ฟินแลนด์มีประชากรประมาณ 5.5 ล้านคน สถานการณ์ โควิด-19 ณ วันที่ 22 เมษายน 2563 มีรายงานผู้ติดเชื้อทั้งหมด 4,014 คน เสียชีวิต จำนวน 141คน และมีผู้รักษาหายแล้วจำนวนอย่างน้อย 2,000 คน ในแต่ละวัน สามารถตรวจเชื้อได้มากกว่า 4,000 คน และกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายที่จะตรวจทุกคนที่สัมผัสเชื้อโคโรนาไวรัส
ฟินแลนด์มีการปิดพรมแดนประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศปิดการเดินทางเขตเมือง Uusimaa อยู่ทางใต้ของประเทศที่ครอบคลุมเมือง Helsinki เป็นเวลาสามสัปดาห์ ปัจจุบันได้กลับมาเปิดแล้ว แต่ยังให้ประชาชนระมัดระวังและเว้นระยะห่างทางสังคมกันอยู่ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในฟินแลนด์ร่วมมือกันวิจัยและคิดค้นตัวยาและวัคซีนเพื่อทำให้สถานการณ์ไวรัสดีขึ้น นอกจากนี้ฟินแลนด์ยังประกาศเพิ่มเงินบริจาคให้ WHO อีกหนึ่งล้านยูโรเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563
หลายท่านอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของระบบการศึกษาฟินแลนด์ ว่าเป็นระบบหนึ่งที่มีคุณภาพสูงอันดับต้นๆ ของโลก เบื้องหลังของคุณภาพสูงนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน สถาบันการศึกษาในฟินแลนด์ เอาใจใส่ในการดูแลนักเรียนรายบุคคลเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านการเรียนรู้และสุขภาวะ โดยมีการบรรจุแนวทางการสนับสนุนนี้ ไว้ในหลักสูตรแกนกลางระดับประเทศ หลักการสำคัญของระบบการศึกษานี้คือ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (No one is left behind)” บนพื้นฐานของ “ความเท่าเทียม” ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณค่าที่มีค่าสูงสุดในประเทศฟินแลนด์
เนื่องจากฟินแลนด์เป็นระบบรัฐสวัสดิการ นักเรียนจึงได้รับการสนับสนุนหลายอย่างจากรัฐบาล ดังตัวอย่างเช่น
-
ค่าอาหาร นักศึกษาระดับปริญญาตรีและโท สามารถซื้อและนั่งรับประทานอาหารได้ที่ร้านอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศฟินแลนด์ ได้ในราคา 2.60 ยูโร (ประมาณ 95 บาท) โดยรัฐบาลฟินแลนด์เป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายส่วนเกิน 1.94 ยูโร (ประมาณ 70 บาท) วันละหนึ่งมื้อให้นักศึกษาทุกคน นักศึกษาระดับปริญญาเอกจะซื้อในราคาสูงกว่านิดหน่อยแต่ยังราคาต่ำกว่าของบุคลากร เพราะนับว่าเป็นคนทำงานหรือนักวิจัยของมหาวิทยาลัย ส่วนราคาเต็มของบุคคลทั่วไปคือ 7.90 ยูโร (ประมาณ 285 บาท) (1 ยูโร เท่ากับ 35.60 บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 3 เมษายน 2563)
-
การบริการทางการแพทย์ นักศึกษาระดับปริญญาตรีและโท สามารถเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลของรัฐในหลายสาขาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมถึงรับบริการทำฟันจากทันตแพทย์ในราคาที่น้อยมากๆ
-
ค่ารถไฟและรสบัส นักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมถึงระดับปริญญาโท สามารถซื้อตั๋วได้ในราคานักเรียน ซึ่งบางเส้นทาง ราคาจะถูกลงกว่า 40% จากราคาตั๋วทั่วไปเลยทีเดียว
ทีมผู้เขียน เป็นนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่า จาก University of Jyväskylä พวกเรารวมตัวกันเขียนบทความนี้ขึ้น เพราะพวกเรามีประสบการณ์ใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยและเห็นการใส่ใจดูแลนักศึกษาและบุคลากรมากเป็นพิเศษในช่วงวิกฤตเช่นนี้ พวกเราอบอุ่นใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ให้เป็นประโยชน์ให้ผู้อื่นด้วย
วิกฤตโควิด-19 นี้ ได้รวมความเป็นหนึ่งเดียวของสังคมในฟินแลนด์อย่างพร้อมใจ เพื่อต่อสู้กับไวรัสและปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย University of Jyväskylä เป็นส่วนหนึ่งเช่นกัน โดยบุคลากรของมหาวิทยาลัยพยายามอย่างดีที่สุดที่จะสนับสนุนนักศึกษาและบุคลากรในหลายรูปแบบ ไม่เพียงในด้านการเรียนการสอน แต่ที่สำคัญคือการที่ทุกคนมีสุขภาวะที่ดี แม้นักศึกษาและบุคลากรจะมาจากต่างชาติต่างภาษา ก็สามารถเข้าถึงสวัสดิการได้เหมือนกัน จึงนำไปสู่การไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
การดูแลเอาใจใส่นักศึกษาอย่างดีบนพื้นฐานของความเท่าเทียม การใช้นวัตกรรมให้เป็นประโยชน์ และระบบการบริหารงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ จึงทำให้มหาวิทยาลัยมีความพร้อมมากและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วในยามวิกฤต
การดูแลเอาใจใส่นักศึกษาอย่างดีบนพื้นฐานของความเท่าเทียม การใช้นวัตกรรมให้เป็นประโยชน์ และระบบการบริหารงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ จึงทำให้มหาวิทยาลัยมีความพร้อมมากและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วในยามวิกฤต
เมือง Jyväskylä
Jyväskylä (ยูแวสกุล่า) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตปกครองของฟินแลนด์ตอนกลาง ห่างจากเมืองหลวง Helsinki ไปทางทิศเหนือ 270 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 140,000 คน มีนักศึกษาประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในเมือง ลักษณะภูมิประเทศมีป่าไม้ ล้อมรอบด้วยภูเขา และทะเลสาบหลายร้อยแห่ง ช่วงฤดูร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส ช่วงฤดูหนาวมีอุณหภูมิติดลบมากกว่า 30 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ปลายมีนาคมถึงต้นเมษายน 2563 อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -5 ถึง 10 องศาเซลเซียส เป็นช่วงหิมะละลายและฝนตกสลับกับแดดออก ทำให้น้ำแข็งเกาะบนถนนและทางเท้า อันตรายต่อการเดินทาง
ในเมืองมี University of Jyväskylä ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฟินแลนด์ และได้รับความนิยมมากที่สุดในหลายสาขาด้วย วิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยคือ เป็นผู้นำระดับโลกในการเรียนของการเรียนรู้ สุขภาวะและปรากฏการณ์ธรรมชาติพื้นฐาน สร้างเสริมศักยภาพเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน วัฒนธรรมการทำงานของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่บนพื้นฐานการเปิดกว้างยอมรับ ความเชื่อถือไว้วางใจ คุณภาพ และความซื่อสัตย์จริงใจ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังส่งเสริมความร่วมมือในสหสาขาวิชาชีพและมีเป้าหมายที่จะพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
University of Jyväskylä ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19
ในช่วงสถานการณ์นี้ มีนักศึกษาและบุคลากรจำนวนมากทั้งจากฟินแลนด์และต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ด้วยหลายสาเหตุ มหาวิทยาลัยจึงพยายามดูแลและให้ความช่วยเหลือทุกคนอย่างสุดความสามารถ ทางมหาวิทยาลัยมีการประกาศอัปเดตสถานการณ์รายวัน รวมถึงข้อปฏิบัติต่างๆ บนเว็บไซต์และทางอีเมล โดยมีเนื้อหาอย่างละเอียดและชัดเจน มีช่องทางการติดต่อสื่อสารหลายทาง เป็นสิ่งที่เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักศึกษาและบุคลากรอย่างมาก
ณ วันที่ 14 มีนาคม 2563 ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ โควิด-19 มหาวิทยาลัยประกาศปิดทุกหน่วยงาน และให้ทำการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมดทันที รวมถึงการฝึกสอนของโรงเรียนฝึกอบรมครู (Normaalikoulu) ด้วย
การเรียนการสอนในสถานการณ์ปกติของมหาวิทยาลัย มีระบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว ทั้งการลงทะเบียนเรียน สื่อสารกันระหว่างนักศึกษาและบุคลากร ประชุม ทำงานกลุ่ม ส่งงานพร้อมตรวจสอบการคัดลอกผลงาน และการติดตามประเมินผล ฯลฯ จึงทำให้ทุกคนใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจและปรับตัวมาใช้ระบบออนไลน์ทั้งหมด
ส่วนการสอบในระยะเวลานี้ จะมีการปรับตาราง โดยให้กระทบผู้เรียนน้อยที่สุด จุดประสงค์สำคัญ คือการเรียนและการจบการศึกษาของทุกคนจะไม่ล่าช้าออกไปเพราะสถานการณ์ไวรัส
งานบริการนักศึกษาจะเป็นทางออนไลน์ทั้งหมดจนกว่าจะมีการแจ้งปรับเปลี่ยน นักศึกษาทุกคนสามารถส่งคำถามหรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยการส่งอีเมลที่จัดไว้ให้เฉพาะสำหรับสถานการณ์นี้
การจัดบริการและส่งอาหาร
ในยามวิกฤตที่ทุกคนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สภาพอากาศหนาวมากระดับอุณหภูมิติดลบ ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด และการเดินทางที่ไม่สะดวก มหาวิทยาลัยได้ประสานกับทางร้านอาหาร Semma Restaurants ซึ่งเป็นผู้บริการอาหารโฮมเมดกับทางมหาวิทยาลัย ให้ทำอาหารและจัดเป็นชุด นำไปบริการจำหน่ายตามตึกที่นักศึกษาพักอาศัยอยู่อย่างทั่วถึง ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 โดยมีการประกาศช่วงเวลาและสถานที่ที่จะไปบริการบนโซเชียลมีเดีย และประกาศรายการอาหารทั้งแบบเนื้อสัตว์และมังสวิรัติในช่วงเช้าของทุกวัน รวมถึงคำแนะนำที่ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น ไม่เดินทางมาซื้ออาหารหากมีอาการป่วย เว้นระยะห่างกับผู้อื่นอย่างน้อยหนึ่งเมตร ชำระค่าอาหารด้วยบัตรธนาคารเท่านั้น ถึงแม้ต้นทุนการผลิตและขนส่งจะสูงขึ้น แต่มหาวิทยาลัยและร้านอาหารสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้านอาหาร Semma Restaurants เป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เพิ่มขึ้น แต่ยังดูแลใส่ใจนักศึกษาโดยการคงราคาอาหารไว้เท่าเดิม ให้ได้รับความสะดวกและสามารถซื้ออาหารที่มีคุณภาพได้ในราคาไม่สูง
ในชุดอาหารประกอบด้วย สลัดผักและผลไม้ 1 กล่อง อาหารจานหลัก 1 กล่อง (ที่อาจจะเป็นข้าว มันฝรั่งบด แกง พาสต้า แฮม ไก่ ปลา ซุป ฯ) ขนมปังในแพ็ค 2 ชิ้น และนมสด 1 กล่อง
การบริการทางการแพทย์ Finnish Student Health Service (FSHS)
ในช่วงสถานการณ์นี้ โรงพยาบาลได้ปรับการบริการให้เป็นระบบออนไลน์มากขึ้น โดยให้คำปรึกษาผ่านทางวิดีโอคอล นักศึกษาสามารถเข้ารับบริการได้ เช่น การตรวจสุขภาพ การปรึกษาด้านโภชนาการ การติดตามผลกับนักกายภาพบำบัด และการติดตามผลสุขภาพทั่วไปและสุขภาพจิต ในบางเมืองสามารถรับคำปรึกษากับผู้ช่วยทันตแพทย์ได้อีกด้วย ทั้งนี้สามารถอ่านคำแนะนำได้จากเว็บไซต์ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
26 มีนาคม 2563 มีประกาศคำแนะนำที่ชัดเจนจาก FSHS เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในช่วงระบาดของ โควิด-19
– หากรู้สึกว่ามีอาการอ่อนๆ เช่น น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย และมีไข้ แต่ไม่ได้สัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง ให้อยู่ที่บ้านจนกว่าอาการจะหมดไป
– หากแสดงอาการที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน มีไข้ อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ไอ และ/หรือ หายใจติดขัด ได้เดินทางไปต่างประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ให้ติดต่อศูนย์บริการทางการแพทย์ในเมืองที่อาศัยอยู่หรือโทรศัพท์ติดต่อ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำสิ่งที่ต้องปฏิบัติในขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้การยืนยันตัวตนในการขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่านวิดีโอคอล หากไม่มีบัญชีธนาคารออนไลน์ของฟินแลนด์เพื่อใช้ยืนยัน เพื่อความสะดวก นักศึกษาสามารถแสดงพาสปอร์ตในตอนประชุมออนไลน์เพื่อยืนยันตัวตนได้
สุขภาวะ (Well-being)
ภายใต้การดำเนินงานกิจการนักศึกษา “Student Life” มหาวิทยาลัยจัดชุดโปรแกรมเฉพาะกิจชื่อ “Face Covid” ที่ให้คำแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติกับนักศึกษาและบุคลากร เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทั้งทางร่ายกายและจิตใจในช่วงนี้ ดังนี้
-
“Compass” เป็นโปรแกรมที่สนับสนุนสุขภาวะและทักษะชีวิต มีเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้ปฏิบัติในช่วงวิกฤตโควิด-19 เพื่อฝึกฝนสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจ การหาแรงจูงใจ การปรับตัว การผ่อนคลายความตึงเครียด มีคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพโดยการใช้การบำบัดแบบการยอมรับและมีความมุ่งมั่น Acceptance and Commitment Therapy (ACT) ในระบบยังบริการข้อมูลเพิ่มเติ่มให้ เช่น คำปรึกษาจากแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในรูปแบบรายการวิทยุออนไลน์ บทความ และวิดีโอ
-
“Goodies” เป็นโปรแกรมที่มีที่ปรึกษาด้านสุขภาวะเพื่อให้นักศึกษาที่ต้องการคนรับฟัง โดยนักศึกษาไม่ต้องเปิดเผยตัวเองในขณะรับคำปรึกษา โปรแกรมนี้ช่วยเหลือโดยการเป็นเพื่อนคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ หรือหากจำเป็นจะช่วยส่งต่อไปยังหน่วยงานที่สามารถให้คำปรึกษาเพิ่มเติมหรือแก้ปัญหาได้โดยตรง ผู้ที่เป็นเพื่อนคุยคือบุคลากรของมหาวิทยาลัยซึ่งผ่านการฝึกอบรมเพื่อให้คำแนะนำด้านสุขภาวะโดยเฉพาะ ในช่วงสถานการณ์ไวรัส นักศึกษาสามารถรับบริการนี้ได้ผ่านทางออนไลน์
-
“JYU Chat” (ยู แชท) เป็นสังคมออนไลน์ที่ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรได้ติดต่อมีปฏิสัมพันธ์กันออนไลน์ในช่วงสถานการณ์นี้ สมาชิกสามารถเข้าระบบและเปิดกล้องคุย หรือแบ่งปันข้อมูลและพูดคุยกันได้ตลอดเวลา
-
คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจัดสอนโยคะ ออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ และบริการเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาวะให้ นอกจากนี้ยังมีช่องทางที่จัดขึ้นใหม่บน Youtube ชื่อ Umove goes YouTube เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่บ้าน นักศึกษาและบุคคลทั่วไปสามารถรับชมและใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
-
การให้คำปรึกษาทางด้านศาสนา หากนักศึกษาต้องการปรึกษา สามารถติดต่อได้ทางออนไลน์
-
ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านจากกองกิจการนักศึกษา จะเป็นผู้ที่นักศึกษาสามารถติดต่อได้ทุกวัน สอบถามข้อมูล และขอรับคำปรึกษาได้ทางออนไลน์
บริการจากห้องสมุด
หนังสือและสิ่งตีพิมพ์ส่วนมาก จะเป็นในรูปแบบออนไลน์ ที่นักศึกษาและบุคลากรสามารถเข้าถึงได้จากห้องสมุดทั่วโลกอยู่แล้ว วันที่ 25 มีนาคม 2563 ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ประกาศขยายเวลาในการยืมหนังสือระยะสั้นให้มากขึ้น และผู้ยืมสามารถขยายเวลายืมต่อทางออนไลน์ได้อีกด้วย รวมถึงสามารถสั่งจองหนังสือเพื่อขอยืมได้ทางออนไลน์ ผู้จองจะได้รับข้อความแจ้งเตือนให้ไปรับหนังสือที่จุดบริการได้ในวันจันทร์ถึงศุกร์ สามารถคืนหนังสือได้ตลอดเวลาที่ตู้หย่อนหนังสือหน้าห้องสมุด หนังสือบางประเภทที่ไม่สามารถขอยืมอ่านนอกห้องสมุดได้ เช่นงานวิจัย ทางห้องสมุดยังขยายบริการให้สามารถยืมทางออนไลน์ได้ในช่วงเวลานี้
บริการพิมพ์เอกสารจากเครื่องปริ้นท์เตอร์
เริ่มวันที่ 1 เมษายน 2563 มหาวิทยาลัยประกาศแจ้งว่า หากนักศึกษามีความจำเป็นที่ต้องพิมพ์เอกสาร สามารถส่งไฟล์ไปถึงอีเมลที่จัดไว้ให้ แต่ขอให้ไม่ส่งเอกสารสำคัญที่ไม่ควรเปิดเผย โดยสามารถรับงานพิมพ์ที่ห้องสมุดอีกสองวันทำการถัดไปหลังจากส่งไฟล์ หรือสามารถให้จัดส่งไปรษณีย์ถึงที่อยู่ของนักศึกษาได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
การให้ทุนเพื่อสนับสนุนนักศึกษาในการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
ในสถานการณ์นี้ที่ทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยปิดทำการ มีนักศึกษาที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมเรียนออนไลน์และทำงานเรียนได้
มีประกาศวันที่ 8 เมษายน 2563 ว่าทางมหาวิทยาลัยและกองกิจการนักศึกษา ได้เห็นความสำคัญและได้พิจารณาอนุมัติเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อสนับสนุนเป็นทุนให้นักศึกษาซื้อคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปส่วนตัวใช้ในการศึกษา ทุนละ 150 ยูโร (ประมาณ 5,400 บาท) ซึ่งราคาแล็ปท็อปที่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับทำงานพื้นฐาน ราคาขั้นต่ำในฟินแลนด์อยู่ที่ประมาณ 6,500 บาท นักศึกษาที่สมัครขอทุนจะเริ่มรับทุนได้ในสัปดาห์ถัดไป
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจัดให้นักศึกษาและบุคลากรทุกคนสามารถดาวน์โหลด Microsoft Office 365 ใช้ได้ตามปกติ
นอกจากนี้ วัฒนธรรมการร่วมมือกันเพื่อช่วยกันประคับประคองสังคมในภาวะนี้ ยังมีให้เห็นเด่นชัดในสถาบันการศึกษาอื่นในฟินแลนด์ด้วย เช่น University of Helsinki ที่ได้ช่วยเหลือระบบสาธารณสุขในวิกฤตนี้ ทั้งการตรวจหาเชื้อ จัดหาเครื่องมือ อำนวยความสะดวกและฝึกอบรมบุคลากร และให้ความรู้ การทำวิจัยหลายหัวข้อที่เกี่ยวกับโคโรนาไวรัส รวมถึงการพัฒนาตัวยา นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับหลายหน่วยงานในมหาวิทยาลัย เช่น
-
คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ได้เพิ่มศักยภาพการตรวจหาเชื้อไวรัส
-
โรงเรียนสัตวแพทย์ศาสตร์ได้รวบรวมข้อมูลเครื่องมือจากคลินิคทั่วประเทศที่สามารถนำมาดัดแปลงใช้กับการรักษามนุษย์ได้
-
คณะการเกษตรและป่าไม้ได้สำรวจเครื่องมือที่เหมาะสมไว้ใช้งานและบุคลากรที่เป็นพยาบาลหรือช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์
-
นักศึกษาและบุคลากรคณะเภสัชศาสตร์ ดำเนินการฝึกปฏิบัติงานด้านเภสัชกรรม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน
-
คณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ ได้วิจัยผลิตเครื่องมือต่างๆ เช่น ตัวสื่อกรองซึ่งผลิตด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติโดยโรงพยาบาลเด็กในอิตาลี
-
นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยในหลากสาขาที่ร่วมมือกันทำงานอีกหลายอย่าง เช่น การสื่อสารตามสื่อ การเปิดคอร์สและกิจกรรมออนไลน์ในหัวข้อที่น่าสนใจ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาวะ
ขณะที่ Gradia ในเมือง Jyväskylä ซึ่งเปิดสอนระดับมัธยมปลายและวิทยาลัยอาชีวะศึกษา มีศิษย์เก่าสาขาผู้ช่วยพยาบาล Supitcha Vaittinen ให้ข้อมูลว่า ปกตินักเรียนจะได้รับอาหารฟรีในทุกวันที่มีเรียน แต่ช่วงสถานการณ์นี้ ทางสถาบันจึงร่วมกับห้องอาหารของสถาบัน จัดแพ็คอาหารเป็นชุดๆ ให้กับนักเรียน โดยจัดส่งอาหารที่สถาบันสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ในชุดประกอบด้วย อาหารหลักห้าชุด ขนมปังหลากชนิดและเนย ในช่วงสัปดาห์อีสเตอร์ที่ผ่านมา มีนักเรียนกว่า 1,000 คนมารับอาหารจากสถาบัน
นักศึกษาจำนวนหนึ่งจาก University of Jyväskylä ให้สัมภาษณ์ว่า ในสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้ รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยได้ดูแลนักศึกษาอย่างดีโดยการสนับสนุนในด้านการเรียนและการใช้ชีวิตในหลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น การมอบหมายงานให้ทำแทนการสอบปลายภาค ให้การฝึกสอนของโรงเรียนฝึกอบรมครูเป็นการสอนทางไกลออนไลน์กับทางโรงเรียนในเมืองนั้นๆ แทน รวมถึงจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมในช่วงซัมเมอร์ให้นักศึกษา เนื่องจากนักศึกษาจำนวนมากจะมีเวลาว่างขึ้นเพราะไม่ได้รับจ้างงานในช่วงนั้น นักศึกษารู้สึกดีใจและประทับใจที่มหาวิทยาลัยมีการดำเนินการที่สร้างสรรค์และยืดหยุ่นอย่างมากในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่านักศึกษาจะมาจากหลากหลายประเทศ แต่ทุกคนได้รับการดูแลและสามารถเข้าถึงบริการทุกอย่างได้เหมือนกัน ไม่ทำให้รู้สึกว่านักศึกษาถูกทิ้งไว้ข้างหลังเลย
อ้างอิง
https://minedu.fi/en/koulutusjarjestelman-erityispiirteet
https://www.theguardian.com/business/2018/mar/17/finland-happiness-worlds-happiest-country-equality
https://yle.fi/uutiset/osasto/news/finland_to_increase_who_funding/11307238
หนังสือพิมพ์ Keksisuomalainen, Keksiviikkona 8 April 2020
Tags: ฟินแลนด์, การศึกษา, โควิด-19