​คอนเสิร์ตในไทยครั้งแรกของ DEAN ที่สาดความสนุกของจริง!

‘สวัสดีครับ’ DEAN พูดภาษาไทยอย่างเป็นธรรมชาติ ทักทายบรรดาสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจคอนเสิร์ต DEAN Live in Bangkok ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของเขาที่มูนสตาร์ สตูดิโอ โดย VIJI CORP เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา

ควอนฮย็อก หรือ DEAN เป็นศิลปินอัลเทอร์เนทีฟอาร์แอนด์บีชาวเกาหลีใต้ที่ฝากผลงานเพลงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังให้แฟนๆ ทั่วโลกได้รู้จักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 เขาเริ่มหัดแร็ปและทำเพลงเมื่ออายุได้เพียง 16 ปี สองสามปีต่อมา เขาได้ตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อเริ่มต้นเส้นทางการเป็นศิลปินระดับโลกด้วยการนำเดโมไปเสนอค่ายเพลง และแต่งเพลงให้กับศิลปินต่างๆ ภายใต้ชื่อ ‘Deanfluenza’ จนกระทั่งผลงานไปเข้าตา ชินฮย็อก ซีอีโอของค่าย Joombas Music Group และได้ชักชวนให้ DEAN มาเป็นโปรดิวเซอร์ในทีม

ในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2015 DEAN เดบิวต์ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการด้วยซิงเกิล ‘I’m not sorry’ ที่เขาได้ Eric Bellinger นักร้อง นักแต่งเพลงสัญชาติอเมริกัน ผู้แต่งเพลงให้กับศิลปินชื่อดังอย่าง Usher, Chris Brown และ Justin Bieber มาร่วมฟีตเจอริง

จากนั้นไม่นาน ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน DEAN จึงได้เดบิวต์ในประเทศเกาหลีใต้ และได้แร็ปเปอร์คุณภาพอย่าง Dok2 มาร่วมฟีตเจอริง ในเพลง ‘I love it’ ด้วยความสามารถทั้งการร้อง การแต่งเพลง อีกทั้งการแสดงสดบนเวทีอย่างมีพลังของ DEAN ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นมายืนบนแถวหน้าของวงการเพลงอาร์แอนด์บีเกาหลีใต้ได้ในระยะเวลาไม่นาน และการที่เขาเลือกที่จะเดบิวต์ในอเมริกาก่อนประเทศบ้านเกิด ทำให้เขาได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมากมาย และกลายเป็นบันไดที่ทำให้ DEAN เป็นศิลปินอัลเทอร์เนทีฟอาร์แอนด์บีที่มีแฟนคลับซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Rebels’ อยู่ทั่วโลก

เมื่อถามถึงแง่ของการทำงานร่วมกันระหว่างศิลปินต่างชาติกับศิลปินเกาหลี DEAN เปรียบเทียบความแตกต่างให้ฟังว่า เวลาที่ได้ Collaboration หรือทำงานร่วมกับศิลปินต่างชาติ พวกเขาจะคิดว่าการทำเพลงคือการมาร่วมสนุกด้วยกัน แต่งเพลงได้อย่างมีอิสระ ถ้าใจเราชอบทางไหนก็สามารถแต่งเพลงในทางนั้นได้ แต่ศิลปินเกาหลีจะมีจุดมุ่งหมายที่อยากจะไปให้ถึง และจะต้องมีการพูดคุยกันว่าจะต้องทำยังไงให้เพลงเราสามารถไปถึงจุดๆ นั้น เรียกได้ว่าศิลปินเกาหลีจะมีการทำงานที่เป็นแบบแผนมากกว่านั่นเอง

เราจะเห็นว่า DEAN เป็นทั้งนักร้องและโปรดิวเซอร์ เพลงที่ออกมาไม่ว่าจะร้องเองหรือแต่งให้ศิลปินคนอื่นนั้นต่างก็เป็นเพลงที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่ว่าจะฟังสักกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ แล้วอะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกว่าเพลงไหนร้องเอง หรือเพลงไหนแต่งให้ศิลปินคนอื่น

“เพลงที่ดีผมก็จะเก็บไว้เป็นของตัวเองครับ” DEAN หยอกล้อเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ดี

ความจริงแล้วไม่ใช่ว่า DEAN จะแต่งเพลงออกมาก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเก็บไว้เองหรือยกให้คนอื่น แต่ศิลปินท่านอื่นจะมีการเรียกร้องเข้ามาว่าอยากให้แต่งเพลงให้ จากนั้นเขาจึงเกิดกระบวนการวิเคราะห์เสียงและคาแร็กเตอร์ของศิลปินท่านนั้นๆ แล้วจึงคิดและแต่งเพลงออกมาให้เหมาะสมกัน ซึ่ง DEAN เปรียบเทียบการแต่งเพลงไว้ว่าเหมือนกับการออกแบบและตัดเสื้อให้กับคนคนหนึ่ง เพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การตอบคำถามที่ใช้ความเปรียบ ทำให้เราสามารถเข้าใจความคิดและตัวตนของ ‘DEAN’ ได้ดียิ่งขึ้น เพราะคำตอบเรื่อง ‘การตัดเสื้อ’ นี้ก็สอดคล้องกับความชื่นชอบเรื่องแฟชันของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

หลังจากที่คอยติดตามการแสดงคอนเสิร์ตของ DEAN ในประเทศต่างๆ มาเป็นเวลานาน คราวนี้ถึงตา ‘เรเบลส์ง ชาวไทยบ้างแล้วที่จะได้เป็นชมคอนเสิร์ตของ DEAN ครั้งแรกที่ประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเสียที ซึ่ง DEAN ได้บอกกับเราว่าอยากมาแสดงที่ประเทศไทยมานานแล้ว เพราะได้รับข้อความในอินสตาแกรมจากแฟนๆ ชาวไทยอยู่บ่อยๆ

บนเวทีเราอาจจะเห็นศิลปินที่มีเสน่ห์น่ามอง การแสดงที่มีพลัง และบุคลิกเท่ๆ ตามสไตล์ศิลปินแนวฮิปฮ็อปและอาร์แอนด์บี กับคารมคมคาย หยอกล้อให้ผู้ชมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่เมื่อลงจากเวที DEAN ยังคงเป็นชายหนุ่มที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม แต่ก็ยังมีมุมขี้เล่น และติดเขิน เพราะช่วงตลอดการสัมภาษณ์จะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอายๆ ของเขาอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มที่มีเสน่ห์น่าค้นหาในทุกด้านเลยจริงๆ

คอนเสิร์ต DEAN Live in Bangkok ที่ถึงแม้การแสดงจะเริ่มตอนสองทุ่ม แต่เหล่าเรเบลส์ที่ตั้งตาคอยคอนเสิร์ตในครั้งนี้ต่างก็มาให้กำลังใจ DEAN กันตั้งแต่ช่วงบ่าย

ความสนุกเริ่มต้นขึ้นด้วยโชว์เปิดของ MISO จากวง Club Eskimo ที่มาพร้อมกับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ การแสดงนิ่งๆ บวกกับซาวน์เพลงเท่ๆ อย่างเพลง ‘Lost’ และ ‘Take me’ เริ่มอุ่นเครื่องผู้ชม ตามด้วยศิลปินอาร์แอนด์บีสุดเซ็กซี่อย่าง SAAY ที่กล้าพูดเลยว่า การแสดงของเธอนั้นทำให้คนทั้งฮอลล์รู้สึกร้อนขึ้นมาจริงๆ เพลงที่ฟังแล้วสามารถโยกตามได้ อย่าง ‘Circle’ น้ำเสียงที่แหบเล็กๆ แต่มีพลัง คอสตูมที่แสดงความเท่แต่แฝงความเซ็กซี่ ยิ่งทำให้การแสดงของ SAAY น่าสนใจยิ่งขึ้น และการวาดลวดลายบนเวทีอย่างมืออาชีพดึงความสนใจของคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด

เสียงร้องหวานๆ ของ DEAN กับเพลง ‘Put my hands on you’ เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นฮอลล์ได้ตั้งแต่เพลงแรก ซึ่ง DEAN ได้ขนเพลงจากอัลบั้ม 130 mood: TRBL ทุกเพลงมาแสดงตอบแทนเรเบลส์ทุกคนที่ตั้งตารอคอยคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘Pour Up’, ‘Bonnie & Clyde’, ‘21’ หรือ เพลงสุดฮิตอย่าง ‘D (half moon)’ ที่ทุกคนพร้อมใจกันเปิดแฟลชสีขาว ม่วง และ น้ำเงินโบกตามเสียงเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับเป็นดาวดวงเล็กๆ บนท้องฟ้าที่อยู่เคียงข้างพระจันทร์ สร้างบรรยากาศสุดแสนประทับใจ

ยังไม่หมดแค่นั้น บรรดาซิงเกิลต่างๆ เช่น ‘Love’, ‘I’m not sorry’ และ ‘What 2 do’ ที่นำมาร้อง ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพราะเสียงร้องที่พลังดีไม่มีตกตลอดการแสดงของ DEAN ได้ใจแฟนๆ ไปเต็มๆ แต่เพลงที่ทำเอาแฟนคลับเซอร์ไพรซ์ที่สุด คือเพลง ‘Fanxy child’ และ ‘Where U At’ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะนำมาแสดงในคอนเสิร์ตนี้ด้วย แม้จะร้องไม่เต็มเพลง แต่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอิ่มเอมกับคอนเสิร์ตครั้งนี้จริงๆ

เมื่อการแสดงดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย DEAN วิ่งเข้าไปหลังเวทีพร้อมแกล้งหยอกแฟนๆ ว่าการแสดงจบลงแล้ว ทำให้ทุกคนต้องตะโกนเรียก“ดีน ดีน ดีน!” กันสนั่นฮอลล์อยู่พักใหญ่ และก็ไม่ผิดหวังเพราะ DEAN กลับมาบนเวทีอีกครั้งด้วยเพลง ‘Bermuda Triangle’ เวอร์ชันรีมิกซ์ ที่ระเบิดความสนุกส่งท้ายด้วยเสียงร้องและการแร็ปอันทรงพลังของเขา

ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งในคอนเสิร์ตนั้น DEAN ได้แสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงตัวตนและจิตวิญญาณนักดนตรี ผ่านบทเพลงและโชว์ที่เขาตั้งใจเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อแฟนเพลงทุกคน เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่สตูดิโอแห่งนี้ไม่อาจต้านทานกับพลังอันล้นเหลือของ DEAN เอาไว้ได้ ซึ่งถ้าหากว่ามีคอนเสิร์ตอีกในครั้งหน้า แฟนชาวไทยก็คงไม่ลังเลที่จะไปร่วมความสนุกอีกแน่นอน

นอกเหนือจากนั้นแฟนๆ ได้จัดเตรียมเซอร์ไพรส์เค้กวันเกิดให้กับ DEAN บนเวที เป็นบรรยากาศน่ารักอบอุ่นที่เกิดขึ้นระหว่างศิลปินและแฟนคลับ ซึ่ง DEAN ได้เปิดเผยให้เราได้ฟังว่า สำหรับพรวันเกิดปีนี้ก็คงไม่ขออะไรมาก นอกจากอยากให้ทุกคนติดตามและชื่นชอบซิงเกิลใหม่ของเขาที่กำลังจะปล่อยออกมาในเร็วๆ นี้

ได้ยินอย่างนี้แล้ว เรามาตั้งตารอกันดีกว่าว่าหนุ่ม DEAN จะนำบทเพลงแบบไหนมาเซอร์ไพรส์เราอีกนะ

ถ่ายภาพโดย ขจรศิริ อุ่ยมานะชัย