สมเด็จพระราชาธิบดี วิลเลม-อเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์ ได้ร่วมไว้อาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นดั่งพระสหายและยกย่องพระองค์ในฐานะผู้ที่ ‘ให้ความสำคัญแก่ความสงบสุข สามัคคี ของประชาชนในประเทศของพระองค์’

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่าเป็น ‘สัญลักษณ์แห่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน’ สำหรับประชาชนชาวไทย เนื่องจากเป็นผู้ไกล่เกลี่ย และแก้ไขปัญหาความไม่สงบสุขทางการเมืองภายในประเทศ

จีนยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ‘ทรงเป็นพลังสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังการพัฒนาของประเทศไทย’

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในแถลงการณ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานอย่างหนักเพื่อสมานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยและจีน “พระองค์ทรงงานอย่างหาใครทดแทนมิได้ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและจีน มิใช่เพียงระหว่างคนในชาติ แต่รวมถึงสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย”

“สาธารณะรัฐประชาชนจีน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลไทย และประชาชนชาวไทยทุกคน ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช”

นายแอช คาร์เตอร์ (Ash Carter) เลขาธิการกระทรวงกลาโหมประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวในฐานะตัวแทนข้าราชการทุกคนแห่งกระทรวงกลาโหมร่วมกับประธานาธิบดี บารัก โอบามา ขอร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียของราชวงศ์ไทย และพี่น้องทุกคนในประเทศไทย

“พระราชกรณีกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ยกย่องแก่ประชาชนทั่วโลก และส่วนตัวข้าพเจ้าในฐานะเลขาธิการกระทรวงกลาโหม ขอยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะบุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์อย่างยาวนานระหว่างสองประเทศ”

นายกรัฐมนตรี มาลคอล์ม เทิร์นบูลล์ (Malcolm Turnbull) ประเทศออสเตรเลีย ได้แสดงความไว้อาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ‘ทรงเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของทวีปเอเชีย’

“เราขอแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต่อราชวงศ์ของไทย และประชาชนชาวไทยทุกคน”

“พระองค์ทรงเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของทวีปเอเชีย ในรัชสมัยของพระองค์ จำนวนประชากรของประเทศเพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านคน เป็น 67 ล้านคนทั่วประเทศ และแน่นอนว่าการพัฒนาในด้านเศรฐกิจและสังคมก้าวหน้าอย่างมหาศาล”

“ในออสเตรเลีย มีประชาชนชาวไทยอาศัยอยู่กว่า 50,000 คน เราเชื่อว่าทุกคนล้วนต่างรู้สึกถึงความสูญเสียต่อการจากไปของพระองค์”

นายกรัฐมนตรีประเทศนิวซีแลนด์ จอห์น คีย์ (John Key) กล่าวว่า

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช คือกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ สำหรับประชนชาวไทยนั้น รัชสมัยของพระองค์คือช่วงที่ประเทศได้รับการพัฒนาและเติบโตอย่างมาก กระทั่งประเทศได้เป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเคยเสด็จเยือนประเทศนิวซีแลนด์ และชาวนิวซีแลนด์เองก็เดินทางไปประเทศไทยปีละกว่า 100,000 คน

“ผมในฐานะตัวแทนรัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ราชวงศ์ไทย และประชาชนชาวไทยทุกคน”

ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์ของประธานาธิบดี โจโก (โจโกวี) วีโดโด (Joko “Jokowi” Widodo) ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นกษัตริย์ที่ใกล้ชิดประชาชน และนำพาซึ่งความเจริญก้าวหน้าตลอดระยะเวลาการครองราชย์กว่า 70 ปี

“ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนของรัฐบาลและประชาชนชาวอินโดนีเซียทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช”

“โลกของเราได้สูญเสียผู้นำที่รักและใกล้ชิดประชาชน ผู้นำพาความสงบสุข ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และความเฟื่องฟูสู่ประชาชนชาวไทยไปเสียแล้ว”

                                  

นายบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และภรรยา นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และกล่าวถึงพระองค์ว่า “เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และทรงมีพระเมตตา”

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศพันธมิตรประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ตัดสินพระราชหฤทัยด้วยพระสติปัญญาและมนุษยธรรม อีกทั้งยังทรงห่วงใยประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง” อดีตประธานาธิบดีกล่าว

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเยือนประเทศไทย ในวโรกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการครองราชย์ ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความสนใจในดนตรีแจ๊ซกับพระองค์ ฮิลลารีเองก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นเดียวกันที่ได้มีโอกาสติดตามประธานาธิบดีโอบามา เมื่อครั้งเยือนประเทศไทยครั้งล่าสุด”

ประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ส่งสาส์นไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และได้กล่าวยกย่องถึงพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวถึงการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ‘พระองค์ทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของต่างชาติ’

ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวอีกว่า “พระองค์มิใช่แค่เพียงได้รับความรักนับถืออย่างจริงใจของประชาชนในประเทศ หากแต่ยังได้รับความนับถือจากต่างชาติอีกด้วย”

ในสาส์นแสดงความเสียใจของประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวอีกว่า “พระองค์จะทรงเป็นที่จดจำอย่างตราตรึงแก่ชาวรัสเซีย ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์อันดีตลอดมาระหว่างไทยและรัสเซีย และยังขอส่งกำลังใจแด่ราชวงศ์ไทย รัฐบาล และประชาชนชาวไทยทุกคนอีกด้วย

นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า ‘พระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อปฏิรูปประเทศให้ทันสมัย และแข็งแกร่ง ตลอดระยะเวลาการครองราชย์กว่าเจ็ดทศวรรษ’

ส่วนหนึ่งในแถลงการณ์จากนายกแมร์เคิลระบุไว้ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนในประเทศ และนำพาประเทศให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และสังคมให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ (Frank-Walter Steinmeier) กล่าวเสริมด้วยว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีส่วนช่วยพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเยอรมันอย่างมาก

ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ร่วมไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยเนื้อความส่วนหนึ่ง ประธานาธิบดีฟร็องซัว ออล็องด์ (Francois Hollande) ได้กล่าวยกย่องพระองค์ว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติ “เหนือกว่าที่มนุษย์ธรรมดาพึงมี พระองค์ทรงธรรม ทรงมองหาความทันสมัยที่พัฒนาบนความยั่งยืน ซึ่งทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวโลก”

เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้แสดงความเสียใจพร้อมยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า “พระองค์ทรงนำประเทศไทยด้วยทศพิธราชธรรม พระวิริยะอุตสาหะ และพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล พระองค์จะทรงเป็นที่จดจำตลอดไป”

สเตฟาน เลิฟเวน (Stefan Löfven) นายกรัฐมนตรีประเทศสวีเดน ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าว TT News ว่า “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระบรมวงศานุวงศ์และคนไทยทุกคน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความหมายยิ่งต่อพสกนิกรไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ไปเยือนเมืองไทยจะรับรู้ได้”

ติโม ซอยนี (Timo Soini) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งฟินแลนด์ ได้ทวีตข้อความแสดงความเสียใจว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้ทราบข่าวนี้ และขอแสดงความเสียใจกับคนไทยทุกคน

ชาวฟิลิปปินส์ร่วมไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ของไทย

โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้แถลงในนามของประธานาธิบดี โรดรีโก ดูเตร์เต และชาวฟิลิปปินส์

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นผู้นำทางประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้ามากที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย”

ในแถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า ประธานาธิบดีและประชาชนฟิลิปปินส์ขอน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยมายังพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์และคนไทยทุกคน”

บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับกล่าวสดุดีว่า “พระองค์ทรงเป็น ‘กษัตริย์ผู้มิเคยเหน็ดเหนื่อย’ ในการพัฒนาบ้านเมือง และยังทรง ‘อุทิศพระองค์’ ในการทำงานอย่างหนัก เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของปวงชนชาวไทย” ทั้งนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “พระองค์ทรงเป็นมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ และทรงเป็นพันธมิตรที่ทรงค่ายิ่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ น้ำพระราชหฤทัยที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยจะเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ชนรุ่นหลังจักเทิดทูนสืบไป”

นาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังพระบรมวงศานุวงศ์และร่วมไว้อาลัยกับคนไทย “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างหาที่สุดมิได้ เราขอร่วมน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยแด่การเสด็จสวรรคตของพระองค์”

ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวความรู้สึก ‘เสียใจเป็นอย่างยิ่ง’ ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และจะระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในฐานะกษัตริย์ผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพและเปี่ยมด้วยพระเมตตา

“ในนามของรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นและประชาชนชาวญี่ปุ่น ข้าพเจ้าขอน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยอย่างสุดซึ้ง” พร้อมกันนี้ได้กล่าวยกย่องพระวิริยะอุตสาหะในการยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เจริญก้าวหน้า

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพลังเกื้อหนุนของปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงพัฒนาบ้านเมืองและสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรไปสู่ความเจริญ”

สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย ซึ่งเป็นการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศครั้งแรกของพระองค์ หลังจากการขึ้นครองราชย์

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับไทย ซึ่งประชาชนชาวญี่ปุ่นจะจดจำไว้ตลอดไป”

นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ทวีตข้อความแสดงความเสียใจว่า “ประชาชนอินเดียและข้าพเจ้าขอร่วมน้อมเกล้าฯ ถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นการสูญเสียกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งในยุคสมัย”

Tags: , , ,