“ธนดิษยังจะเหมาะเป็นหัวหน้ามากกว่ากฤตนัยเสียอีก”
หลายครั้งเรามักรู้สึกว่า ใครบางคน ‘เหมาะสม’ กับตำแหน่งมากกว่าคนที่กำลังอยู่ในตำแหน่งนั้นจริงๆ โดยเฉพาะกับตำแหน่ง ‘ผู้นำ’ ความคิดนี้อาจเกิดได้ในแทบทุกมิติทั้งที่โรงเรียน ที่ทำงาน กลุ่มทางสังคม หรือระดับการปกครอง สิ่งนี้มีสาเหตุมาจากทั้งเชิงวัตถุและเชิงจิตวิทยา
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรับมือหรือจัดการกับความรู้สึกดังกล่าวได้ จนหลายครั้งก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งความไม่พอใจ ความเข้าใจผิด จนทำให้เกิดการไม่ยอมรับ ที่นำไปสู่ความบาดหมางที่ยากเกินจะแก้ไข
ทำไมเราจึงมีความรู้สึกเช่นนั้น
เป็นเรื่องปกติที่พนักงานมักจะเห็นเฉพาะผลงานที่ ‘จับต้องได้’ ของหัวหน้า เช่น การพูดในที่ประชุม การแก้ไขปัญหาตรงหน้า แต่มักมองไม่เห็นงาน ‘เบื้องหลัง’ ที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กร เช่น การประชุมกับผู้บริหาร หรือการวางแผนงานประจำปี สิ่งนี้จึงก่อให้เกิดความเข้าใจผิดจากสิ่งที่มองเห็นว่า มีคนทำได้ดีกว่า ทั้งที่งานจริงๆ อาจต่างกัน
อีกประเด็นคือ อคติที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่มองเห็น เพราะในบางสังคม ใครที่พูดเก่ง พูดคล่อง มีเสน่ห์น่าดึงดูด หรือเก่งด้านเทคนิค ผู้คนก็มักคิดว่า คนคนนั้นน่าจะเป็นหัวหน้าที่ดีด้วย แม้สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ ‘การบริหาร’ เลยก็ตาม นั่นทำให้หัวหน้าที่อาจดูบุคลิกตรงกันข้ามถูกมองว่าไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการเปรียบเทียบกับภาพในใจที่เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล บางคนมีภาพหัวหน้าในอุดมคติที่ต้องเด็ดขาด บางคนอยากให้ใจดี บางคนอยากให้เก่งรอบด้าน เมื่อหัวหน้าในปัจจุบันอาจไม่ได้ตรงกับภาพนั้น เราจึงมองว่าใครก็ตามที่ใกล้เคียงกว่า ‘เหมาะสมกว่า’ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครที่เพอร์เฟกต์รอบด้าน
การเปรียบกับภาพในใจก็ส่งผลต่อมาสู่เรื่องของความคาดหวัง หัวหน้าบางคนอาจเก่งเรื่องกลยุทธ์ แต่ไม่เก่งเรื่องการดูแลคน เราจึงคิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง เพราะสิ่งที่คาดหวังไม่ตรงกับสิ่งที่หัวหน้าทำ
อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดและไม่ได้หมายความว่า ความคาดหวังของคนทำงานที่มีต่อผู้นำจะเป็นเรื่องผิด แต่จะดีกว่าไหม หากสามารถเปลี่ยนความคาดหวังหรือความไม่พอใจ ให้กลายเป็นประโยชน์ มากกว่าทำให้เป็นปัญหา
แล้วจะทำยังไงดีล่ะ
ตั้งสมมติฐานและตรวจสอบ: ลองจดบันทึกว่าเรารู้สึกว่า หัวหน้า ‘ขาด’ เรื่องอะไร เช่น ขาดการสื่อสารที่ดี ขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจ ขาดการความชัดเจน หรือขาดความเห็นอกเห็นใจ แล้วลองถามตัวเองว่า นี่คือปัญหา ‘ด้านผลงาน’ ที่แท้จริง หรือเป็นเพียง ‘สไตล์’ ของหัวหน้าที่ไม่ถูกใจเราเท่านั้น
ช่วยเสริมบางสิ่งที่ขาด: หากพบว่าสิ่งที่หัวหน้าขาดคืออะไร ลองช่วยเสริมในสิ่งที่เขาขาดไป เช่น สรุปข้อมูลบางเรื่องให้หรือติดตามงานเล็กๆ ที่ทำให้ทีมเดินได้ ถ้าหากระดับความใกล้ชิดในองค์กรมีมาก และเราใกล้ชิดกับหัวหน้าพอสมควร ลองฟีดแบ็กสิ่งที่รู้สึกด้วยความชัดเจน สร้างสรรค์ เป็นมืออาชีพ และเสนอแนวทางตรงๆ โดยการใช้ ‘ข้อเท็จจริง’ ที่เกิดขึ้น อันนำไปสู่ ‘ผลกระทบ’ ที่ทำให้ทีมเสียหาย หรือเสียโอกาส เพื่อให้การฟีดแบ็กมีน้ำหนักเพียงพอมากกว่าพูดลอยๆ
สร้างเครดิตให้คนอื่นด้วยผลงาน: หากรู้สึกอย่างแท้จริงว่า มีคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ก็ควรใช้วิธีทำให้ทีมมองเห็นศักยภาพของคนคนนั้นจากผลงานและข้อมูล มากกว่าปล่อยข่าวลือ นินทา หรือบ่อนทำลายหัวหน้าที่อยู่ในตำแหน่ง โดยการส่งเสริมให้คนที่คิดว่าเหมาะสมได้แสดงฝีมือจากบทบาทเล็กๆ ก่อน เช่น มอบหมายให้เป็นคนนำทีมประชุม ให้เป็นผู้นำโปรเจกต์ย่อย สิ่งนี้จะทำให้เขาได้ ‘โชว์’ ความสามารถอย่างแท้จริงให้คนอื่นเห็น
จัดการอารมณ์ของตัวเอง: หากรู้สึกถึงความไม่เหมาะสม เราสามารถพูดคุยหรือระบายกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการพูดในที่สาธารณะ เพราะอาจส่งผลตรงกันข้ามคือทำลายความน่าเชื่อถือของเราเอง แต่ให้ ‘รวมพลัง’ ในการหาวิธีแก้เชิงระบบแทน เช่น เสนอให้มีการประชุมรายสัปดาห์ หาตัวชี้วัด (KPI) ผลงานที่ชัดเจน มากกว่าการโจมตีตัวบุคคล
ชี้ปัญหาให้อำนาจที่สูงกว่า: ในกรณีที่หัวหน้าไม่สามารถจัดการกับทีมให้เดินหน้าอย่างมีระบบได้ การยกระดับปัญหาไปอีกขั้นก็สามารถทำได้ โดยการจดบันทึกพฤติกรรม ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทีม และข้อเสนอแนะแก้ไขพร้อมกับตัวชี้วัดมากกว่าแค่การร้องเรียน เพื่อหาโอกาสในการประชุมกับผู้บริหารระดับสูงต่อไป
ความรู้สึกว่ามีคนที่ ‘เหมาะสม’ กว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการ ‘เปลี่ยน’ ความรู้สึกนั้นให้กลายเป็นการกระทำที่มีประโยชน์ เป็นมืออาชีพ ช่วยให้หัวหน้าเกิดการพัฒนา และทำให้องค์กรดีขึ้นจริง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว หากหัวหน้าไม่มี ‘ความสามารถ’ ที่แท้จริง ก็จะกระเด็นตกเก้าอี้ไปเอง
ถ้าไม่มีการเมืองในที่ทำงานมาเกี่ยวข้องนะ
ที่มา:
– https://www.forbes.com/sites/glennllopis/2014/07/07/what-to-do-when-you-dont-trust-your-leader/
– https://www.iod.com/resources/business-advice/leadership-in-the-workplace/
– https://medium.com/swlh/5-actions-to-take-when-you-feel-like-quitting-leadership-bd1023c24bf2
Tags: การทำงาน, leadership, Wisdom, WorkPlace, หัวหน้า, ลูกน้อง, จิตวิทยา