“แล้วพวกเขาก็ครองรักกันอย่างมีความสุข” เป็นประโยคจบของเทพนิยายชวนฝันแบบเจ้าชายกับเจ้าหญิงที่ทิ้งเราไว้กับความมั่นใจแห่งอนาคตแสนหวาน จุดจบที่แท้จริงเป็นเพียงบทเริ่มต้นของชีวิตคู่ยาวนาน (ระยะเวลาจริงกับระยะเวลาในใจนั้นแปรผกผันกันเสมอ) ที่ต้องฝ่าฟันกันต่อไป และไม่ใช่ทุกคู่ที่ไปถึงจุดหมายปลายทางของฝันที่ชวนไว้
คำถามที่น่าสนใจคือ แล้วถ้าไปไม่ถึงจุดหมาย ระหว่างทางนั้นเกิดอะไรขึ้น?
เพราะความรักเมื่อมีได้ก็หมดได้ ในการประคองคู่ของนาวาชีวิตจึงมีหลายตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทอง ความคาดหวัง ผู้สืบทอดสกุล การนอกใจ ความเข้าใจผิด ความเบื่อหน่ายในความซ้ำเดิม เรื่องราวที่คาดไม่ถึง ไปจนถึงความจริงในใจ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เปิดเผยแต่ปิดบัง องค์ประกอบเหล่านี้คือสิ่งที่พบเห็นได้ในชีวิตทั่วไป หากเราจะตั้งใจมอง แต่ด้วยความเร่งด่วนของการใช้ชีวิตที่ทำให้เราไม่ใส่ใจ เหตุหนึ่งที่สำคัญคือเพราะไม่ใช่เรื่องของเรา อีกเหตุที่ไม่หย่อนไปกว่ากันคือเราคิดเสมอว่าชีวิตเราจะไม่เป็นแบบนั้น นี่ยังไม่กล่าวถึงเมื่อรักบังตา
ในรวมเรื่องสั้น มือสมัครเล่น (Beginners) ของเรย์มอนด์ คาร์เวอร์ (Raymond Carver) เรื่องราวความรักและชีวิตคู่ของคนธรรมดาทั่วไป (ที่เป็นเจ้าหญิงและเจ้าชายในฝันของกันและกัน) ถูกนำมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันผ่านประเด็นต่างๆ ภาพที่เกิดขึ้นเป็นตัวแทนของความล่มสลายที่กำลังจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นแล้ว และซากปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่
หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นชีวิตใหม่ และไปซื้อของเลหลังจากบ้านของชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะเคยมีครอบครัวที่หวานชื่น หรือชีวิตกำลังจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง? นักถ่ายภาพมือพิการทั้งสองข้างคนหนึ่งถ่ายภาพบ้านของชายที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งไป ชายวัยกลางคนที่ครอบครัวกำลังล่มสลายต้องการความพึ่งพาทางใจจากแม่ของเขาที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้กับชายมากหน้าหลายตา ชายที่พยายามเยียวยาบาดแผลของความรักที่เกิดจากการที่เขาเป็นฝ่ายนอกใจ หญิงวัยกลางคนที่รู้ว่าความฝันที่วาดไว้ไม่มีทางไปถึง การสูญเสียสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในครอบครัว ชีวิตคู่ชาชินที่พอกพูนความน่าเบื่อหน่ายจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น การพังทลายของความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การค้นพบว่าคนที่อยู่ด้วยกันทุกวันมีอีกใบหน้าที่ไม่เคยมองเห็น ความอ่อนหัด ฯลฯ
เรื่องราวเหล่านี้ถูกเล่าอย่างกระชับและเรียบง่ายคล้ายเป็นบทสนทนาโต้ตอบกับผลลัพธ์ที่คาดหวังจากความรัก ผู้เข้าร่วมสนทนาแต่ละคนต่างมีมุมมองที่ต่างกันไป แต่ละเรื่องถูกระบายด้วยความมึนเมาในชีวิต ทั้งที่เกิดขึ้นจริงจากเครื่องดื่มอันเป็นองค์ประกอบเชิงประจักษ์ของเรื่องเล่า และความมึนเมาในเชิงอุปมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คาร์เวอร์ใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในด้านลบของความรักพาเราเข้าไปสู่ความซับซ้อนของจิตใจที่มีต่อสิ่งที่เรียกว่าสถาบันครอบครัว ประสบการณ์ต่างๆ ที่ถูกนำมาถ่ายทอดให้เห็นว่าปลายทางของความไม่สมหวังในชีวิตแต่ละแบบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร สิ่งที่น่าประหลาดใจและเห็นได้ชัดเจนจากเรื่องราวที่บอกเล่าคือ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่จุดเปลี่ยนเพียงเล็กๆ กลับทำให้จุดจบเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและหดหู่ (ทางหนึ่งก็เป็นการย้อนเอาว่าชีวิตก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ)
สิ่งที่ทำให้ภาพปรากฏในเรื่องสั้นของคาร์เวอร์มีเสน่ห์คือการเปิดเผยเรื่องที่ไม่มีใครอยากเล่า เราอาจเห็นร่องรอยของความโศกเศร้าบนใบหน้า เห็นหยาดน้ำตาและการสะอึกสะอื้น หรือแม้กระทั่งรอยฟกช้ำดำเขียวจากการทำร้ายร่างกายที่พบเห็นในผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปในชีวิตประจำวัน แต่น้อยครั้งที่เราจะเห็นที่มาที่ไปจริงๆ เว้นแต่ว่าเราจะเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด หรือเป็นผู้ก่อการนั้นเสียเอง
เมื่อเรื่องที่ไม่มีใครอยากเล่า ถูกนำมาเล่าบนชั้นเชิงของความเรียบง่าย ความแข็งแรงของอุดมคติในนามแห่งความรักก็ถูกตั้งคำถาม เรื่องราวที่สั่นคลอนจิตใจแต่ละเรื่องทำให้ฝันต้องถูกกลับมาย้อนมองด้วยสายตาใหม่ ความรักจะพาเราไปถึงฝั่งฝันจริงหรือไม่ เรือรักของเราจะอับปางลงด้วยคลื่นลมเหล่านี้หรือเปล่า คำถามที่แฝงตัวอยู่ในเรื่องเล่าเหล่านี้ไม่ได้ถูกถามเพื่อต้องการคำตอบ แต่เป็นการถามนำโดยอ้อมว่าเคยคิดถึงคำถามเหล่านี้บ้างไหม คิดอย่างจริงจังกับมันอย่างเรียบง่าย เพราะคำตอบที่ยากและซับซ้อนที่สุดนั้นควรต้องแก้ด้วยวิธีที่เรียบง่ายที่สุด
เช่นนี้แล้ว มือสมัครเล่น จึงเป็นรวมเรื่องสั้นที่ว่าด้วยภาพจริงที่เกิดขึ้นหลังม่านฝันของเทพนิยายที่รูดปิดลง และมีเจ้าชายและเจ้าหญิงมากมายที่ตกอยู่ในภาวะของ “แล้วพวกเขาก็ครองรักกันและพบว่าไม่มีความสุข” พวกเขาอยู่ในภาวะของการกลับไม่ได้ไปไม่ถึง และถึงแม้จะรู้ว่ามีเส้นทางที่ถูกต้องอยู่ข้างหน้า แต่พวกเขาก็อับจนต่อหนทางไป
หากเปรียบ มือสมัครเล่น เป็นอาหาร รสหลักของมื้อนี้คือความขม ทว่า รสขมที่คาร์เวอร์ปรุงขึ้นนั้นเป็นส่วนผสมที่แตกตัวออกมาจากความหวาน ซึ่งหากเราเปิดใจให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของความขมที่ถูกเลือกมานำเสนอ สุดท้ายแล้วเราอาจมองเห็นและเข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้รักษารสหวานให้นานที่สุดในการอยู่กินไปด้วยกัน
Fact Box
- มือสมัครเล่น (Beginners) ตีพิมพ์ครั้งแรกเป็นภาษาอังกฤษในปี 2009 ก่อนหน้านี้เรื่องสั้นชุดนี้ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1981 ในชื่อ What We Talk About When We Talk About Love เรื่องสั้นทั้งหมดในการตีพิมพ์ครั้งแรกถูกตัดและดัดแปลงแก้ไขในขั้นตอนของบรรณาธิการโดยกอร์ดอน ลิช (Gordon Lish) ซึ่งเป็นเพื่อนของคาร์เวอร์
การดัดแปลงผลงานของลิชส่งผลอย่างมากต่อชื่อเสียงและสไตล์ในการเขียนของคาร์เวอร์
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวความซับซ้อนของการลบ/เขียนใหม่และความขัดแย้งระหว่างคาร์เวอร์กับลิช สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทตามท้ายเล่มที่เขียนขึ้นอย่างแยบยลและพิสดารโดยก่อ วิช ปกรณ์ พงศ์ ญา (ก่อพงศ์ วิชญาปกรณ์) - ชื่อ What We Talk About When We Talk About Love ที่ถูกเขียนขึ้นใหม่จากการลบ Beginners ออกของลิช เป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อหนังสือ What We Talk About When We Talk About Running ของฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami)
- มือสมัครเล่น แปลโดย ภชภร ด่านวิรุฬหวณิช จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บทจร
- เรื่องที่ผู้เขียนชอบที่สุดห้าอันดับแรกคือ เรื่องที่ 16, 1, 8, 10 และ 11 ตามลำดับ ส่วนเรื่องที่เหลือสามารถเบียดขึ้นมาอยู่ในลำดับที่สี่และที่ห้าได้ในวาระต่างๆ ถ้ามีอะไรมากระทบใจ แต่ไม่สามารถขึ้นมาอยู่ในสามอันดับแรกได้