“การผ่านช่วงวิกฤตที่หนักหนาไม่เมื่อนานมานี้ ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า ผมกำลังประสบปัญหาสุขภาพจิตที่ซับซ้อน และจะเริ่มการรักษาอย่างต่อเนื่อง ผมอยากจะขอโทษทุกคนที่ทำให้ต้องตื่นตระหนกและไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ผ่านมา ผมจะมุ่งมั่นทำทุกทางที่จำเป็น เพื่อให้กลับมามีสุขภาพที่ดี มีความปลอดภัย และมีประสิทธิผลในชีวิตอีกครั้ง”
เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) วัย 29 ปี เจ้าของบทบาท แบร์รี อัลเลน (Barry Allen) จากภาพยนตร์ The Flash แถลงการณ์ผ่านตัวแทน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 สิงหาคม 2022)
ก่อนหน้านี้ มีคำถามมากมายถึงภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรอเมริกันเรื่อง The Flash ของค่าย DC ที่จะเข้าฉายในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า (2023) ซึ่งได้รับการคาดหวังอย่างสูงในการประสบความสำเร็จ เนื่องจากพฤติกรรมวายป่วงของนักแสดงนำบท The Flash อย่างมิลเลอร์ หลังจากที่เขาต้องเผชิญข้อกล่าวหาทางอาญาหลายครั้ง อาทิ การล่วงละเมิดและการทำร้ายร่างกาย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
คำแถลงการณ์ของมิลเลอร์เกิดขึ้นหลังจากเขาเงียบหายไปเป็นเวลากว่า 1 เดือน ท่ามกลางข้อกล่าวหาทางกฎหมายและเรื่องอื้อฉาวมากมาย ที่ทำให้เขากลายเป็นหัวข้อข่าวทางหน้าสื่อและโลกโซเชียล รวมถึงมีคำถามตัวโตๆ ถึงอนาคตของเขากับภาพยนตร์ทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะมีคิวเข้าฉายในปีหน้า ซึ่งว่ากันว่าทาง Warner Bros. Discovery ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกันระหว่าง WarnerMedia และ Discovery ก็มีการพูดคุยกันว่าจะจัดการกับปัญหาดังกล่าวอย่างไร เนื่องจากภาพยนตร์ดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในจักรวาลขยายของดีซี (DC Extended Universe)
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มิลเลอร์ถูกจับในเมืองฮิโล (Hilo) รัฐฮาวาย เขาถูกตั้งข้อหาประพฤติมิชอบและล่วงละเมิด หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่บาร์แห่งหนึ่ง ตามรายงานของกรมตำรวจเทศมณฑลฮาวาย ก่อนที่มิลเลอร์จะจ่ายเงินประกันตัวจำนวน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัว
เดือนถัดมา วันที่ 19 เมษายน มิลเลอร์ไม่โต้แย้งต่อข้อหาดังกล่าว และถูกปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับข้อหาประพฤติมิชอบ ส่วนข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดถูกยกเลิกไป
อย่างไรก็ดี ในวันเดียวกันนั้นเอง มิลเลอร์ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่บ้านพักส่วนตัวของเขาในเขตปูนา (Puna) ใกล้เมืองปาฮัว (Pahoa) รัฐฮาวาย ตามรายงานของกรมตำรวจฮาวาย แต่ท้ายที่สุดไม่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น
ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่ามิลเลอร์เดินทางไปทั่วสหรัฐอเมริกาพร้อมด้วยปืนพก และเสื้อเกราะกันกระสุน รวมถึงขาดการติดต่อกับคนอื่นๆ และมีข่าวลือว่าเขากลายเป็นเป้าหมายตามล่าตัวของเอฟบีไอ (FBI) และกลุ่มคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) ขบวนการเหยียดผิวหัวรุนแรงและสุดโต่งในอเมริกา
กระทั่งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา มิลเลอร์ถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ทางอาญา หลังจากถูกกล่าวหาว่าขโมยแอลกอฮอล์จากบ้านพักในสแตมฟอร์ด รัฐเวอร์มอนต์ ขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ โดยเขาจะต้องไปขึ้นศาลสูงเวอร์มอนต์ วันที่ 26 กันยายนนี้ ในข้อหาลักทรัพย์
นับเป็นช่วงเวลาที่ปัญหาจากพฤติกรรมของมิลเลอร์ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ซึ่งผลักให้ชะตากรรมของภาพยนตร์เรื่อง The Flash แขวนอยู่บนเส้นด้ายตามไปด้วย เนื่องจากไม่มั่นใจว่ามิลเลอร์จะก่อความเดือดร้อนอะไรอีกหรือไม่ จนกว่าจะถึงวันฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ทำให้มีรายงานจากแหล่งข่าววงในออกมาว่า ทางสตูดิโอ Warner Bros. ได้ยื่นข้อเสนอ 3 ประการให้แก่มิลเลอร์
ประการแรก ทางสตูดิโอซึ่งได้รับข้อบ่งชี้สำคัญว่าแม่ของมิลเลอร์ได้เดินทางไปกับเขาในช่วงที่ผ่านมา จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญให้เข้าไปพูดคุยด้วย หลังจากที่พวกเขาเดินทางกลับถึงบ้านที่รัฐเวอร์มอนต์ หากเป็นเช่นนั้น มิลเลอร์จะสามารถให้สัมภาษณ์เพื่ออธิบายพฤติกรรมที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้ และจะได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับภาพยนตร์ The Flash อย่างจำกัด รวมถึงภาพยนตร์จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ตามกำหนดการเดิม
ประการที่ 2 แม้ว่ามิลเลอร์จะไม่ขอความช่วยเหลือ แต่ทางสตูดิโอ Warner Bros. ก็ยังสามารถฉายภาพยนตร์ได้ตามกำหนดเดิม แต่มิลเลอร์อาจไม่ได้เป็นส่วนสำคัญในด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของภาพยนตร์ และเขาอาจถูกถอดจากบทซูเปอร์ฮีโร Flash ในภายภาคหน้า เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีโครงการขยายต่อในอนาคต
ประการที่ 3 หากสถานการณ์กับมิลเลอร์ย่ำแย่ลงไปอีก จะทำให้สตูดิโอหั่นภาพยนตร์ทิ้งทันที เนื่องจากไม่สามารถถ่ายทำใหม่กับนักแสดงคนอื่นได้ เพราะมิลเลอร์เล่นบทบาทหลายตัวละคร และอยู่ในเกือบทุกฉาก ซึ่งการทิ้งภาพยนตร์มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกภาพยนตร์
แน่นอนว่าผลที่ออกมา คือมิลเลอร์เลือกประการแรก และออกแถลงการณ์ขอโทษ
หลังถ้อยแถลงขอโทษถูกเผยออกมา อีแวน เนียร์แมน (Evan Nierman) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการวิกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Red Banyan บริษัทประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ถือเป็นการจัดการที่สมเหตุสมผลสำหรับสตูดิโอ Warner Bros. ที่ทำให้ความรับผิดชอบตกไปอยู่ที่มิลเลอร์
“สตูดิโอต้องเปลี่ยนสถานการณ์ที่ใครบางคนที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นอาชญากรหรือเป็นตัวอันตราย ให้กลายเป็นคนที่คู่ควรกับความสง่างามและความเข้าใจ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ่ายเงินสำหรับการรักษาครั้งนี้ แต่แม้ว่าสตูดิโอจะเป็นผู้จ่ายเงิน ดูเหมือนว่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียว เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้คืนจากภาพยนตร์” เนียร์แมนกล่าว
อย่างไรก็ดี ทางเลือกในการขอโทษและเข้ารับการรักษาครั้งนี้ของมิลเลอร์เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น ยังต้องติดตามดูต่อว่า ทาง Warner Bros. Discovery จะยังเปิดโอกาสให้มิลเลอร์มากน้อยขนาดไหนในอนาคต เนื่องจาก The Flash เป็นภาพยนตร์หลักสำหรับสตูดิโอในจักรวาลขยายของดีซี ขณะที่ปัญหาทางกฎหมายของมิลเลอร์ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา
https://edition.cnn.com/2022/08/16/entertainment/ezra-miller-seeks-treatment/index.html
https://www.washingtonpost.com/arts-entertainment/2022/08/16/ezra-miller-allegations-warner-bros/
https://www.npr.org/2022/08/11/1116932907/ezra-miller-scandals