ในศิลปวัฒนธรรมตะวันตก ‘ผู้ชายได้มองผู้หญิง ส่วนผู้หญิงได้เห็นตัวเองถูกมอง’ หรืออย่างน้อย จอห์น เบอร์เกอร์ (John Berger) นักเขียนชาวอังกฤษ ก็วิพากษ์สื่อตะวันตกเอาไว้เช่นนั้นใน Way of Seeing (1972) สารคดีปลายยุคฮิปปี้เรื่องดัง
ปัจจุบันนักอ่านนักดูทั้งหลายที่ฝักใฝ่อยากรู้เรื่อง Male Gaze ไม่จำเป็นต้องไปหาอ่านตัวบทวิชาการชิ้นคลาสสิกของ ลอรา มัลวีย์ (Laura Mulvey) เพราะทุกวันนี้ แม้แต่สื่อกระแสหลักก็สนใจหัวข้อสายตาของผู้ชายที่กุมบังเหียนกำหนดทิศทางการผลิตสื่อทั่วโลกมาอย่างยาวนาน เมื่อพูดถึงสื่อที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของ Male Gaze คนส่วนใหญ่นึกออกแทบทันทีว่า หน้าจอจะฉายภาพอะไร กล้องจะแพนไปที่ส่วนไหน เพื่อสร้างอารมณ์แบบใดบ้าง
แน่นอนว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง ย่อมเกิดคำถามถ่วงดุลเสียงวิจารณ์ Male Gaze ขึ้นด้วย
“สังเกตไหมว่า ไม่มีใครหรือแม้แต่ผีตัวไหนบ่นเรื่อง Female Gaze บ้างเลย” บัญชี X ผู้ใช้ชื่อว่า No room for wokeness! กล่าวพร้อมแนบหลักฐานแสดงตัวเหยื่อ Female Gaze เป็นรูปวูล์ฟเวอรีนนุ่งน้อยห่มน้อย เบ่งกล้ามอวดสายตาผู้ชมในฉากต่อสู้

(ที่มา: IMDb/The Wolverine, 2013)
แล้วนั่นก็นำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบกลับสารพัดแบบ หนึ่งสิ่งที่หลายคนเห็นตรงกันจนเกือบจะเป็นเอกฉันท์คือ หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มสไตล์แมสคิวลีนกับกล้ามท้องแน่นปึกของ ฮิวจ์ แจ็กแมน (Hugh Jackman) นั้นมิใช่ผลพวกของ Female Gaze แต่เป็นภาพแทนของยอดชายตามขนบที่ผู้ชายตะวันตกยุคหนึ่งต่างปรารถนาจะเป็นต่างหาก
ซึ่งไม่ได้หมายความว่า Female Gaze ไม่มีอยู่จริง แค่อาจไม่ใช่สายตาโลมเลียค้างเติ่งอยู่ตามกล้ามหน้าท้องหรือเป้ากางเกงอย่างที่ผู้ชายหลายคนคาดคิดเท่านั้นเอง
เมื่อผู้หญิงได้เป็นฝ่ายมอง
คำว่าสายตาหรือ Gaze ไม่ได้สื่อถึงเพศของผู้มอง การที่คนดูเป้าหมายหรือผู้สร้างผลงานชิ้นหนึ่งๆ เป็นผู้ชาย จึงไม่ได้หมายความว่า ผลงานชิ้นนั้นจะต้องตกอยู่ใต้อิทธิพล Male Gaze เสมอไป และในทำนองกลับกัน ผลงานที่มีคนดูเป้าหมายหรือผู้สร้างเป็นหญิงก็มิได้หมายความว่า จะมองผ่าน Female Gaze
Gaze คือวิธีการมองที่เกิดจากโครงสร้างอำนาจและวัฒนธรรมแบบหนึ่ง แล้วจากนั้น ผลงานที่ผลิตออกมาก็จะกลับไปส่งเสริมและตอบรับกับระบบนั้นๆ ต่อไป ชิ้นงานที่ผลิตขึ้นภายใต้ระบบชายเป็นใหญ่ โดยผู้สร้างที่เห็นดีเห็นงามกับระบบชายเป็นใหญ่ (ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว) จะมอบอำนาจและความสามารถกระทำการ (Agency) ต่างๆ ให้กับตัวละครชาย ขณะลดทอนอำนาจของตัวละครหญิงและจับพวกเธอแยกชิ้นส่วนด้วยมุมกล้องยกสูงขับเน้นหน้าอก เสยใต้กระโปรง หรือซูมใกล้อวัยวะที่แฝงนัยทางเพศอย่างริมฝีปาก ลิ้น สะโพก หรือหว่างขา
แต่เนื่องจาก Female Gaze ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ที่ต้องการปลดเปลื้องอำนาจจากเพศชายจนหมดสิ้น แล้วแย่งชิงมา งานที่มองผ่านสายตาของผู้หญิงจึงไม่ได้จับตัวละครชายแต่งตัวโป๊เปลือย หรือลดทอนบทบาทผู้ชายให้เหลือแค่วัตถุทางเพศเพื่อแก้แค้น

(ที่มา: Shutterstock/Pride and Prejudice, 2007)
อันที่จริง ตัวละครชายที่กุมใจคนดูหญิงได้อยู่หมัด มักเป็นแต่งตัวมิดชิดเสียด้วยซ้ำ ลองนึกถึงมิสเตอร์ดาร์ซี ชายปากหนักผู้ตกหลุมรักหญิงที่ตนเคยปรามาสว่าน่าเบื่อ ฮาวล์ พ่อมดเจ้าของปราสาทเวทมนตร์ผู้มีอารมณ์อ่อนไหวเข้าใจยาก หรือโลกิ เทพวายร้ายที่ถูกสร้างมาให้เป็นลูสเซอร์ขี้อิจฉาพี่ชาย แต่กลับมีความเปราะบางและซับซ้อนบางอย่างที่สามารถละลายใจสาวๆ ในแฟนดอมมาร์เวลได้ ในระดับที่ธอร์ พระเอกผมทอง กล้ามแน่น ทรงพิมพ์นิยมสุดๆ ยังต้องแพ้
ตัวอย่างข้างต้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อเรามองเรื่องราวต่างๆ สายตาแบบสตรีนิยม เสน่ห์ของตัวละครชายไม่ได้มาจากแค่ร่างกาย แต่ยังมาจากตัวตน ความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ และความฝันของพวกเขาด้วย แม้ว่าจะเป็นแค่บทเลิฟไลน์ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนเส้นเรื่องหลักก็ตาม
นอกเหนือจากวงการบันเทิงแล้ว Male /Female Gaze ยังปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนด้วย โดยเฉพาะในโลกยุคหลังโซเชียลมีเดียที่การจัดวางภาพลักษณ์ คัดสรรคอนเทนต์ และควบคุม ‘เทสต์’ ที่แสดงให้เห็นบนโปรไฟล์ส่วนตัวกลายมาเป็นกลไกสำคัญในการเข้าสังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ แนวคิดที่ว่า “Female Gaze มองผู้ชายเป็นมนุษย์ ไม่ใช่วัตถุทางเพศ” กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชัน TikTok หลังชายหนุ่มหลายรายทำคลิปสั้นขอให้คนดูช่วยให้คำแนะนำว่า ควรใส่อะไรในโปรไฟล์แอปฯ หาคู่พวกเขาพยายามทำทุกทางให้ตัวเองดูเป็นผู้ชายที่น่าดึงดูดตามขนบเดิมๆ ของสังคม เช่น ใช้ภาพถ่ายอวดกล้ามแน่น หรือระบุอาชีพของตนที่ดูมีรายได้ดูมั่นคง แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นอย่างหวัง
ผู้หญิงเข้ามาให้คำตอบจากมุมมองของตนเองว่า แทบไม่ได้โฟกัสที่รูปลักษณ์เท่าไร ผิดกับที่ผู้ชายคิดเอาไว้ โดยพวกเธอมักตีความจากบริบทต่างๆ ที่แฝงมากับภาพมากกว่าเนื้อหาที่ระบุมาตรงๆ เช่น
“ผู้ชายในรูปที่โชว์กล้ามดูเป็นผู้ชายประเภทที่จะนอกใจฉันแน่นอน”
“เอาจริงๆ ผู้ชายด้วยกันมากกว่านะที่จะประทับใจภาพแนวนี้”
อเลฮานโดร (Alejandro) หนุ่มวัย 29 ปี คือผู้ใช้รายหนึ่งที่มักลงรูปเปลือยท่อนบนโชว์กล้ามในแอปฯ หาคู่มา เขาให้สัมภาษณ์กับ Refinery29 ว่า เขาสงสัยมาโดยตลอดว่า ทำไมเวลาไม่ได้ลงรูปถอดเสื้อ หรือลงรูปในช่วงที่กล้ามไม่ได้แน่นสวยเท่าไร เขาดันแมตช์กับผู้หญิงมากกว่าช่วงที่กล้ามฟิตที่สุดเสียอีก
ดร.แคลร์ ฮาร์ต (Claire Hart) รองศาสตราอาจารย์ด้านจิตวิทยาสังคมและบุคลิกภาพจาก University of Southampton ระบุว่า อ้างอิงจากผลสำรวจ ผู้หญิงพิจารณาบริบทที่แฝงมากับภาพถ่ายที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร มากกว่าพิจารณาว่าอีกฝ่ายรูปร่างดีแค่ไหน
“ทั้งผู้หญิงและผู้ชายย่อมรู้สึกว่า คนที่มีรูปร่างดีมีเสน่ห์กว่าคนรูปร่างไม่ดีอยู่แล้ว วิวัฒนาการทำให้เรามองเห็นสัญญาณของความแข็งแกร่งจากลักษณะเหล่านี้ ซึ่งเชื่อมโยงกับโอกาสในการมีชีวิตรอดที่สูงขึ้น
“แต่ถ้าเราไม่ได้รู้เรื่องอื่นๆ นอกจากรูปร่างและความฟิตที่เห็นจากภาพบนโปรไฟล์เลย ลักษณะผิวเผินบางอย่างที่ปรากฏให้เห็นอาจส่งผลให้เรารู้สึกดึงดูดกับคนคนนี้น้อยลง เช่น เราอาจคิดไปถึงว่า คนคนนี้หมดเปลืองเวลาไปกับการฟิตร่างกายมากมายขนาดไหนกันนะ แล้วแบบนี้เขาจะอยากเข้ายิมมากกว่าอยู่กับเราไหม เขาเป็นพวกหลงตัวเองหรือยึดติดกับรูปลักษณ์หรือเปล่า”
ซึ่งเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องสายตาแบบ Female Gaze ทั้งในสื่อบันเทิงและในชีวิตประจำวัน ที่ไม่ได้ยึดรูปร่างหน้าตาของคนเป็นสรณะ แต่รู้สึกดึงดูดกับคนที่มีมิติต่างๆ ให้ค้นหา และมีความเป็นคนจริงๆ
อ้างอิง
https://www.refinery29.com/en-gb/2021/08/10577988/tik-tok-dating-app-profile-feedback
https://twssmagazine.com/2022/06/09/the-female-gaze-the-theory-behind-the-tiktok-trend/
https://x.com/Wokenessisevil/status/1945891285300056195
Tags: ผู้ชาย, Female Gaze, ตัวละคร, Gender, ผู้หญิง, Male gaze