เมื่อวานนี้ (15 กันยายน 2568) ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ ‘แบงก์ชาติ’ ออกมาแถลงถึงสาเหตุการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีจำนวนมากในช่วงนี้ ตลอดจนแนวทางการลดผลกระทบมาตรการจัดการบัญชีม้า
ดารณีเปิดเผยว่า การระงับทำธุรกรรมที่มีจำนวนมากในช่วงนี้เป็นผลจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นความพยายามในการกวาดล้างบัญชีม้าและการต่อเส้นเงิน
ดารณีกล่าวต่อว่า การต่อเส้นเงินมาจากกระบวนการหักเงิน ที่ถูกหลอกให้โอนโดยมิจฉาชีพให้อยู่ในระบบมากที่สุด เพื่อนำมาคืนเหยื่อกับป้องกันผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์
โดยการต่อเส้นเงินที่ว่ามานั้นมีการเชื่อมโยงข้อมูลมากขึ้น จากการรวบรวม e-Money เข้ามาในระบบเพิ่มเติมจากที่เมื่อก่อนครอบคลุมเพียงแค่ธนาคารพาณิชย์เท่านั้น จึงทำให้เส้นเงินยาวขึ้นและกระทบกับผู้คนจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติยังได้หารือกับศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.), กองบัญชาการตำรวจสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พร้อมทั้งธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เห็นชอบร่วมกันในการปรับแนวทางการระงับธุรกรรม และกระบวนการปลดการระงับบัญชี เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
โดยกระบวนการ แบงก์ชาติได้สั่งให้ธนาคารพาณิชย์เร่งกวาดล้างบัญชีม้าและต่อเส้นเงินเท่าที่จำเป็น ระบุบัญชีมิจฉาชีพอย่างถูกต้องให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งลดระยะเวลาการปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ให้เร็วขึ้นภายใน 4 ชั่วโมงหรือภายใน 1 วัน
ขณะที่กระแสข่าวการแห่ถอนเงินสด แบงก์ชาติยืนยันว่า ยังไม่พบการถอนเงินฝากออกจากระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้สถาบันการเงินได้เตรียมพร้อมสภาพคล่องรองรับการถอนเงินอยู่เรียบร้อยแล้ว
Tags: การเงิน, ธนาคารแห่งประเทศไทย, อาชญากรรม, แบงก์ชาติ, บัญชีม้า