เป็นไปได้หรือไม่ว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์สามารถหลบหนีออกจากเยอรมนีไปได้ ข่าวลือเรื่องนี้หมุนวนมาให้ได้ยินกันอยู่เรื่อยๆ
ในปี 1955 แม้กระทั่งหน่วยงานน่าเชื่อถืออย่างซีไอเอก็ยังพบหลักฐาน เพียงแต่ไม่มีใครในหน่วยงานนี้เชื่อว่าเป็นไปได้ ภาพถ่ายฮิตเลอร์จากปีดังกล่าวถูกแชร์กระจายว่อนทางอินเทอร์เน็ตมานานนับเดือนแล้ว ยามนี้หน่วยงานสืบราชการลับได้เปิดข้อมูลเสรีแล้วเช่นกัน
สตาลิน เผด็จการของโซเวียตรัสเซีย เป็นคนหนึ่งที่รู้อย่างแน่ชัดว่า ศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขาเสียชีวิตแล้วจริง เนื่องจากเขาได้รับข้อมูลหลักฐานยืนยันจากคณะผู้เชี่ยวชาญของตนในกรุงเบอร์ลิน หลักฐานดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนจากฟันปลอมของฮิตเลอร์ นอกจากนั้น ยังมีคำให้การของพยานที่รู้เห็นว่าฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย
ถึงกระนั้น สตาลินก็ไม่ได้เปิดเผยสิ่งที่เขารับรู้ กลับปล่อยให้พันธมิตรซีกตะวันตกงมหาความจริงกันเอาเอง เพราะแม้ว่าอเมริกาและอังกฤษจะเชื่อมโยงกับสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการในนามของ ‘ฝ่ายพันธมิตร’ ก็จริง แต่สงครามเย็นระหว่างตะวันออกและตะวันตกเข้าครอบงำตั้งแต่ช่วงวันสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
หมากเกมของสตาลินทำให้เจ้าหน้าที่รัฐของเยอรมนีต้องถ่วงเวลาในการประกาศข่าวการเสียชีวิตของฮิตเลอร์อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการถ่วงเวลาที่ค่อนข้างยาวนานชัดเจน นั่นคือ วันที่ 25 ตุลาคม 1956 โดยหน่วยงานศาลของเมืองแบร์ชเทสกาเดน รัฐบาวาเรีย แน่นอนว่าการถ่วงเวลาทำให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน แต่แม้จะมีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ เพราะโดยทฤษฎีแล้ว ไม่มีใครสนใจข้อมูลหรือเอกสารทางการ
ในเวลานั้น ชาวเยอรมันส่วนใหญ่พร้อมจะเชื่อว่าเผด็จการนาซีน่าจะหลบหนีไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในอเมริกาใต้ ซึ่งมีเค้าความเป็นไปได้ เพราะอดีตทหารนาซีระดับสูงหลายคนก็หลบหนีไปอยู่แถบนั้น
ลือกันว่าฮิตเตอร์อยู่ในโคลอมเบีย? แม้แต่ซีไอเอเองก็ไม่แน่ใจ บางทีข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับฮิตเลอร์อาจจะเป็นจริงก็ได้
ในระหว่างนั้น ซีไอเอก็ยังจัดทำรายงานขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ในหลักฐานรายงานชื่อ Hitler, Adolf 0003 ที่ซุกอยู่ในซีไอเอมานาน 62 ปีได้รับการเปิดเผย พร้อมๆ กับการเปิดข้อมูลเสรีเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่มาของเรื่องคือว่า ในเดือนตุลาคมปี 1955 หน่วยสืบราชการลับพบหลักฐานและภาพถ่ายที่เชื่อมโยงกับการปรากฏตัวของฮิตเลอร์ในเมืองตุงฆา ของโคลอมเบีย เมืองตุงฆาตั้งอยู่บนความสูง 2,800 เมตรในเทือกเขาแอนดีส ปัจจุบันมีประชากรราว 190,000 คน เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงโบโกตาไปทางเหนือประมาณ 150 กิโลเมตร แม้หน่วยสืบราชการลับของอเมริกาจะไม่เชื่อข้อมูลหลักฐานที่มีมากนัก แต่พวกเขาก็สืบหาข้อมูลเพื่อมาทำรายงานอยู่ดี
แต่ภาพถ่ายและรายงานของซีไอเอที่ถูกนำมาเปิดเผยยามนี้ กลับไม่พ้องกับรายงานของสื่อทั่วโลกที่แพร่กระจายทางอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงหลายวันที่ผ่านมา นั่นอาจเป็นเพราะว่า ภาพและข้อมูลถูกเปิดเผยทางอินเทอร์เน็ตโดยนักประวัติศาสตร์ชาวอาร์เจนตินา-อาเบล บาสตี (Abel Basti) ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว โดยส่วนตัว บาสตีเชื่อมานานนับปีแล้วว่า ฮิตเลอร์ใช้ชีวิตอยู่ในอาร์เจนตินาตั้งแต่หลังสงคราม
ข้อมูลเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของฮิตเลอร์ในโคลอมเบียมาจากสายลับคนหนึ่งที่ใช้ชื่อรหัสว่า ‘Cimelody-3’ ซึ่งสืบพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตนายทหารนาซีในเนเธอร์แลนด์สที่ชื่อ ฟิลิป ซีตรอง (Philip Citroen) ที่อ้างว่าเคยติดต่อกับฮิตเลอร์อย่างสม่ำเสมอ ฮิตเลอร์มักพบปะนายทหารนาซีระดับสูงบ่อยครั้ง และทุกคนยังคงเรียกเขาว่า “Führer” (ผู้นำ) ด้วยความเคารพอยู่ สายลับคนดังกล่าวเปิดเผยหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่ฮิตเลอร์ถ่ายร่วมกับซีตรอง และเห็นฉากหลังเป็นบ้านพัก ‘เรซิเดนเซียส โคโลนิอาเลส’ ในเมืองตุงฆา สายลับอ้างถึงที่พักแห่งนี้เพราะสืบข่าวมาได้ว่า มีอดีตทหารนาซีหลบหนีจากเยอรมนีมาพักอาศัยอยู่หลายคน
ในภาพเกรนแตก คุณภาพต่ำ เห็นฮิตเลอร์และอดีตนายทหารซีตรอง มีตัวหนังสือบนภาพเขียนว่า ‘อดอล์ฟ ชึตเทลไมแอร์, โคลอมเบีย, ตุงฆา, อเมริกา เดอ ซูร์ 1954’ (Adolf Schüttelmayer, Columbia, Tunja, America de Sur 1954 – นามสกุลใหม่ที่บาสตีเชื่อว่าฮิตเลอร์ใช้ระหว่างการหลบหนี) เวลาไม่นานจากนั้น ศูนย์บัญชาการซีไอเอในเมืองมาราไคโบ ของเวเนซูเอลา ได้ส่งรายงานเรื่องนี้ไปที่ศูนย์บัญชาการซีไอเอส่วนกลางในกรุงวอชิงตัน
นักประวัติศาสตร์บาสตีอ้างถึงความเชื่อมโยงของสายลับที่ใช้ชื่อรหัสว่า ‘Cimelody-3’ ว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตนายทหารนาซีและบุคคลที่ใช้ชื่อว่าซีตรองอย่างแน่นอน หลังจากภาพถ่ายนั้นถูกนำส่งให้กับซีไอเอ เพื่อคัดลอกให้คุณภาพของภาพดีขึ้น ทว่าไม่เป็นผลสำเร็จ ท้ายที่สุดมันก็ถูกส่งกลับคืนให้เจ้าของ
มีความเป็นไปได้ที่สายลับมีความตื่นตัวที่จะจับกุมหรือลักพาตัวฮิตเลอร์ ในรายงานของบาสตีบอกด้วยว่า สายลับคนนั้นเร่งรัดขอคำตอบจากซีไอเอ ว่าเขาควรจะลงมือปฏิบัติงานได้เมื่อใด ส่วนตัวบาสตีเองนั้น เขาได้รับภาพถ่ายนี้กลับคืนในวันที่ 28 กันยายน เพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่ซีไอเอในโคลอมเบียจะสรุปรายงานส่งส่วนกลาง
แต่ท้ายที่สุด ซีไอเอก็ไม่ได้ปฏิบัติการหรือออกคำสั่งให้ปฏิบัติการอะไรแต่อย่างใด กลับลงความเห็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่น่าเชื่อถือ เป็นปฏิกิริยาเดียวกันกับคนที่ได้อ่านเอกสารข้อมูลที่ยามนี้ถูกเปิดเสรีอย่างเป็นทางการ และสรุปว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์เสียชีวิตจริงแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 1945
และไม่ว่าข้อมูลหรือข้อสมมติฐานไหนก็เปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้
FACT BOX:
ในอีกหลากมุมของฮิตเลอร์
- ฮิตเลอร์เคยเป็นคอมมิวนิสต์ – ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ฮิตเลอร์เคยไปใช้ชีวิตวัยหนุ่มในมิวนิก และมีชีวิตค่อนข้างลำบาก กระทั่งเกิดสงคราม แม้ช่วงนั้นจะทำให้เขามีอยู่มีกินดีขึ้นกว่าเดิม แต่เมื่อสงครามยุติ เขาก็กลับมาข้นแค้นเหมือนเดิม การปฏิวัติของฝ่ายซ้ายในมิวนิกในยามนั้นจึงดูเป็นทางออกที่ดีและเป็นแรงจูงใจสำหรับฮิตเลอร์ในการเข้าร่วม กระทั่งฝ่ายคอมมิวนิสต์โค่นอำนาจการปกครองได้ในวันที่ 13 เมษายน 1919 ฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการกองหนุน อีกทั้งยังมีตำแหน่งสำคัญในพรรคคอมมิวนิสต์
- ฮิตเลอร์เป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์ – คริสต์มาสปี 1937 โยเซฟ เกิบเบลส์มอบของขวัญให้ฮิตเลอร์ เป็นหนังการ์ตูนสั้น 12 เรื่องของดิสนีย์ และบันทึกลงในไดอารีของตนเองว่า ท่านผู้นำดีใจและมีความสุขมากที่ได้ของขวัญชิ้นนี้ ปี 2008 พิพิธภัณฑ์สงครามโลโฟเทน เปิดประมูลภาพวาด 4 ภาพจากงานฝีมือของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นงานวาดเลียนแบบตัวการ์ตูนวอล์ต ดิสนีย์ เช่น พิน็อคคิโอ และคนแคระ 3 ตัวจากเรื่องสโนไวท์ 3 ใน 4 ภาพนั้นมีลายเซ็น A.H. กำกับ
- ฮิตเลอร์ท้องอืดและมีกลิ่นปาก – จากบันทึกของหมอประจำตัวของฮิตเลอร์ เทโอดอร์ โมเรลล์ (Theodor Morell) มีการกล่าวถึงการรักษาอาการท้องอืดของฮิตเลอร์บ่อยครั้ง หมอให้ยาลดแก๊ซในกระเพาะของ Dr. Koester รวมทั้งยา Euflat ด้วย ส่วนกลิ่นปากนั้นมีผลจากโรคปริทันต์ อาหารการกิน และตั้งแต่ปี 1944 ฮิตเลอร์มีอาการปวดบวมจากฟันกรามบนเป็นหนองด้วย
- ฮิตเลอร์มีลูกอัณฑะข้างเดียว – วันที่ 5 ตุลาคม 1916 ฮิตเลอร์ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด หมอจึงผ่าตัดอัณฑะข้างหนึ่งออก เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ที่ชันสูตรศพฮิตเลอร์ลงบันทึกไว้เมื่อปี 1945 และเรื่องนี้ดูเหมือนทหารอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่ 2 จะรู้ดี ถึงกับมีเพลงต่อต้านนาซีเพลงหนึ่งชื่อ Hitler has only got one ball ออกมา และกลายเป็นเพลงดังไปทั่วโลกจากภาพยนตร์เรื่อง The Bridge on the River Kwai (1957)
