนดู

  มีอยู่สามอย่าง อย่างแรกตัวศิลปิน เพราะคนที่ไปเทศกาลดนตรีเกิน 90 เปอร์เซ็นต์เป็นคนชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ อยากไปดูศิลปินที่ชอบ อย่างที่สองเป็นเรื่องของบรรยากาศ ซึ่งมีส่วนสำคัญมาก อย่างนั่งเล่นสามครั้งนี้ โจทย์แรกๆ เลย เราต้องจัดในช่วงที่บรรยากาศเย็นๆ คือบ้านเราไม่ค่อยเหมือนต่างประเทศที่มีเทศกาลดนตรีได้บ่อย เพราะอากาศมันได้ คนก็ออกมาสนุกได้ สังเกตเลยว่าบ้านเราตั้งแต่ปลายปีถึงต้นปีจะเป็นช่วงที่มีเทศกาลดนตรีเยอะมาก

  อย่างที่สามคือคนดู คนที่ไปเทศกาลดนตรีควรเป็นคนกลุ่มเดียวกันมันถึงจะสนุก ถ้าเป็นร็อกเฟส เราก็เดาได้เลยว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน คงไม่มีคนที่ชอบแจ๊ซมาดูแน่ๆ อย่างนั่งเล่น 3 เราได้ศิลปินที่แมส และทุกคนการันตีเรื่องโชว์สนุก ในบรรยากาศดีๆ ถ้าใครชอบศิลปินและบรรยากาศแบบนี้ก็น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา

 

FACT BOX:

‘Chang Music Connection Presents นั่งเล่น Music Festival 3’ (‘ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ นั่งเล่น มิวสิค เฟสติวัล 3’) มิวสิคไลฟ์สไตล์ เฟสติวัล ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2561 ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยเปิดจำหน่ายบัตร Early Bird ราคาเพียง 1,000 บาท (จากราคาปกติ 2,000 บาท) วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น สามารถซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิกเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ www.allticket.com สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ FB : NanglenFestival

Tags: , , , , , , ,