หลัง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน การออกมาประกาศว่าพร้อมส่งเสริมให้ประเทศมหาอำนาจอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) แทนรถยนต์พลังงานสันดาปแบบเต็มกำลัง โดยอย่างน้อยปี 2030 จะต้องมีผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด ไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรับมือกับปัญหาเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังรุกรานโลกถี่ขึ้นทุกวัน 

ด้านแบรนด์รถยนต์หลายยี่ห้อต่างก็น้อมรับนโยบาย เดินหน้าปรับเปลี่ยนนวัตกรรมเทคโนโลยีให้เป็นไปตามสภาพแวดล้อมโลก รวมถึงเทรนด์พฤติกรรมการใช้ของนักขับรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม โดย ‘ฟอร์ด มอเตอร์’ (Ford Motors) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก เพิ่งตัดสินใจร่วมมือกับ  ‘เร้ดวู้ด แมททีเรียล’ (Redwood Materials) บริษัทสตาร์ทอัพ มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้ให้บริการแปรสภาพขยะอิเล็คทรอนิกส์ ผลิตเซลล์แบตเตอรี่ ตลอดจนรีไซเคิลแบตเตอรี่ ก่อนหน้านี้เร้ดวู้ดอาจเคยรับรีไซเคิลแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเป็นงานหลักเสียส่วนใหญ่ ทว่าการร่วมงานกับฟอร์ดเป็นอะไรที่หินกว่านั้นเมื่อพวกเขาต้อง ‘ชุบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า’ ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้งหนึ่ง

“การเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ขับขี่หน้าใหม่ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา เพราะหากขั้นตอนรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าประสบความสำเร็จ นั่นหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องเฟ้นทรัพยากรใหม่ ต้นทุนการผลิตจึงถูกลง ทำให้ผู้ขับขี่เองสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาย่อมเยาว์ ทั้งนี้เพื่อสร้างรากฐานวงจรการผลิตระยะยาวให้มั่นคงต่อความต้องการของผู้ใช้ในประเทศสหรัฐฯ”  – ลิซ่า เดรค (Lisa Drake) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของฟอร์ดอธิบายถึงการวางแพลนชุบชีวิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ดเอาไว้ โดยยึดใจหลักใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด และเมื่อลดต้นทุนลง กำไรก็งอกเงยตามมา 

ฟากฝั่ง เร้ดวู้ด แมททีเรียล เผยว่าเบื้องต้นพวกเขาจะรับชิ้นส่วนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วัสดุหลัก อย่าง ลิเธียม นิกเกิล และทองแดง จากโรงงานผลิตรถยนต์ของฟอร์ด ณ รัฐเนวาดา ไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ซ้ำใหม่อีกครั้ง พร้อม ด้านฟอร์ดนอกจากจะส่งชิ้นชุดชิ้นแบตเตอรี่เพื่อนำไปรีไซเคิลแล้ว ยังทำหน้าที่ติดตามผู้ซื้อรถยนต์จากค่ายตนเองไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ประเภทมือหนึ่ง มือสอง หรือไปจนถึงมือสุดท้าย เพื่อติดตามนำรถยนต์ไฟฟ้าที่ปลดประจำการแล้วเข้าสู่ขั้นตอนรีไซเคิล ป้องกันผู้ใช้เอารถไปจอดทิ้งกลายเป็นเศษเหล็กเสียเปล่า

ปัจจุบันเร้ดวู้ดเดินหน้ารีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 ก้อน ขณะเดียวกันฟอร์ดก็กำลังเจรจากับ ‘เอสเค อินโนเวชั่น’ (SK Innovations) ตัวแทนผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในเรื่องของการเฟ้นหาส่วนประกอบที่มีเสถียรภาพสำหรับนำไปรีไซเคิล และด้วยความเอาจริงเอาจังเรื่องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่แน่ว่าในอนาคต ฟอร์ดและเร้ดวู้ด อาจกลายเป็นพาร์ทเนอร์สุดแกร่งในตลาดรถยนต์โลก ตราบใดที่ เทสล่าร์ ต้นสังกัดเก่าของ ‘เจฟฟรีย์ ไบรอัน’  (Jeffrey Brian Straubel) ซีอีโอเร้ดวู้ด ยังง่วนไม่ตกกับปัญหานำเข้าวัสดุและฝังกลบขยะแบตเตอรี่

.

ภาพ: Reuters, Ford Motors

.

ที่มา:

https://www.cnbc.com/2021/09/22/ford-signs-deal-with-redwood-materials-to-recycle-ev-batteries-.html?fbclid=IwAR0Y1Ziw6yJXoEAQn0eBp_qAziiMgl8KskuK93oQ6I1Aaag0zdE8O6uvvcM

https://www.theguardian.com/environment/2021/aug/05/biden-electric-vehicles-goal-2030-climate-crisis

https://techcrunch.com/2021/09/22/ford-partners-with-battery-recycling-and-materials-startup-redwood-materials-amid-ev-push/

https://www.theverge.com/2021/9/22/22687116/ford-redwood-materials-electric-vehicle-battery-recycling-jb-straubel

-https://www.automotivelogistics.media/ford/ford-and-redwood-materials-form-ev-battery-recycling-partnership/42315.article

 

Tags: , , , , ,