ปี พ.ศ. 2555 Getsunova ปล่อยซิงเกิล ไกลแค่ไหนคือใกล้ ทำให้พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตก ยอดวิวในยูทูปทะลุร้อยล้านวิวในเวลาอันรวดเร็ว สื่อให้ความสนใจขอสัมภาษณ์ งานวิ่งรุมเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

          ก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบไม่ได้ไปต่อในวงการเพลง ไม่ว่าจะปล่อยเพลงอะไรออกมาล้วนแล้วแต่ ‘แป้ก’ จนเพลงไกลแค่ไหนคือใกล้ เป็นความหวังสุดท้าย ถ้ายังแป้กอีก ทั้ง 4 คนคงแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่น

          โชคดีว่ามันดังและประสบความสำเร็จ ทำให้ชีวิตของพวกเขาพลิกผัน กลายเป็นศิลปินอาชีพอย่างเต็มตัว มีคนรู้จัก มีแฟนเพลง และงานจ้าง

          สมาชิกวง เนม-ปราการ ไรวา ร้องนำ, นาฑี โอสถานุเคราะห์ มือกีตาร์, ณต-ปณต คุณประเสริฐ มือกีตาร์ และซินธิไซเซอร์ และไปรท์-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ มือกลอง แม้ทั้งสี่คนจะโดนตั้งคำถามถึงความเป็นลูกหลานนามสกุลดัง เป็นวงดนตรีไฮโซบ้างแต่พวกเขาก็ยังทำเพลงเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเองต่อไป

          ปี พ.ศ. 2559 Getsunova ปล่อยสตูดิโออัลบั้ม The First Album มีเพลงฮิตๆ เช่น ไกลแค่ไหนคือใกล้ คนไม่จำเป็น เหตุผลที่ไม่มีเหตุผล และคำถามซึ่งไร้คนตอบ

          และปี พ.ศ. 2561 พวกเขากำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ‘Getsunova Concert Atmosphere’ ซึ่งเปรียบเสมือนรางวัลแห่งความพยายามตลอด 12 ปีในวงการเพลง

จากซ้ายไปขวา: ไปรท์-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ มือกลอง, นาฑี โอสถานุเคราะห์ มือกีตาร์, เนม-ปราการ ไรวา ร้องนำ และณต-ปณต คุณประเสริฐ มือกีตาร์ และซินธิไซเซอร์

Getsunova Concert Atmosphere’  คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวงที่กำลังจะมีขึ้น มันเป็นเหมือนความฝันเลยไหมครับ หลังจากพิสูจน์ตัวเองมาหลายปี

          เนม: เหมือนฝันที่ใกล้จะเป็นจริงมากๆ เป็นไมล์สโตนของวงที่เรารอคอยมานาน เวลาไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินอื่นเราจะคิดว่าพวกเขาเจ๋งดี อยากมีแบบนี้บ้าง เพราะเป็นอย่างเดียวในชีวิตนักดนตรีที่เรายังไม่เคยทำ คือเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่ทุกคนตั้งใจมาดูเราจริงๆ มันท้าทาย กดดัน และตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

          นาฑี: เราอยู่ในวงการเพลงมาสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่มีคอนเสิร์ตของตัวเอง และเราเพิ่งจะมีอัลบั้มของตัวเองไป ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของวงเรา

          ณต: เป็นบททดสอบว่าคำว่าแฟนเพลงกับแฟนคลับ คือจะมีสักคนกี่คนที่มาดูเรา อาจจะมีคนที่ชอบเพลงเรา ชอบรูปลักษณ์ภายนอกของเรา แต่คอนเสิร์ตนี้จะวัดกันว่าเขาชอบอะไรในความเป็นเรา และเราก็วัดตัวเราเองด้วย

          ไปรท์: ผมว่าเป็นเหมือนถ้วยรางวัล คือนักดนตรีทุกคนมีสองอย่างที่อยากได้และวัดความสำเร็จคือ อัลบั้มกับคอนเสิร์ต หลังจากเราเดินทางมาเป็นสิบปี คงถึงเวลาที่เราจะได้รับมัน

เนม-ปราการ ไรวา ร้องนำ

หลังจากเพลงไกลแค่ไหนคือใกล้ จนทำให้พวกคุณดังมากๆ จนถึงตอนนี้ ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

          เนม: ก่อนจะมีเพลงไกลแค่ไหนคือใกล้ เราทำเพลงกันมาหลายปี วงเราก็ไม่ได้มีงานเยอะแยะ ไปร้องเพลงที่ไหน ไม่ได้รับรู้ถึงความเป็นศิลปินจริงๆ พอมีเพลงที่คนรู้จัก ได้ทำงานมาเรื่อยๆ ก็เรียนรู้้พัฒนาตัวเองมากขึ้นกับแฟนคลับ การวางตัว หลายอย่างมันเปลี่ยนไป ทำให้เราโตขึ้น การที่ได้ทำงานตรงนี้

          ณต: โชคดีว่าพี่พล (คชภัค ผลธนโชติ อดีตสมาชิกวงแคลช) มาช่วยเรา ในเรื่องของการปรับตัว เพราะเขาเคยมีประสบการณ์มาก่อน ก็เล่าและสอนเราในเรื่องวิธีการทำงานในสตูดิโอ การทัวร์คอนเสิร์ต วิธีการพูดกับคนในงานต่างๆ ที่เขาจ้างเราไปเล่น หลายอย่างที่เราไม่รู้่มาก่อน ก็เตรียมพร้อมให้ดีที่สุด เพราะมีรายละเอียดเยอะมาก แต่แน่นอน เราต้องซ้อมเยอะขึ้น สคริปต์ต้องเป๊ะ เพราะเราต้องรู้ว่าสถานบันเทิงแต่ละที่มีรูปแบบอย่างไร ความคาดหวังของคนดูก็ไม่เหมือนกัน

ณต-ปณต คุณประเสริฐ มือกีตาร์ และซินธิไซเซอร์

เนื้อเพลงหรือชื่อเพลงของวง Getsunova มักจะมีคำตรงข้ามกัน หรือไม่ก็คำซ้ำมาอยู่ด้วยกัน

          ณต: เราอ่านหนังสือเห็นเขาใช้กันเยอะ คิดว่าไม่มีใครทำ แปลกดี ก็ลองเอามาใส่ในเนื้อเพลง พอแต่งเพลงที่ิมันไม่มีคำแบบนี้เลยจะรู้สึกว่าดูธรรมดามาก เลยต้องติดอะไรให้มันหน่อย แล้วทำให้้เพลงมันสะดุดตา คือมีคนเรียกว่าชื่อเพลง โคตรเก็ตสึ เป็นการใช้คำเดียวกันอยู่ด้วยกัน เช่น  อยู่ตรงนี้ นานกว่านี้, ชีวิตที่ไม่มีชีวิต, รู้ดีว่าไม่ดี เป็นคำเดียวกันแต่สองความหมาย

          ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำแบบนี้ แล้วพอทำก็คิดว่าดีอยู่กับเราไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เพลงแรก ไกลแค่ไหนคือใกล้ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเรื่องมาก่อนแล้วหาคำที่เข้ากันได้

          ไปรท์: คือเพลงไหนที่ฟังชื่อเพลงแล้วงงในครั้งแรก นั่นแหละคือเพลงแบบเรา (หัวเราะ)

นาฑี โอสถานุเคราะห์ มือกีตาร์

ก่อนที่จะดังอย่างทุกวันนี้ เคยมีประสบการณ์แย่ๆ ในการเล่นคอนเสิร์ตบ้างไหม

          เนม: ผมว่าเป็นเรื่องของความมั่นใจ เวลาร้องเพลง ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ แค่มีงาน เราก็ดีใจแล้ว แต่มาพร้อมกับความกลัว และความระแวงหลายอย่าง กังวลว่าคนดูจะชอบเราไหม คนจะร้องตามเราได้ไหม ซึ่งไม่เหมือนทุกวันนี้ที่เขาพร้อมจะร้องเพลงตามเรา เป็นความสุขแท้จริงที่เรารับรู้ได้

          ไปรท์: ผมว่าไม่ได้แย่มากนัก เราไม่ได้คาดหวังว่าเราไปเล่นแล้วคนจะร้องตามได้  เพราะก่อนหน้านั้นเราไม่ได้ดัง คงไม่เท่าทุกวันนี้ ถ้ามีคนที่ร้องเพลงเราไม่ได้ คงรู้สึกแย่กว่าเยอะ

ไปรท์-คมฆเดช แสงวัฒนาโรจน์ มือกลอง

มองทิศทางของวงนับจากนี้ไปไว้อย่างไร

          ณต: เราทำหลายอย่างอยู่แล้ว ก็คงทำเพลงไปเรื่อยๆ แต่พยายามไม่ให้มันล้าสมัย อาจจะผสมความเป็นฟังก์ ฮิปฮอป เข้าไปเกี่ยวด้วย ตอนนี้เจอจุดที่ซิงก์กับแฟนเพลงแล้ว แต่อยากเจอแฟนเพลงใหม่ๆ ด้วย เพราะ 4 ปีที่แล้ว เราได้แฟนเพลงวัยรุ่น แต่ตอนนี้เราโตขึ้น คงไม่เป็นวัยรุ่นแล้ว โจทย์คือการทำเพลงที่ยังอยู่กับวัยรุ่นได้

เรียนรู้อะไรจากการเป็นศิลปินตลอด 12 ปีที่ผ่านมา

          เนม: คงเป็นเรื่องความมีวินัย เวลามีงานคอนเสิร์ต เราป่วยไม่ได้ ไม่สามารถที่จะลาได้ ยกเว้นเรื่องคอขาดบาดตายจริงๆ เราต้องฟิตและพร้อมที่จะแสดง เพราะคนที่จ้างเราไปก็ลงทุนไปประมาณหนึ่ง คาดหวังว่าเราจะทำให้งานเขาสมบูรณ์แบบ เรื่องอารมณ์ส่วนตัวในช่วงเวลานั้น ต้องเก็บมันเอาไว้ก่อน ช่วงเวลาที่เราอยู่บนเวทีจะงอแงไม่ได้ หน้าที่ของเราคือการทาำงานให้ดีที่สุด ยิ่งทุกวันนี้ด้วยอำนาจของโซเชียลมีเดีย มีผลกระทบทั้งด้านดีและไม่ดี เวลาเราอยู่ในพื้นที่สาธารณะต้องทำตัวให้ดีที่สุด

          นาฑี: สำหรับผม ชีวิตที่ต้องเป็นศิลปินไม่ค่อยเหมือนอาชีพอื่น ตารางชีวิตเราจะนอนดึก หรือไม่ก็ทำงาน พฤหัส ศุกร์ เสาร์ ทำให้ไม่ค่อยได้เจอเพื่อนๆ ที่ทำงานประจำ เหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ีงที่แบบเราว่าง เขาไม่ว่าง พออยู่แบบนี้รู้สึกเหงาๆ โชคดีว่าในวงเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน

          ณต: ผมว่าศิลปินต้องอยู่กับยุคสมัยให้ได้ เราอยู่มานานพอสมควร ก็พอเข้าใจกฎเกณฑ์บางอย่าง พอเปลี่ยนยุค เราแก่ขึ้น ทำอย่างไรให้คนยุคใหม่และคนยุคเดิมก็ยังชอบเราอยู่ โจทย์มันยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าได้แฟนเพลงคนยุคนี้แล้ว ยุคต่อมาจะไม่ต้องสนใจ เราต้องเก็บคนทุกคนที่ชอบเราไว้ให้ได้ ให้้เขาไม่เบื่อ รู้สึกว่าไม่ได้ย่ำอยู่กับที่

          ไปรท์: คงไม่พ้นคำว่าระเบียบวินัย และความรับผิดชอบ ที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ

Fact Box

  • คอนเสิร์ต ‘Getsunova Concert Atmosphere’ จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2561 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี บัตรราคา 3,000 บาท 2,000 บาท และบัตรยืน 1,300 บาท จำหน่ายบัตรที่ ThaiTicketMajor.com
Tags: ,