วันนี้ (10 ตค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยานายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แช่ด่าน) พร้อมด้วยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ติดตามเรื่องราวสอบสวนการสูญหายของผู้ลี้ภัยการเมืองให้เกิดความกระจ่าง และคืนความยุติธรรมให้เหยื่อผู้ถูกอุ้มฆ่าพร้อมขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้ทราบโดยเร็วที่สุด

นางปราณีกล่าวว่าวันนี้ตนมาร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอความเป็นธรรมและให้ช่วยตามหานายสุรชัย ที่ถูกอุ้มหายไปนานกว่า 10 เดือนพร้อมกับคนสนิทอีก 2 คน คือสหายกาสะลองและสหายภูชนะ ต่อมาพบเพียง 2 ศพผู้ติดตามแต่ไม่พบร่างของนายสุรชัย และจนถึงปัจจุปันยังไม่มีความคืบหน้า โดยส่วนตัวตนเชื่อว่านายสุรชัยน่าจะเสียชีวิตแล้ว แต่ตนก็อยากจะพบร่างเพื่อความแน่ใจ

ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวว่าจากภาพถ่ายที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลฯ ยืนยันได้ว่ามีการพบศพทั้งหมดสามศพ และแต่ละศพมีลักษณะแตกต่างกันชัดเจน แต่ที่ได้ศพมาทำพิธีทางศาสนามีเพียงสองศพ ส่วนศพที่คาดว่าจะเป็นศพของนายสุรชัยได้หายไป นายสมยศยังได้กล่าวเปรียบเทียบคดีการตายของผู้ลี้ภัยทางการเมืองกับคดีของนายบิลลี่ พอละจี แกนนำกลุ่มกระเหรี่ยงที่ถูกอุ้มฆ่าว่าแตกต่างกัน คือเมื่อดีเอสไอพบกระดูกและพิสูจน์แล้วว่าเป็นของนายบิลลี่ก็มีความคืบหน้าทางคดีออกมาเป็นระยะๆ ส่วนสหายกาสะลองและสหายภูชนะก็มีการพบศพและมีผลพิสูจน์ทางดีเอ็นเอแล้วเช่นกัน แต่กลับไม่มีความคืบหน้าทางคดีใดๆ เลย

นอกจากนี้นายสมยศยังกล่าวถึงกรณีการสูญหายของผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลุ่มล่าสุดคือ นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ , นายสยาม ธีรวุฒิ , นายกฤษณะ ทัพไทย ที่มีข้อมูลว่าถูกทางการเวียดนามได้ส่งตัวให้แก่ทางการไทยเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ แต่ได้สูญหายไปและก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน จึงทำให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่าการที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการสืบสวน สอบสวน การสูญหายของผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่เป็นปฎิปักษ์กับรัฐบาลนั้นมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับอำนาฐรัฐ และยังทำให้สงสัยได้อีกว่าจะเป็นการปฏิบัติการของทหารที่เกี่ยวโยงกับงบฯ ของราชการ จึงขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดทำให้เกิดความกระจ่างด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และในวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ก็ได้ออกถ้อยแถลงแสดงความกังวลในการหายตัวไปของนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนชาวลาว รวมไปถึงกรณีของนายสุรชัย แซ่ด่าน และอิทธิพล สุขแป้น ที่หายตัวไปในเดือนธันวาคม 2561 และมิถุนายน 2559 ขณะที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทยอีกด้วย

ทั้งนี้หลังจากการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) เมื่อวันที่ 22 พฤษาภาคม 2557 มีผู้ที่ไม่ยอมรับการรัฐประหารได้ลี้ภัยทางการเมืองเป็นจำนวนมาก บางส่วนได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลไทยได้กดดันประเทศเพื่อนบ้านในเรืองผู้ลี้ภัยมาโดยตลอดโดยจนถึงปัจจุปันมีผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่อาศัยอยู่ในประเทศเพือนบ้านสูญหายไปแล้วเป็นจำนวน 8 ราย