เมื่อครู่นี้ ฉันเพิ่งวางสายจากลูกสาวของคนไข้ชื่อป้าแจ๋ว (นามสมมติ) ป้าแจ๋วเป็นผู้หญิงที่ติดเชื้อเอชไอวีมาเกือบ 20 ปี ขณะนี้ป้าอายุน่าจะ 70 กลางๆ ค่อนปลาย ฉันได้ดูแลป้าแจ๋วมาเกือบสิบปี โดยรับช่วงต่อมาจากอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่ง
ลูกสาวป้าแจ๋วมีความกังวลใจ เนื่องจากใน 1-2 ปีที่ผ่านมา ค่าการทำงานของไตได้เสื่อมถอย ในช่วงชีวิตหนึ่ง ป้าเคยกินยาต้านไวรัสสูตรที่ ‘อาจจะ’ มีผลข้างเคียงต่อไตอยู่ช่วงหนึ่ง หลังจากที่เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันเมื่อสิบกว่าปีก่อนจากสูตรยานั้น ค่าไตของป้าแจ๋วก็อยู่ในเกณฑ์ผิดปกติเล็กน้อยถึงปานกลางมาตลอด
นอกจากที่ฉันจะช่วยปรับสูตรยาต้านไวรัสให้ป้าแจ๋วกินได้โดยไม่มีผลข้างเคียงอะไรนัก ฉันเองก็ยังดูแลป้าแจ๋วในฐานะหมออายุรกรรมคนหนึ่ง ที่ช่วยปรับยาความดันและยาเบาหวานกันไปตามวาระ
สองสามปีหลังนี้ อาการของป้าแจ๋วเริ่มทรุดไปพอสมควร ป้าต้องนั่งรถเข็นมาห้องตรวจจากที่เคยเดินเข้ามาได้เอง ป้ายังสามารถเดินช่วยเหลือตัวเองอยู่ในบ้านได้ แต่ก็ถูกจำกัดอยู่แค่ชั้นล่างตามที่ร่างกายอำนวย (ที่บ้านอยู่กันแค่สองคน บางครั้งลูกสาวก็ฝากญาติที่รู้จักกันมาช่วยเฝ้าป้าช่วงกลางวัน) หลังๆ ฉันจึงเลยบอกป้าให้มาตรวจแค่ปีละครั้งก็พอ แต่ให้ลูกสาวนำผลเลือดป้ามาให้ดูทุกหกเดือน เพราะนอกจากที่ป้าต้องมาพบ ‘แพศ’ โรคติดเชื้ออย่างฉันแล้ว ป้ายังต้องมีนัดตรวจหมอเบาหวาน (น้ำตาลของป้าเริ่มจะคุมยากขึ้น และยาเบาหวานตัวใหม่ๆ ที่ฉันเริ่มจะไม่รู้จัก) และแน่นอนว่าฉันต้องส่งป้าไปตรวจกับหมอไตด้วย เพราะการทำงานของไตเริ่มแย่ลง เพื่อให้หมอเฉพาะทางช่วยปรับยาความดัน ยาเกลือแร่และช่วยให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อประคับประคองภาวะไตวายเรื้อรังไม่ให้ทรุดลงไปกว่านี้
สถานการณ์ช่วงหลังไม่สู้ดีสักเท่าไร อาการแทรกซ้อนของภาวะไตวายปรากฎให้เห็นเป็นระยะๆ ขาบวมและน้ำท่วมปอดเล็กน้อย ที่ตอบสนองมาจากการกินยาขับปัสสาวะเป็นครั้งคราวเพื่อรีดน้ำส่วนเกินซึ่งไตกำจัดออกไม่ได้
ฉ้นก็ได้รับฟังเรื่องราวเหล่านี้ผ่านลูกสาวของป้าแจ๋วมาเรื่อยๆ วันหนึ่งที่ลูกสาวนำผลเลือดมาตรวจตามนัด (คนไข้ไม่ได้มา) ฉันจึงถือโอกาสเปิดประเด็นถามลูกสาวถึงแผนการรักษาในอนาคต แน่นอนว่าทางเลือกสำหรับการรักษาต่อในกรณีที่ไตทำงานแย่ลงมากก็คือ การล้างไต (dialysis)
ปัญหาสำหรับการล้างไตก็คือ ถ้าใช้วิธีฟอกเลือด (hemodialysis) คนไข้จะต้องเดินทางไปที่ศูนย์ฟอกไตอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง การฟอกเลือดหนึ่งครั้งใช้เวลาครั้งละ 3-4 ชั่วโมงไม่นับรวมการเดินทางและการรอคิว
นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่กว่าสำหรับป้าแจ๋วก็คือ การที่มีเชื้อไวรัสเอชไอวี แม้ว่าการกินยาต้านไวรัสจะทำให้ไวรัสถูกควบคุมจนตรวจหาเชื้อไม่เจอในเลือด (virologic control หรือ undetectable) แต่ก็อาจจะมีศูนย์ฟอกเลือด (hemodialysis center) เพียงไม่กี่ที่ในประเทศนี้ที่จะรับป้าแจ๋วเป็นคนไข้ อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการฟอกไตสำหรับคนไข้ที่มีเชื้อไวรัสที่อาจจะทำได้ง่ายกว่า ก็คือการฟอกไตทางหน้าท้อง (peritoneal dialysis)
แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ การฟอกไตทางหน้าท้องสามารถทำได้ที่บ้านโดยคนไข้และญาติช่วยกัน โดยการฝึกสอนจากทีมแพทย์พยาบาล แต่การทำให้ต่อเนื่องและทำได้ดีโดยไม่มีผลข้างเคียงเช่นการติดเชื้อในช่องท้องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เคยมีลุงคนหนึ่งที่ต้องฟอกไตทางหน้าท้อง ผลก็คือลูกชายแกต้องออกจากงานเพื่อมาเป็นคนดูแลคุณลุงเต็มตัวเพื่อให้การฟอกเป็นไปอย่างราบรื่น
ในเมื่อชีวิตมีทางเลือกได้เสมอ ในฐานะแพศที่ชอบมองต่างมุม ฉันจึงเสนออีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกสาวป้าแจ๋วไปคิดพิจารณา ก็คือ การเลือกที่จะไม่รับการรักษาด้วยการล้างไต
เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันเข้าใจดี ฉันจึงเลือกพูดในเวลาที่เริ่มเห็นค่าไตของป้าแจ๋วเริ่มจะทรุดลงและมีแนวโน้มว่าการล้างไตคงจะเกิดขึ้นในอีกปีสองปีข้างหน้า แน่นอนว่า เรื่องแบบนี้ยังเป็นสิ่งที่ค่อนข้างหักมุมในสังคมไทย แต่ฉันเองมองว่า คนไข้และครอบครัวคนไข้เองก็มีสิทธิเลือกการรักษาของตัวเองไม่ใช่หรือ มันจะดีกว่าไหมถ้าให้เค้าคิดตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าทางเลือกของเขามีอะไรบ้าง ในเวลาที่อาการยังไม่ถึงกับทรุดฉับพลัน
ที่ลูกสาวป้าแจ๋วโทรมาหาฉันเมื่อครู่ เพื่อที่จะบอกว่า แกตื่นเต้นกับผลเลือดของป้าแจ๋วในวันพรุ่งนี้ที่มีนัดตรวจกับหมอไต สองสามเดือนที่ผ่านมา มีการคุมเข้มทั้งเรื่องอาหารและน้ำดื่มเพื่อชะลอภาวะไตวายให้ได้มากที่สุด
โดยรวมป้าแจ๋วมีอาการดีขึ้น ขาบวมยุบหายหมดแล้ว อาการเหนื่อยง่ายที่เคยมีก็ลดลง ฉันเองรู้สึกในน้ำเสียงว่า ตัวลูกสาวเองก็คงเครียดด้วยเหมือนกัน จึงพยายามปลอบให้ใจเย็นๆ ไม่ว่าผลเลือดจะเป็นอย่างไร ถ้าเห็นแล้วว่าแม่อาการดีขึ้น ลูกเองก็น่าจะมีกำลังใจในการทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดำเนินต่อไป นอกจากนี้ ตัวลูกสาวเองก็บอกฉันว่า เขาได้บอกหมอไตในการนัดตรวจครั้งที่ผ่านมาแล้วว่า หากมีเหตุให้ต้องไปถึงจุดนั้น ป้าแจ๋วเองขอเลือกการรักษาโดยไม่ล้างไต ลูกสาวเล่าว่าหมอไตมีแววตาเซอร์ไพรส์เล็กน้อยแต่ก็ยอมรับและขอบันทึกข้อความไว้เป็นหลักฐานเรื่องการตัดสินใจของคนไข้
ฉันน่าจะมีนัดกับป้าแจ๋วในอีกสองสามอาทิตย์ข้างหน้านี้ ไม่ว่าจะได้เจอตัวป้าแจ๋วหรือแค่เห็นผลเลือดของป้า ฉันเองก็หวังจะได้ทำหน้าที่อายุรแพทย์โรคติดเชื้อคนหนึ่ง ที่ให้มุมมองเรื่องการรักษาและการใช้ชีวิตแก่ป้าแจ๋วและลูกสาว ในแบบเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งต่อไป
Tags: แพศกาก, เอชไอวี, ไดอารี่ของแพศ, ฟอกไต