อย่าเพิ่งตกใจไป นี่เป็นเพียงข้อเสนอ ยังไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติจริง ไอเดียจากมูลนิธิเรโซลูชั่น (Resolution Foundation) เสนอว่า อาจจะดีถ้าจ่ายเงินให้มิลเลนเนียลในสหราชอาณาจักร 10,000 ปอนด์ (ราว 430,000 บาท) เมื่ออายุ 25 ปี เพื่อแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างวัย ระหว่างคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์สกับมิลเลนเนียล
แนวคิดนี้ชื่อว่า ‘มรดกของพลเมือง’ (citizen’s inheritance) ซึ่งมูลนิธิเรโซลูชั่น หน่วยงานคลังสมองสำคัญของสหราชอาณาจักร ใช้เวลาศึกษา 2 ปี คิดหาวิธีจัดสรรความมั่งคั่งไปให้คนหนุ่มสาวในเวลาที่เขาต้องการมากที่สุด เพราะเป็นวัยหาบ้าน จ่ายหนี้การศึกษา หรือเริ่มต้นทำธุรกิจ และลดความไม่พอใจต่อคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์สที่เกิดระหว่างปี 1946-1965 ซึ่งสามารถซื้อบ้านได้มากกว่าและมีบำนาญมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ
ในรายงานระบุว่า “คนหนุ่มสาวกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่มากกว่า และถือครองสินทรัพย์น้อยกว่าคนรุ่นก่อนหน้า เราต้องปรับสมดุลใหม่ หากเราต้องการรักษาประชาธิปไตยในการถือครองสินทรัพย์”
แคโรลีน แฟร์เบร์น (Carolyn Fairbairn) ผู้อำนวยการสมาพันธ์ภาคอุตสาหกรรมอังกฤษ (Confederation of British Industry -CBI) และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการมูลนิธิในฐานะตัวแทนจากภาคธุรกิจกล่าวว่า ความคิดที่ว่าคนหนุ่มสาวจะดูแลคนแก่ และคนแก่จะช่วยให้คนหนุ่มสาวมีชีวิตที่ดีกว่าคนรุ่นก่อนพังทลายลงแล้ว
การที่ตอนนี้ ลูกที่เป็นผู้ใหญ่แล้วยังคงอยู่บ้านพ่อแม่ หรือการที่พ่อแม่จ่ายค่าบ้านให้ซึ่งเรียกกันว่า ‘ธนาคารพ่อแม่’ ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
คนในยุคมิลเลนเนียลที่เกิดระหว่างปี 1981-2000 มักถูกเข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็นพวกช่างสำราญ จ่ายเงินค่ากาแฟและขนมปังปิ้งทาอะโวคาโดมากกว่าจ่ายค่าเช่าบ้าน แต่งานวิจัยพบว่า แม้ในปี 2001 คนที่อายุระหว่าง 25-34 ปีจะบริโภคเท่ากับคนที่อายุ 55-64 ปี แต่ทุกวันนี้พวกเขาบริโภคน้อยกว่า 15%
ผู้จัดทำรายงานกล่าวว่า “มันเป็นหน้าที่ของสังคมที่ต้องปรับตัวด้วย” เพื่อช่วยคนหนุ่มสาวที่มีหนี้การศึกษา ต้องจ่ายค่าบ้าน จึงเสนอให้รัฐบาลตั้งงบประมาณ 7 พันล้านปอนด์ต่อปี เพื่อจ่ายเงิน 10,000 ปอนด์ให้กับคนที่อายุ 25 ปี โดยมีข้อจำกัดในการใช้เงิน
เงิน 10,000 ปอนด์จะมาจากภาษีมรดก โดยเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีมรดกใหม่ ทุกวันนี้ผู้ที่ได้รับมรดก 1 ล้านปอนด์ขึ้นไปต้องเสียภาษี 40% ของกองมรดก รายงานนี้เสนอว่า ควรเปลี่ยนเป็นเก็บภาษี 20% ของมรดกที่มากกว่า 500,000 ปอนด์ และเก็บภาษี 30% ของมรดกที่มีมูลค่ามากกว่า 500,000 ปอนด์ขึ้นไปแทน
ความคิดนี้มาจากผลการวิเคราะห์ว่า ความมั่งคั่งจากมรดก (inherited wealth) มีผลต่อมาตรฐานความเป็นอยู่มาก ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างช่องว่างระหว่างสินทรัพย์ของวัย มันยังสร้างความเหลื่อมล้ำในหมู่มิลเลนเนียลด้วยกันเอง ที่พบว่าช่องว่างทางรายได้ภายในคนรุ่นเดียวกันสูงกว่าคนรุ่นก่อน รวมๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการเลื่อนฐานะทางสังคม
แม้มิลเลนเนียลได้รับประโยชน์จากอัตราจ้างงานที่สูงขึ้น มีการจ้างงานผู้หญิงมากขึ้นและช่องว่างของรายได้ระหว่างเพศน้อยลง แต่จากการศึกษายังพบว่ารายได้ของคนหนุ่มสาวที่อายุ 30 ปีทุกวันนี้ไม่ได้สูงกว่าคนรุ่นก่อน ทั้งที่เศรษฐกิจเติบโต 14% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับคนยุคเบบี้บูมเมอร์ส คนยุคมิลเลนเนียลที่ซื้อบ้านได้ภายในอายุ 30 ปี มีเพียงครึ่งหนึ่งและต้องเช่าบ้านอยู่มีจำนวนมากกว่า 4 เท่า
นอกจากนี้มิลเลนเนียลที่อายุ 20-29 ปี มีงานที่ไม่มั่นคงกว่าคนเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ที่เกิดในปี 1966-1980
มิลเลนเนียลบางคนบอกว่า ข้อเสนอนี้แทบจะไม่ส่งผลต่อการเงินของพวกเขาเลย ที่มีทั้งหนี้การศึกษาและค่าบ้าน บางคนคิดว่าถ้าไม่มีการใช้เงินอย่างฉลาด เงินอาจจะหมดลงอย่างรวดเร็วได้
อย่างไรก็ตาม กรรมการกล่าวว่า อาจจะให้ใช้เงินเฉพาะค่าบ้าน การศึกษา และเริ่มธุรกิจ หรือเก็บไว้เป็นบำนาญ
นิเกห์ เกรย์ อายุ 29 ปีที่อยู่ในลอนดอน กล่าวว่า “ฉันคงมีรอยยิ้มกว้างๆ ถ้าไม่มีข้อห้ามใดๆ เงินก็อาจจะหมดไปภายในเดือนเดียว แต่ถ้ามีข้อบังคับแล้วมันจะช่วยฉันได้อย่างไร เงิน 10,000 ปอนด์จ่ายค่ามัดจำยังไม่พอเลย และฉันไม่ต้องการจะยุ่งกับเงินบำนาญของตัวเองจนกว่าจะอายุ 30 ปลายๆ ฉันไม่อยากคิดไกลเกินไป”
ส่วนมาทิลดา มอร์แกน อายุ 29 ปี ในปีเตอร์สฟิลด์ บอกว่า “เงินจำนวนนี้ตอนอายุ 25 ปี อาจจะเปลี่ยนความสามารถในการหาบ้านของคุณ คุณอาจจะเก็บไว้ในรูปแบบของพันธบัตรก่อน สิ่งที่คนรุ่นก่อนไม่เข้าใจก็คือ ในช่วงเวลาหนึ่ง เงินเดือนขั้นต่ำช่วยให้คนสามารถซื้อของได้ แต่มันทำไม่ได้แล้วในตอนนี้ ฉันล้มเลิกความคิดที่จะซื้อบ้านเมื่อสองสามปีก่อนเพราะฉันรู้ว่าไม่มีทางซื้อได้”
- https://www.theguardian.com/money/2018/may/08/give-millennials-10000-each-to-tackle-generation-gap-says-thinktank
- https://www.ft.com/content/079b8786-5141-11e8-b24e-cad6aa67e23e
- https://news.sky.com/story/give-people-10k-when-they-turn-25-think-tank-says-11363530
