ต่อไปนี้ ป้าย ‘Do not disturb’ หรือ ‘ห้ามรบกวน’ ที่แขวนไว้หน้าห้องพัก ก็อาจไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถกางกั้นเราจากโลกภายนอกได้ตลอดไป

เพราะเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ดิสนีย์ประกาศให้พนักงานโรงแรมต้องคอยเข้าไปตรวจสอบห้องพักทุกๆ 24 ชั่วโมง โดยระบุเหตุผลส่วนหนึ่ง (แต่ไม่จำกัดว่าจะต้องมีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น) ว่าสามารถขอเข้าไปเพื่อซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ หรือตรวจสอบความปลอดภัยของแขกผู้เข้าพักและทรัพย์สิน”

แทนที่จะจัดเตรียมป้าย ‘ห้ามรบกวน’ ไว้ในห้องพักให้อย่างเคย ผู้เข้าพักจะได้รับป้าย ‘มีคนอยู่ในห้อง’ แทน ซึ่งจะทำให้พนักงานต้องเคาะและแจ้งแขกให้ทราบก่อนเข้าห้องเสมอ นโยบายนี้จะใช้กับโรงแรมของดิสนีย์เวิลด์และดิสนีย์แลนด์ทุกแห่ง

ก่อนหน้านี้ เครือโรงแรมฮิลตันเคยประกาศนโยบายทำนองนี้มาแล้ว แม้จะไม่ถึงขนาดนำป้ายออกไป แต่ก็สั่งให้พนักงานต้องคอยแจ้งกับผู้จัดการทุกครั้งถ้าป้ายนี้แขวนอยู่หน้าห้องใดติดต่อกันนานเกิน 24 ชั่วโมง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ผู้จัดการโรงแรมมีสิทธิขอเข้าไปในห้องเสมอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม

ความเป็นส่วนตัวที่จำเป็นต้องถูกปลดออกไปนี้ ก็เพื่อแลกกับความปลอดภัย เนื่องจากเหตุการณ์กราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2017 เกิดขึ้นหลังจาก สตีเฟน แพ็ดด็อก ผู้ก่อเหตุ ได้แขวนป้าย ‘Do no disturb’ ในโรงแรมที่ลาส เวกัส ติดต่อกันนานสามวัน ระหว่างที่เขากำลังตระเตรียมก่อการ

ในเมื่อโรงแรมไม่อาจรู้ได้ว่าระหว่างที่เราใช้เวลาส่วนตัวในห้องพัก เราทำอะไรอยู่บ้าง ความปลอดภัยของส่วนรวมจึงต้องมาก่อนความเป็นส่วนตัว

 

ที่มาภาพ: https://www.flickr.com/photos/quinnanya/4718215678

ที่มา:

https://quartzy.qz.com/1174287/hotels-are-shedding-the-do-not-disturb-sign/

https://www.nytimes.com/2017/10/03/us/las-vegas-gunman.html

http://edition.cnn.com/2017/10/05/us/las-vegas-shooting-timeline/index.html

Tags: , ,