เชื่อได้ว่าการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองนั้นเป็นความปรารถนาของคนส่วนใหญ่ โดยในบทความครั้งก่อน ผู้เขียนได้ใช้ฐานข้อมูลการสำรวจค่าครองชีพของประเทศต่างๆ และเมื่อประมวลผลแล้ว พบว่าราคาที่อยู่อาศัยในเขตเมืองของไทย อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศทั่วโลก และเมื่อดูราคาที่อยู่อาศัยเทียบกับรายได้ของคนในประเทศก็พบว่า ความยากในการมีที่อยู่อาศัยในเขตเมืองของคนไทยยากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หรือพูดอีกแบบหนึ่งคือ ถ้าเราเป็นชนชั้นกลางไทยที่ซื้อที่อยู่อาศัยในเขตเมือง เราจะต้องทำงานมากกว่า ในการที่จะได้มากซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย เมื่อเทียบกับคนในประเทศอื่นๆ (https://themomentum.co/property-prices-comparison-condominium/)

         นอกจากปัจจัยด้านราคาที่อยู่อาศัยแล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้คนในเขตเมืองส่วนใหญ่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในต้นทุนที่สูงขึ้นคือ ผลของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย

         จากการสำรวจข้อมูลของ Numbeo ที่ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับค่าครองชีพและสภาพการอยู่อาศัยของประเทศต่างๆ กว่า 8,500 เมืองทั่วโลก ใน 90 ประเทศ และมีผู้ร่วมให้ข้อมูลกว่า 300,000 ราย พบว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของประเทศไทยจากกลุ่มตัวอย่างอยู่ที่ 5.69% ต่อปี อยู่ในอันดับ 38 เมื่อเทียบกลุ่มตัวอย่าง 88 ประเทศ (ตัดประเทศที่มีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจบางประเทศออก)

         แต่การดูอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถบอกถึงความสูงต่ำของอัตราดอกเบี้ยได้มากนัก เพราะอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากในประเทศต่างๆ มักจะเป็นผลมาจากนโยบายการเงิน ซึ่งมักถูกส่งผ่านมาจากอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy rate) ที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศกำหนดขึ้น ให้เหมาะสมกับสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ

         ประเทศใดก็ตามที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูง ในทางกลับกัน ประเทศที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับต่ำไปด้วย

     จากการรวบรวมข้อมูลอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศต่างๆ ทั่วโลก 50 ประเทศ พบว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปัจจุบัน ที่ระดับ 1.5% ต่อปี ถือว่าอยู่ระดับปานกลางเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ  โดยอยู่ในอันดับที่ 21 (จาก 50 ประเทศ) ร่วมกันกับ ออสเตรเลีย, โปร์แลนด์ เกาหลีใต้, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ค

    แต่ที่น่าสนใจก็คือเมื่อนำอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยกับดอกเบี้ยนโยบายของแต่ละประเทศมาพิจารณาร่วมกัน พบว่าส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยนั้น อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ดังตาราง

ประเทศดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยนโยบายส่วนต่าง
ดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย
กับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
1Colombia0.12440.04250.0819
2Peru0.10090.02750.0734
3Brazil0.11320.0650.0482
4Hungary0.05410.0090.0451
5Thailand0.05690.0150.0419
6South Africa0.1050.0650.04
7Cyprus0.039700.0397
8Ireland0.038700.0387
9Russia0.11050.0750.0355
10Sweden0.0288-0.0050.0338
11Slovenia0.033700.0337
12Mexico0.1110.07750.0335
13Israel0.03440.0010.0334
14Pakistan0.11830.0850.0333
15New Zealand0.04890.01750.0314
16Australia0.04460.0150.0296
17India0.09410.0650.0291
18Philippines0.07280.0450.0278
19Indonesia0.08510.05750.0276
20Denmark0.0204-0.00650.0269
21Portugal0.026200.0262
22Latvia0.026200.0262
23United Kingdom0.03250.00750.025
24Netherlands0.02500.025
25Spain0.023900.0239
26Italy0.023600.0236
27Poland0.0380.0150.023
28Switzerland0.0152-0.00750.0227
29Croatia0.04750.0250.0225
30Belgium0.02200.022
31United States0.0430.021250.02175
32Austria0.02100.021
33Lithuania0.020900.0209
34Iceland0.06280.04250.0203
35South Korea0.03470.0150.0197
36Slovakia0.019200.0192
37Germany0.018900.0189
38Norway0.02630.00750.0188
39Canada0.03330.0150.0183
40France0.018200.0182
41Chile0.04020.0250.0152
42Finland0.014900.0149
43Japan0.0133-0.0010.0143
44Malaysia0.04540.03250.0129
45Romania0.03710.0250.0121
46Saudi Arabia0.03740.02750.0099
47Czech Republic0.02310.0150.0081
48China0.05040.04350.0069
49Taiwan0.01930.013750.00555
50Hong Kong0.02390.025-0.0011

     ตารางที่ 1  ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของประเทศต่างๆ 

Source: Number, BIS, Bloomberg คำนวณโดยผู้เขียน

จากตารางจะเห็นได้ว่าส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของไทยที่ 4.19% นั้น สูงเป็นอันดับ 5 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มตัวอย่าง 50 ประเทศ และสูงที่สุดในเอเชีย โดยสูงกว่าอินดีย (2.91%), ฟิลิปปินส์ (2.78%), อินโดนีเซีย (2.76%), มาเลเซีย (1.29%) เป็นต้น

         และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เท่ากับไทย พบว่า ออสเตรเลียมีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.96%, โปร์แลนด์มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.30%, เกาหลีใต้มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.97%, แคนาดามีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.83% และสาธารณรัฐเช็คมีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.81 % ซึ่งจะเห็นว่าส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ของไทยอยู่สูงที่สุดเช่นกัน

         ซึ่งผลเป็นไปในรูปแบบเดียวกันเมื่อหาส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของแต่ละประเทศ ดังตาราง

ประเทศดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวส่วนต่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว
1Colombia12.44%7.05%5.39%
2Peru10.09%4.83%5.26%
3Croatia4.75%2.02%2.73%
4Sweden2.88%0.46%2.42%
5Thailand5.69%3.31%2.38%
6Russia11.05%8.67%2.38%
7Mexico11.10%8.91%2.19%
8New Zealand4.89%2.76%2.13%
9Ireland3.87%1.79%2.08%
10Hungary5.41%3.50%1.91%
11India9.41%7.70%1.71%
12Cyprus3.97%2.29%1.68%
13Denmark2.04%0.39%1.65%
14Slovenia3.37%1.98%1.39%
15Netherlands2.50%1.12%1.38%
16United Kingdom3.25%1.94%1.31%
17Australia4.46%3.26%1.20%
18South Korea3.47%2.28%1.19%
19Brazil11.32%10.22%1.10%
20Lithuania2.09%1.04%1.05%
21China5.04%4.02%1.02%
22Switzerland1.52%0.52%1.01%
23United States4.30%3.43%0.87%
24Germany1.89%1.08%0.81%
25Canada3.33%2.55%0.78%
26Latvia2.62%1.84%0.78%
27Austria2.10%1.45%0.65%
28Norway2.63%1.99%0.64%
29Taiwan1.93%1.31%0.62%
30Poland3.80%3.20%%0.60%
31South Africa10.50%9.94%0.56%
32Japan1.33%0.88%0.45%
33Belgium2.20%1.77%0.43%
34Czech Republic2.31%2.03%0.28%
35Finland1.49%1.29%0.20%
36Iceland6.28%6.09%0.19%
37France1.82%1.69%0.13%
38Slovakia1.92%1.81%0.12%
39Pakistan11.83%11.76%0.07%
40Hong Kong2.39%2.35%0.04%
41Israel3.44%3.43%0.01%
42Spain2.39%2.73%-0.34%
43Malaysia4.54%4.91%-0.37%
44Portugal2.62%3.02%-0.40%
45Philippines7.28%7.79%-0.51%
46Indonesia8.51%9.02%-0.51%
47Chile4.02%5.12%-1.10%
48Romania3.71%4.88%-1.17%
49Saudi Arabia3.74%5.25%-1.51%
50Italy2.36%3.92%-1.56%

         ตารางที่ 2  ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ของประเทศต่างๆ

Source: Number, BIS, Bloomberg คำนวณโดยผู้เขียน (พันธบัตรระยะยาวคืออายุ 30 ปี แต่ถ้าประเทศใดที่ไม่มีจะใช้ 10 ปี แทน (ตัวหนังสือสีส้ม)

จากตารางจะเห็นได้ว่าส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของของไทยที่ 2.38 % นั้น สูงเป็นอันดับ 5 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มตัวอย่าง 50 ประเทศ และสูงที่สุดในเอเชียเช่นเดิม โดยสูงกว่าอินดีย (1.71%), ฟิลิปปินส์ (-0.51%), อินโดนีเซีย (-0.51%), มาเลเซีย (-0.37%) เป็นต้น

         และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% เท่ากับไทย พบว่า ออสเตรเลียมีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.2%, โปร์แลนด์มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.6%, เกาหลีใต้มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.19%, แคนาดามีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.78% และสาธารณรัฐเช็คมีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.28 % ซึ่งจะเห็นว่าส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ของไทยอยู่สูงที่สุดเช่นกัน

         ถ้าถือว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เป็นตัวแทนของผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ตัวเลขส่วนต่างที่กว้างมากนี้หมายความว่าถ้าเราเป็นคนไทยที่มีเงินเหลือสำหรับการออม/ลงทุน อัตราผลตอบแทนที่ได้จากการออม/ลงทุน ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวนั้นอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก แต่ถ้าเราเป็นคนไทยที่ต้องการเงินกู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการซื้อบ้านเรากลับต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคนกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศอื่นๆ

         มีเคยเคยกล่าวไว้ว่าความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของการลงทุนคือผลของผลตอบแทนแบบทบต้น ที่จะทำให้เงินลงทุนสามารถเพิ่มพูนได้หลายเท่าตัว หากระยะเวลาและผลตอบแทนจากการลงทุนยาวนานและสูงเพียงพอ

       แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ค่อยได้ยินใครพูดถึงมากนักก็คือ ‘พลังของดอกเบี้ยเงินกู้แบบทบต้น’ ซึ่งหากระยะเวลาและผลตอบแทนจากการลงทุนยาวนานและสูงเพียงพอ ภาระเงินกู้ก็จะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัวได้เช่นกัน

        ยกตัวอย่างเช่น กรณีดอกเบี้ย เงินกู้ที่ระดับ 6% หากซื้อที่อยู่อาศัย 3 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 20 ปี จำนวนเงินที่ผู้กู้ทั้งจ่ายทั้งสิ้น (ภายใต้สมมติฐานว่าไม่มีการ Refinance) จะประมาณ 5,158,303.62 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นดอกเบี้ยถึง  2,158,303.62 ล้านบาท แต่ถ้าระยะเวลาการกู้เป็น 30 ปี ที่ดอกเบี้ยและเงินต้นเท่ากัน จำนวนเงินที่ผู้กู้ทั้งจ่ายทั้งสิ้นจะประมาณ 6,475,145.67 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นดอกเบี้ย 3,475,145.67 ล้านบาท (มากกว่าเงินต้น) และจำนวนเงินและดอกเบี้ยที่ต่างกันสามารถดูผลประมาณการการคำนวนดอกเบี้ยเงินเงินที่ต้องจ่ายทั้งหมดได้ดังตาราง

 

 

ตารางที่ 3  ประมาณการเงินทั้งหมดและดอกเบี้ยจ่าย จากการกู้ยืมระยะยาว 

(หมายเหตุการณ์คำนวณนี้เป็นการประมาณการ แต่รายละเอียดการคำนวนของแต่ละธนาคารอาจมีรายละเอียดแตกต่างไปจากนี้ได้)

         แม้ว่าที่อยู่อาศัยจะแพง และดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยก็แพง แต่การมีบ้านเป็นของตัวเองก็ยังคงเป็นความใฝ่ฝันของคนส่วนใหญ่ ที่ต้องการสร้างครอบครัว

         คำแนะนำเบื้องต้นจากการที่ต้องซื้ออาศัยแพงและถูกทวีคูณด้วยดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัยในระดับสูง ก็คือถ้ามีเงินที่ได้จากการทำงาน เราควรเก็บส่วนหนึ่งไว้กับตัวเพื่อใช้ในเวลาฉุกเฉินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เงินส่วนที่เหลือแทนที่จะนำไปลงทุนที่อาจได้ผลตอบแทนไม่มากนักและอาจไม่สม่ำเสมอ เราควรที่จะเอาเงินไปโปะสินเชื่อบ้าน ที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง (เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และเทียบกับการลงทุนในประเทศ) และเป็นอัตราที่ต้องจ่ายแน่นนอน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า