ทีมนักวิจัย เผยแพร่งานวิจัยว่าด้วยเรื่องโลกร้อนและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อชายหาดในส่วนต่างๆ ของโลก ในวารสาร Nature Climate Change โดยกล่าวว่า ชายหาดกว่าครึ่งในโลกจะจมหายไปภายในปี 2100 เหตุจากโลกร้อน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และแม้ว่ามนุษยชาติจะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน แต่ชายหาดก็ยังจะหายไปประมาณหนึ่งในสามของโลกอยู่ดี 

ประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือออสเตรเลีย เพราะมีชายหาดความยาวเกือบ 15,000 กิโลเมตร ซึ่งในอีก 80 ปีข้างหน้าอาจจะหายไป ตามด้วยแคนาดา ชิลี สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก จีน รัสเซีย อาร์เจนตินา อินเดียและบราซิล ซึ่งหนึ่งในสามของชายหาดที่อาจจะหายไปเหล่านี้ เป็นบริเวณที่มีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น 

โดยนักวิจัยคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดไว้ 2 กรณี กรณีแรกเรียกว่า RCP8.5 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในระดับร้ายแรง ในกรณีที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเลย ซึ่งส่งผลให้ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกเพิ่มสูงขึ้น โดยในกรณีนี้ภายในปี 2100 โลกจะสูญเสียชายหาดไปประมาณ 49.5 เปอร์เซ็นต์ของหาดทรายทั้งหมด หรือประมาณ 132,000 กิโลเมตร

อีกกรณีคือ RCP4.5 อาจจะไม่เลวร้ายเท่ากรณีแรก แต่อุณภูมิก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 3 องศาเซลเซียส (แต่ก็ไม่บรรลุผลตามข้อตกลงปารีสที่พยายามจะจำกัดอุณหภูมิไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา) จะทำให้ชายหาดหายไปประมาณ 95,000 กิโลเมตร ภายในปี 2100 

กลุ่มที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ (IPCC) ออกรายงานในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า หากเป็นไปตามกรณี  RCP4.5 ระดับน้ำทะเลภายในปี 2100 จะสูงขึ้นประมาณครึ่งเมตร แต่หากเป็นในกรณี RCP8.5 ภายในปี 2100 ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 84 ซม. 

แต่ถึงอย่างนั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทั้งกรณี RCP8.5 และ RCP4.5 ก็ยังคงเป็นการประเมินในแบบมองโลกในแง่ดีอยู่ ความเป็นจริงนั้นเหตุการณ์อาจจะเลวร้ายกว่าที่ประเมินถึงสองเท่าก็เป็นไปได้ 

 

ที่มา:

https://www.sciencealert.com/half-the-world-s-beaches-we-know-and-love-today-could-be-gone-by-2100

https://www.nature.com/articles/s41558-020-0697-0

https://time.com/5793668/sandy-beaches-climate-change/

ภาพ : GAIZKA IROZ / AFP

Tags: