“If you want to see the green light, go see it in Greenland”
เขาว่ากันว่า ถ้าอยากเห็นแสงเหนือให้เดินทางไปกรีนแลนด์ (แต่เขาเป็นใครนั้น เราก็ไม่รู้จัก)
แผนการเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น โดยมีปลายทางอยู่ในประเทศที่มีคำว่า ‘แสงเหนือ’, ‘Northern Lights’ หรือชื่ออลังการอย่าง ‘Aurora Borealis’ ตามที่กำกับอยู่บนภาพ
กรีนแลนด์ ดินแดนที่มีชื่อว่าสีเขียว แต่พื้นที่ทุกหย่อมหญ้ากลับถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ ที่มีความเขียวหนึ่งเดียวจากริ้วสีเขียวที่ระบายอยู่บนผืนผ้าใบสีดำขลับบนท้องฟ้า ประเทศหนึ่งในแถบใต้เส้นอาร์กติกเซอร์เคิลเป็นประเทศแรกที่หมอเก๋อปักหมุดไว้ แม้ว่าจะหาข้อมูลจากเว็บไซต์สัญชาติไทยได้น้อยมาก และเมื่อเข้า official website ของกรีนแลนด์ ก็ไม่พบข้อมูลท่องเที่ยวใด นอกเสียจากภาพสวยบาดใจ เร่งเร้าให้เก็บกระเป๋าออกเดินทาง
มุ่งหน้าสู่กรีนแลนด์…
เราเดินทางจากสนามบินกรีนแลนด์ไปยังเมืองอิลูลิสแซท เมืองมรดกโลกจากยูเนสโกที่ขึ้นชื่อเรื่องธารน้ำแข็ง เป็นที่มั่นในการเดินทางมาดูแสงเหนือในครั้งนี้ ด้วยเครื่องบินเล็กส่วนตัวที่เด่นด้วยใบพัดสีแดงสดด้วยระยะเวลา 35 นาที
“แย่หน่อยนะคะ พอดีทัวร์ชมแสงเหนือเราไม่ได้จัดทุกวัน”
เป็นคำตอบจากพนักงานของบริษัททัวร์ท้องถิ่นที่เราได้รับเมื่อถามถึงการเดินทางไปดูแสงเหนือ เป็นไปได้ว่าค่ำคืนนี้ท้องฟ้าอาจจะมีเมฆมาก แต่มันเป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้เห็นแสงเหนือ
เราจึงลองถามทางจากโฮสเจ้าของบ้านที่เราไปพักอาศัยด้วย เผื่อว่าจะสามารถเดินเท้าไปดูได้ด้วยตัวเอง และคำตอบนั้นก็สร้างความหวังให้เราอีกครั้ง เมื่อสถานที่ที่สามารถดูแสงเหนือได้นั้นคือลานเฮลิคอปเตอร์เก่าที่เราสามารถเดินเท้าไปดูได้ด้วยเวลาประมาณ 40 นาที
เวลาประมาณตีหนึ่งหน่อยๆ เราเริ่มเดินเท้าฝ่าความหนาวเย็นแบบต้องร้องขอชีวิตไปตามเส้นทางแห่งความหวัง มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้าน ไปยังลานเฮลิคอปเตอร์เก่า
บรรยากาศของเมืองอิลูลิสแซทเวลานี้ค่อนข้างเงียบเหงาเพราะเป็นฤดูหนาว นานๆ ทีถึงจะมีรถผ่านมาสักคัน
ความหวังของเราเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อเดินออกมาได้ไม่ไกลจากบ้านคนมากนัก จุดสีขาวบนท้องฟ้าก็เริ่มแจ่มชัดขึ้น ระหว่างที่ก้มหน้าเร่งฝีเท้า ก้าวด้วยความรีบเร่งอยู่นั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับแถบสีขาวๆ กำลังเปลี่ยนรูปร่างและเคลื่อนที่ไปมา พาดผ่านอยู่บนท้องฟ้า
แถบแสงสีขาวเรื่อตรงหน้าเรานี้ คือแสงเหนือจริงๆ ด้วย มันแผ่เป็นม่าน เมื่อมองผ่านภาพถ่ายที่เรายกกล้องขึ้นมาเก็บภาพไว้ ก็เห็นว่าขอบบนดูเหมือนจะมีสีแดง แต่ขอบล่างเป็นสีเขียว ทั้งๆ ที่มองด้วยตาเปล่าแทบจะไม่มีสี
หลังจากได้ภาพแล้ว เราเลือกที่จะซึมซับริ้วแสงตรงหน้าด้วยตาเปล่า มองความเคลื่อนไหวของแสงสีขาวกำลังวูบไหวที่ขับเด่นบนฟากฟ้าสีดำขลับ พรางเผลอฮัมบทเพลง
93 million miles from the sun
People get ready, get ready, ‘cause here it comes
It’s a light, a beautiful light
Over the horizon into our eyes
Greenland Skylight โดย คัมภีร์ สรวมศิริ, สำนักพิมพ์ a book เรียบเรียง จินตนา ประชุมพันธ์
FACT BOX:
- เราสามารถเดินทางเข้ากรีนแลนด์ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าจากสถานทูตกรีนแลนด์ แต่กรีนแลนด์เป็นดินแดนปกครองของประเทศเดนมาร์ก ดังนั้น การเข้ากรีนด์แลนด์จึงต้องถือวีซ่าเดนมาร์ก (ซึ่งก็คือต้องถือวีซ่าเชงเก้นอีกทีนั่นเอง)
- เราสามารถเห็นแสงเหนือได้จากประเทศที่อยู่ใต้เส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ประกอบด้วย นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย รัฐอะแลสกา (สหรัฐอเมริกา) แคนาดา ไอซ์แลนด์ และกรีนแลนด์
DID YOU KNOW?
มาทำความรู้จักกับพยานปากสำคัญของหมอเก๋อที่จะมาเล่าว่าเขาได้เอารอยเท้าไปประทับบนหิมะและเอาสายตาไปประทับบนฟากฟ้าที่กรีนแลนด์ได้ในหนังสือ Greenland Skylight: พื้นห่มขาว ดาวห่มเขียว