วานนี้ (16 ก.ย.) ประทีป คงสิบ ผู้อำนวยการสถานีวอยซ์ทีวี โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.-17 ต.ค. นี้  สถานีจำเป็นต้องเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการ Wake Up News โดย ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ และ วิโรจน์ อาลี จะหยุดดำเนินรายการชั่วคราว รวมถึงคอลัมน์ เวคอัพ การ์ตูน โดย ‘เซีย’ ก็จะต้องหยุดพักด้วย

สำหรับสาเหตุของการเปลี่ยนผู้ดำเนินรายการ ประทีประบุว่า ” เหตุผลเพราะ ‘ผู้มีอำนาจ’ ในการชี้ชะตาเรา ไม่พอใจอย่างแรงกับการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ ของผู้ดำเนินรายการทั้งสองท่าน รวมทั้งการ์ตูนโดยคุณเซีย หากเราไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย’ สถานการณ์ของ ‘วอยซ์ทีวี’ จะอยู่ในจุดที่อันตราย”

เขาระบุว่า ที่ผ่านมา วอยซ์ทีวีต้องพักงานของผู้ดำเนินการมาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล, ใบตองแห้ง อธึกกิต แสวงสุข, คำ ผกา, พัชยา มหัทธโนธรรม

“อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ ‘วอยซ์ทีวี’ ทำ เป็นเสรีภาพของการทำหน้าที่สื่อมวลชนในระบอบประชาธิปไตย  และไม่ผิดกฎหมายข้อไหน แต่ที่ผิด เพียงเพราะ ‘ไม่ถูกใจ’ ผู้มีอำนาจเท่านั้น” ประทีประบุและว่า “ถึงที่สุด เราจึงยังสงวนสิทธิ์ที่จะไปสู้ในกระบวนการยุติธรรม”

ด้าน ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการที่ถูกพักงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดจากการกดดันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งอ้างว่าคนใกล้ชิดผู้มีอำนาจต้องการ

ศิโรตม์เล่าว่า ‘องค์กรซึ่งใช้อำนาจคุมสื่อ’ เรียกวอยซ์ทีวีไปพูดคุยเกี่ยวกับรายการในวันที่เขาไม่ใช่ผู้ร่วมจัด ด้วยเหตุผลว่ารายการในวันนั้นมีภาพของทักษิณ ชินวัตรและผู้ชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งมากเกินไป และต่อมา ผู้มีอำนาจในองค์กรดังกล่าวก็บอกว่า ศิโรตม์แสดงความเห็นเสียดสีและไม่เป็นกลาง

“จากนั้นการกดดันให้ผมหายไปจากหน้าจอก็เกิดขึ้น” ศิโรตม์ระบุ

ทั้งนี้ เขายืนยันว่า ที่ผ่านมา ได้ขีดเส้นการวิจารณ์ผลงานรัฐบาลนี้อย่างตรงไปตรงมา ไม่โจมตีเรื่องเผด็จการ ไม่พูดเรื่องที่มาจากรัฐประหาร ไม่แตะเรื่องบุคลิกภาพ และไม่เคยฉวยโอกาสใช้เรื่องไม่มีมูลเพื่อใส่ร้ายรัฐบาล

“สำหรับรัฐบาลนี้ ผมเห็นว่าผลงานท่านมีปัญหาเหมือนรัฐบาลอื่นๆ ผมวิจารณ์รัฐบาลท่านเหมือนวิจารณ์รัฐบาลยิ่งลักษณ์เรื่องผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม และรัฐบาลอภิสิทธิ์สลายการชุมนุมสมัยพี่ผม (องอาจ คล้ามไพบูลย์) เป็นรัฐมนตรี”

“ผมชี้แจงเรื่องทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดข่าวว่าผมหายไปจากหน้าจอเพราะ ‘ต่อต้านรัฐบาล’ หรือ ‘ถูกแบน’ เพราะข้อเท็จจริงคือผู้สั่งไม่ได้บอกว่าผมโจมตีใคร, ผิดอะไร และผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นในความเป็นจริง” ศิโรตม์ระบุ

เมื่อปี 2017 ฟรีดอมเฮาส์ องค์กรที่จับตาเรื่องสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพพลเมือง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา จัดอันดับเสรีภาพสื่อของไทยอยู่ที่ ‘ไม่เสรี’ โดยตอนหนึ่งของรายงานระบุว่า ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2014 เป็นต้นมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งมีหน้าที่ออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคม และกำกับสื่อนั้น ไม่มีความเป็นอิสระในการทำงาน โดยมีการทำงานใกล้ชิดกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการบังคับใช้คำสั่ง คสช. ปิดกั้นสื่อ

ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพ โดย iLaw ณ เดือนกรกฎาคม ระบุว่า ที่ผ่านมา กสทช. ใช้อำนาจควบคุมดูแลเนื้อหาที่วอยซ์ทีวีนำเสนอแล้ว ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง (ทั้งนี้ไม่นับรวมการระงับการออกอากาศครั้งแรกหลังรัฐประหาร) แบ่งเป็นการตักเตือน 9 ครั้ง, การปรับปรุงเนื้อหารายการ 2 ครั้ง, การระงับการออกอากาศรายการ 7 วัน 2 ครั้ง, การระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 10 วัน 1 ครั้ง, การระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 7 วัน/ปรับ 50,000 บาท 1 ครั้ง, การระงับการออกอากาศทั้งสถานี 7 วัน 1 ครั้ง, การระงับการออกอากาศรายการ 15 วัน 1 ครั้ง, การระงับการออกอากาศรายการ 3 วัน 2 ครั้ง และทำความเข้าใจ 1 ครั้ง

 

ที่มา:

  • https://www.facebook.com/tawan.ten/posts/1859087900812661
  • https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10156746433452704
  • https://freedomhouse.org/report/freedom-press/2017/thailand
  • https://freedom.ilaw.or.th/blog/Statistics-on-media-punishments-by-NBTC-since-2014coup

 

Tags: , , , , ,