หลายคนอาจคิดว่า การสร้างแบรนด์แบรนด์หนึ่งขึ้นมาคือแค่ตั้งชื่อที่มีความหมาย ทำโลโก้ที่เต็มไปด้วยสัญญะ ซึ่งนั่นเป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นของการสร้างตัวตนของแบรนด์ (Brand Identity) เท่านั้น แต่สิ่งที่จะทำให้แบรนด์ของเราเติบโตไปได้และสำเร็จในระยะยาวก็คือ การมีแนวคิดทางธุรกิจที่กล้าหาญมั่นคง พร้อมปรับตัวเพื่อมุ่งหน้าไปสู่อนาคต
และภายใต้แนวคิดดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า ‘Dare to Leap’ ของแบรนด์ ‘realme’ ก็ได้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตได้เร็วที่สุดในโลก
realme ก่อตั้งขึ้นโดย สกาย หลี่ (Sky Li) และมีทีมงานรุ่นใหม่ไฟแรงคอยบริหารอยู่เคียงข้าง จนสามารถปั้นแบรนด์เล็กๆ ที่หลายคนแทบจะไม่รู้จักในช่วงนั้น ให้กลายมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่เติบโตได้รวดเร็วที่สุดในโลก ในระยะเวลาเพียง 3 ปี ด้วยยอดขายกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ตามข้อมูลสถิติของ Strategy Analytics บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาด
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลบริษัทวิจัย International Data Corporation (IDC) ระบุว่า realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 ด้วยอัตราการเติบโตปีต่อปีอยู่ที่ 149% ส่วนในตลาดประเทศไทย ตามรายงานการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ Canalys พบว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ realme ได้ติด 1 ใน 5 แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำในตลาดประเทศไทย แถมยังครองตำแหน่งแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 7 ของโลกอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย
คำถามคือ realme สามารถประสบความสำเร็จด้วยเวลาอันสั้นนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่แบรนด์สมาร์ทโฟนเกิดขึ้นมากมาย และแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั่วโลก
realme เริ่มจากการเน้นเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่ และพัฒนาสมาร์ทโฟนคุณภาพสูงที่มีความล้ำสมัยอยู่ตลอดเวลา ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยี AIoT ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้ realme ยังสามารถขยายตลาดไปสู่ระดับสากลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยรูปแบบช่องทางจำหน่ายของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ครอบคลุม จนทำให้แบรนด์ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย
ควบคู่กันนั้น แนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ realme คือ Dare to Leap ด้วยจำนวนพนักงานที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความเชื่อมั่นแรงกล้า และมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และการตลาดเป็นอย่างดี ผสมผสานกันจนก่อร่างขึ้นมาเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างความเป็นผู้นำให้กับตัวพนักงาน ช่วยให้พนักงานทุกคนกล้าที่จะเสี่ยง กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง พัฒนาศักยภาพของพนักงานและองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ
แต่ realme ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแค่นี้ พวกเขาตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้าว่าจะต้องขยายธุรกิจให้กว้างขึ้นไปอีก รวมถึงมีผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนของพวกเขาจำนวน 300 ล้านเครื่อง ภายใต้กลยุทธ์ 2 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ
1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ผ่านกลยุทธ์ ‘1+5+T’
1 หมายถึง สมาร์ทโฟน เนื่องจากสมาร์ทโฟน realme เป็นศูนย์กลางของ AIoT ecosystem ของเทคโนโลยีสินค้าทั้งหมดภายในแบรนด์ 5 หมายถึง หมวดหมู่หลักสาหรับผลิตภัณฑ์ AIoT ของ realme ซึ่งประกอบด้วย True Wireless Stereo (TWS), อุปกรณ์สวมใส่, ทีวี, ลำโพงอัจฉริยะ และแล็ปท็อป ส่วน T ย่อมาจาก TechLife มุ่งเน้นไปที่สินค้า 3 หมวดหมู่ ได้แก่ Smart Entertainment Smart Care และ Smart Connect โดยทั้งหมดนี้จะมี realme Link แอพพลิเคชันเชื่อมต่อระหว่างกัน เป็นศูนย์กลางของ realme’s AIoT ecosystem เพื่อมอบประสบการณ์ AIoT ที่สมบูรณ์ให้กับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
2. สินค้า Flagship ในปี 2021
realme ประเทศไทย ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ล่าสุดอย่าง realme GT Master Series เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง (Flagship) ที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานผ่านผลิตภัณฑ์ของ realme ได้ดีที่สุด ทั้งการออกแบบและฟีเจอร์ใหม่ๆ ในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมี realme book แล็ปท็อปเครื่องแรกของ realme ที่มาพร้อมจอแสดงผล 2K และประสิทธิภาพตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ดังที่เกริ่นไปตอนต้นว่า การมีผลิตภัณฑ์คุณภาพและกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งนั้น คงไม่เพียงพอที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ยังต้องอาศัย ‘ความกล้า’ กล้าที่จะคิด กล้าที่จะทำ และกล้าที่จะทำอะไรแปลกใหม่อยู่เสมอ เช่นเดียวกับ realme นั่นเอง
realme จึงใช้โอกาสนี้จัดงาน Fan Festival 2021 เพื่อเฉลิมฉลอง ’100M User’ กับแคมเปญที่ปลุกความกล้า ท้าให้คนรุ่นใหม่ได้พิสูจน์ตัวเองไปกับแคมเปญ ‘Daring Heroes Wild Poster Event’ โดยให้ทุกคนส่งรูปที่สะท้อนให้เห็นถึงความกล้าในแบบฉบับของตัวเอง พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังภาพนั้นให้ผู้คนทั่วโลกได้ฟัง ในหัวข้อ ‘How Dare You Be You’ ทุกภาพที่ได้รับคัดเลือกจากแคมเปญนี้จะถูกนำไปจัดแสดงใจกลางเมืองสำคัญของโลกอย่างลอนดอน มอสโก มาดริด และเซินเจิ้น
สำหรับ realme FanFest ในประเทศไทย realme ได้ร่วมมือกับ Shopee เพื่อจัดแคมเปญสุดพิเศษ ‘realme Fan Fest X Super Brand Day’ โดยมอบส่วนลดพิเศษให้กับแฟนๆ realme ในประเทศไทยอีกด้วย
จากความสำเร็จในครั้งนี้ คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ความท้าทายและความกล้าในอีก 3 ปีข้างหน้าที่ realme ได้ตั้งเป้าให้กับตัวเองนั้น จะสามารถประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใดกันแน่
Tags: realme, realme59, DareToLeap, Advertorial, Branded Content