***Warning: เนื้อหาต่อไปนี้กล่าวถึงพฤติกรรมใคร่เด็กและความสัมพันธ์เชิงชู้สาวภายในเครือญาติ ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านที่อ่อนไหวต่อประเด็นดังกล่าวรู้สึกไม่สบายใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ***
จะบอกว่าสังคมเราไม่เคยรับรู้ถึงเนื้อหาที่ส่งเสริมพฤติกรรมใคร่เด็กที่ซุกซ่อนอยู่ตามมุมอับของโลกอินเทอร์เน็ตก็คงไม่เชิง คนรุ่นเราส่วนใหญ่ หากไม่เคยได้ชมสารคดี ก็ต้องเคยอ่านหนังสือ หรืออย่างน้อยก็เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพื้นที่ในดาร์กเว็บ (Dark Web) ที่ถูกใช้เป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ละเมิดเด็ก โดยที่ผู้ใช้ไม่ถูกจับง่ายๆ เนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ของเว็บเหล่านี้ล้วนต้องอาศัยซอฟต์แวร์พิเศษในการเข้าถึง อัตราสำเร็จของการปกปิดตัวตนจึงสูงลิ่ว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะสังคมมองพฤติกรรมใคร่เด็กเป็นอาชญากรรม เป็นเรื่องน่าละอายละอายใจที่ไม่ว่าใครก็ต้องการปกปิด แต่มาวันนี้ บนแพลตฟอร์มโซเชียลฯ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายๆ อย่าง Facebook เรากลับพบกลุ่ม ‘ด้านมืด ในครอบครัว’ ที่เติบโตขึ้นมาเป็นคอมมูนิตี้สาธารณะสำหรับแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ละเมิดเด็กอย่างโจ่งแจ้งไม่ปิดบัง ด้วยสมาชิกกว่า 3.5 หมื่นคน

ที่มา: @junifactcheck (บัญชีผู้ใช้ X)
และความจริงที่เลวร้ายน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคือ กลุ่มนี้ไม่ใช่เพียงกลุ่มลักษณะนี้เพียงเดียวที่มีจำนวนสมาชิกเหยียบหลักหมื่น
“หลานชายมาช่วยงานที่บ้าน ล่อยังไงให้เขาอยาก”
“ปรึกษาคนมีประสบการณ์กับลูกเลี้ยง”
“อยากข้ามเส้นบางๆ ระหว่างพ่อลูก”
“ขอเทคนิคแอบถ่ายน้องข้างบ้าน”
“ลูกสาวเริ่มมีแฟน ทำยังไงดี”
มีการตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อหาที่ปรากฏส่วนใหญ่จะเป็นโพสต์เนื้อหาล่อแหลมที่ไม่มีรูปภาพ หรือไม่ก็มีเพียงภาพถ่ายธรรมดา ยังไม่เข้าข่ายไม่ล่อแหลม ทำให้ขาดเบาะแสว่า มีอาชญากรรมเกิดขึ้นกับเด็กจริงหรือไม่ หรือกระทั่งว่าผู้โพสต์เป็นผู้ปกครองที่มีเด็กคนดังกล่าวในความดูแลจริงหรือไม่ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนหนึ่งอ้างว่า เรื่องที่ถูกนำมาโพสต์เป็นเพียงจินตนาการทางเพศที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
แต่เราจะสามารถนิ่งนอนใจได้แค่ไหนว่า เด็กที่ส่วนใหญ่แล้วมีตัวตนอยู่จริงเหล่านี้จะปลอดภัยต่อไป หากไม่มีการตรวจสอบ
จินตนาการทางเพศไม่ได้ป้องกัน แต่ยิ่งนำไปสู่อาชญากรรมจริง
อ้างอิงจากผลงานวิจัยของ ซาลลา ฮุยกูริ (Salla Huikuri) นักวิจัยด้านกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ และประธานองค์กรยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก (ECPAT) ชุมชนออนไลน์บนดาร์กเว็บนั้นเปิดช่องทางให้ผู้ใช้เข้าถึงสื่อที่มีเนื้อหาละเมิดเด็ก ซึ่งจะช่วยเสริมแรงสนับสนุน (Peer Support) ให้พวกเขาคิดก่ออาชญากรรมจริงต่อไป
งานวิจัยหลายชิ้นยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ผู้กระทำความผิดคดีละเมิดเด็กส่วนใหญ่มีการติดต่อหรือสามารถเข้าถึงชุมชนของกลุ่มผู้ที่มีความสนใจคล้ายกัน ซึ่งยิ่งเอื้อให้เกิดพฤติกรรมการคุกคามและละเมิดเด็กได้ง่ายขึ้น เพราะเนื้อหาที่แลกเปลี่ยนกันในชุมชนนั้น วาดภาพภาพให้ความรุนแรงทางเพศดูเป็นเรื่องปกติ (Normalization) ผู้กระทำจึงรู้สึกว่า พฤติกรรมของตนเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปกว่าความเป็นจริง
ข้อมูลข้างต้นสอดคล้องกับเนื้อหาที่ปรากฏในกลุ่ม ‘ด้านมืด ในครอบครัว’ และกลุ่มอื่นคล้ายๆ กัน บัญชีผู้ใช้ทั้งที่เปิดเผยตัวตน ใช้บัญชีหลุม หรือปกปิดตัวตนเป็นนิรนาม ไม่เพียงแบ่งปันเรื่องราวของตนเอง แต่ยังส่งต่อวิธีการหรือเทคนิคการหาช่องทางละเมิดเด็กให้แก่กัน
เบื้องต้นหลังจาก X ที่ประณามกลุ่มเหล่านี้ได้รับความสนใจ มีผู้หวังดีจำนวนหนึ่งถ่ายภาพหน้าจอและส่งลิงก์เบาะแสไปยังเพจตำรวจไซเบอร์-บช.สอท. (TICAC) ขณะเดียวกันสมาชิกบางส่วนในกลุ่มก็เริ่มชวนกันอพยพไปอยู่กลุ่มใหม่ จึงน่าติดตามต่อไปว่า จะมีการสืบสวนเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แล้วกระบวนการยุติธรรมจะนำไปสู่ผลลัพธ์แบบใด
กลุ่ม Facebook ที่เปิดเป็นสาธารณะเหล่านี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำเท่านั้น ยังมีเครือข่ายขนาดใหญ่ซ่อนตัวอยู่มากมาย เช่น ในแอปพลิเคชัน Telegram ไปจนถึงแพลตฟอร์มเกมออนไลน์อย่าง Roblox ที่มีผู้ใช้กว่า 40% เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
พื้นที่ในโลกไซเบอร์ถูกใช้เป็นตัวกลางในการสนับสนุนการใช้ความรุนแรงทางเพศต่อเด็ก รวมถึงอาชญากรรมรูปแบบอื่นๆ มาอย่างยาวนานก็จริง แต่องค์การตำรวจสากล (Interpol) ชี้ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ในช่วง 3-5 ปีก่อน ได้ยิ่งช่วยสร้างเงื่อนไขที่เอื้อให้เกิดชุมชนเหล่านี้
นอกจากผู้มีแนวโน้มกระทำความผิดจะมีเวลาใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น เด็กเองก็มีเวลาที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลเพิ่มขึ้น ผู้ปกครองส่วนหนึ่งจึงไม่ทันสังเกตเห็นสัญญาณการถูกล่วงละเมิด หรือในบางครั้งก็กลายเป็นผู้ลงมือละเมิดเด็กเสียเอง โดยเฉพาะในจังหวะที่สังคมภายนอกสอดส่องเข้ามาในครัวเรือนของตนได้ยากขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงขยายวงผู้เสพเนื้อหาลักษณะนี้ให้กว้างขึ้น แต่ยังเป็นข้อยืนยันว่า ชุมชนส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสวัสดิภาพของเด็กบนโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
อ้างอิง
https://x.com/imyoumotothemow/status/1956883174874894445
https://x.com/_monsterart/status/1957075878464061834
https://x.com/junifactcheck/status/1957089983350907344
Tags: สิทธิเด็ก, ใคร่เด็ก, อาชญากรรมไซเบอร์, Intrafamilial Child Sexual Abuse, Online Safety, Gender, Child Sexual Abuse Material, Incest, สวัสดิภาพเด็ก, privacy, Pedophilia, ความรุนแรงในครอบครัว