ในยุคสมัยที่ร้านอาหารและคาเฟ่เกิดขึ้นมากมาย นับได้เป็นรายวัน หลายร้านจึงเลือกที่จะดึงดูดผู้คนด้วยสไตล์และบรรยากาศของร้านมากกว่ารสชาติอาหารและการบริการอย่างที่ร้านอาหารควรจะเป็น แต่ไม่ใช่กับที่นี่ แม้ว่าจุดเริ่มต้นที่จะดึงดูดคุณให้มา Millie Brasserie จะเป็นสวนสวยสไตล์อังกฤษหรือเค้กแสนอร่อยก็ตาม แต่เมื่อได้ฟังความตั้งใจในทุกรายละเอียดของ ‘พลอย’ – ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ เจ้าของร้านคนสวย คุณอาจจะลังเลว่า จะหยิบช้อนส้อมมาตักชิมหรือหยิบกล้องมาถ่ายรูปยำผักกูดตรงหน้าก่อนดี

เธอบอกกับเราว่า เธออยากให้ทุกคนเข้ามาที่ร้านรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้กินอาหารโฮมมี่หน้าตาสวยงามในบรรยากาศร่มรื่นและมีชีวิตชีวา แต่เรากลับรู้สึกว่าความโฮมมี่ที่แท้จริงของ Millie Brasserie นั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่รสชาติและคุณภาพของอาหารเท่านั้น หากแต่เป็นความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของคนในครอบครัว ที่ทำให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้

การบริการที่คอยถามไถ่ถึงความสะดวกจากคุณพ่อ ความสวยงามจากการจัดและตกแต่งร้านของคุณแม่ การสอบถามรับฟังคำติชมจากลูกค้าของพี่ชาย การบริการอาหารจากพี่สาว และเครื่องดื่มที่มาจากความถนัดของลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งแม้เธอจะบอกว่าไม่มีเหตุผลทางความหมายของการตั้งชื่อร้านว่า Millie (อ่านว่า มิลลี่) ไปมากกว่าความรู้สึกที่ว่า เวลาออกเสียงหรือเขียนคำนี้ออกมาแล้วเข้ากันดีกับความเป็นร้านที่สุด เราก็แอบคิดว่า Millie นี้ อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคำว่า Family ไม่มากก็น้อย

WHAT YOU SHOULD KNOW

“เดิมทีเราเป็นหุ้นส่วน เป็นผู้วางหลักสูตรและเป็นคุณครูสอนทำอาหารอยู่ที่ a little something ตอนนั้นยังไม่ได้คิดจะมีร้านอาหาร ซึ่งจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านจริงจังมาจากคุณพ่อท่านอยากทำร้านอาหาร อยากบริการ อยากมอบความสุขให้คนอื่นๆ และพอดีกับที่ได้มาเจอที่ตรงนี้ พวกเราก็รู้สึกชอบมาก ใช่เลย ด้วยบรรยากาศบ้าน ต้นไม้และอะไรหลายๆ อย่าง

“จากโครงสร้างบ้านหลังเดิม เราปรับเปลี่ยนข้างในใหม่ สร้างเรือนกระจกด้านหน้าและด้านข้างเพิ่มขึ้นมา เรื่องการตกแต่งภายในจะเป็นคุณแม่และญาติๆ ช่วยตกแต่ง ซึ่งคอนเซ็ปต์ของบรรยากาศร้านโดยรวม เราอยากให้มีสไตล์เป็นสวนอังกฤษผสมกับวินเทจ แต่ไม่ใช่วินเทจที่หวานเลี่ยนขนาดนั้น และเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยต้นไม้ในร้าน เราอยากให้ทุกคนเข้ามาแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้กินอาหารโฮมมี่ที่หน้าตาสวยงามกว่าการทำกินเองที่บ้าน

“ส่วนเรื่องอาหารทางร้านมีทั้งอาหารไทยและฝรั่ง เราเริ่มจากการเลือกเมนูที่ชอบเป็นหลัก (หัวเราะ) และความที่ครอบครัวเราเป็นคนใต้ ก็จะมีเมนูอาหารใต้มากหน่อย เป็นเมนูที่บ้านเราชอบกินและก็อยากให้คนอื่นได้ลองกินด้วย ซึ่งชื่อเมนูอาจจะเหมือนที่อื่น แต่รับรองว่าหน้าตาและรสชาติจะคนละแบบ เป็นสูตรที่บ้านเราดัดแปลงเอง หลายเมนูลูกค้าได้ลองแล้วก็ชอบ พอเราได้รับฟีดแบ็กแบบนี้ก็มีความสุข”

EAT THIS

เริ่มต้นด้วยเมนูที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงอย่าง ยำผักกูดไข่นกกระทาลาวา (195 บาท) ประกอบด้วย ผักกูด หมูสับ กุ้ง ไข่นกกระทาลาวา และหอมแดง เสิร์ฟพร้อมกับดอกไม้ที่กินได้ อย่างพวงชมพูและอัญชันที่ทางร้านปลูกเองในสวน ครบรสด้วยน้ำยำปรุงพิเศษที่ให้รสชาติกลมกล่อมทั้งเปรี้ยวหวานเค็มและเผ็ดในคำเดียว ทำเอามนุษย์ไม่กินผักอย่างเราตกหลุมรักผักกูดและเมนูนี้เข้าอย่างจัง

ต่อด้วย แกงรัญจวน (185 บาท) ที่ครบรสทั้งเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดและยังหอมกะปิสุดๆ เป็นแกงที่ใช้สันคอหมูสไลด์ พร้อมด้วยตะไคร้ที่ต้มจนสามารถกินได้ แล้วต้องไม่ลืมสั่ง หมูคั่วกะปิสูตรลับของตระกูล (185 บาท) แสนอร่อย เคล็ดลับอยู่ที่การเลือกใช้ส่วนเนื้อสามชั้นของหมูเลี้ยงตัวเล็กซึ่งจะให้หนังที่นุ่ม รวมถึงการใช้กรรมวิธีเคี่ยวกว่า 40-60 นาที ให้ชิ้นหมูมีรสชาติกะปิเข้าเนื้อเต็มคำ เสิร์ฟพร้อมหอมแดง พริกซอย แตงกวา และผักชี

เพราะเป็นแฟนพันธุ์เค้กแครอตมาแต่ไหนแต่ไร แค่คำแรกที่ได้ชิม Walnut Carrot Cake (165 บาท) ความหวานฉ่ำจากเนื้อเค้กและแครอตเข้ากันดีกับครีมชีสเข้มข้นที่ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและเพิ่มกลิ่นด้วยผิวมะนาวให้ความสดชื่น เราก็ไม่สงสัยถึงเหตุผลที่ใครต่อใครต่างเทใจให้เค้กแครอตของที่นี่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยได้กินมา

และด้วยความตั้งใจของทางร้านที่อยากให้ทุกเมนูคาวหวานมีสไตล์การนำเสนอที่แตกต่าง ทำให้ Panna Cotta with Sause & Fresh Fruit (175 บาท) ออกมาสวยงามและหอมอร่อยสมหน้าตา และถ้ากระเพาะของหวานของคุณยังไหว ลองสั่ง Soft Baked Double Choc Cookie with Ice-cream (225 บาท) หรือ Fresh Baked Waffle with Ice-cream & Fruit (225 บาท) วาฟเฟิลเนื้อบางเบากรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล วิปครีมกลิ่นวานิลลา และคาราเมลสูตรพิเศษของทางร้าน ส่งท้ายมื้ออร่อยอย่างสวยงาม

DRINK THIS

แม้จะอยู่ในช่วง Soft Opening แต่ถ้าถามถึงเครื่องดื่มพิเศษของทางร้าน เราอยากให้เริ่มจากเมนู Orange Juice (95 บาท) นอกจากจะใช้ส้มคัดสรรพันธุ์พิเศษแล้ว ก่อนจะนำไปคั้นสดและแช่เย็นให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งจนพร้อมเสิร์ฟ ส้มแต่ละลูกจะต้องผ่านการล้างน้ำถึง 3 น้ำด้วยกัน ให้ความสดชื่นตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิม

จากนั้นสั่ง Double Melon Soda (100 บาท) ที่นอกจากจะใช้ไซรัปหอมหวานสูตรพิเศษ จากการผสมไซรัปแตงโมและเมลอนแล้ว ยังมีเนื้อแตงโมสดๆ ใส่เข้าไปเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย แล้วปิดท้ายด้วยการสั่ง Hot Cappuccino มาดื่มคู่กับเมนูขนมหวาน

MY HAPPINESS

“เราเชื่อและทุกคนที่ทำร้านอาหารก็คงเชื่อเหมือนกันว่า ทุกสิ่งที่เราทำนั้นเกิดจากความตั้งใจในทุกรายละเอียด เราอยากให้คนที่มาเกิดความประทับใจ มีความรู้สึกดีๆ กลับไป”

Millie Brasserie
Open: 11.30-22.00 น. (ปิดวันจันทร์)
Address: ซอยพหลโยธิน 12 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
Budget: 95-500 บาท
Parking: มีลานจอดรถ
Map:

Tags: , ,