ในวันที่คนเมืองต้องเผชิญกับความเร่งรีบ มลพิษ และคุณภาพชีวิตที่หดสั้นลงเรื่อยๆ การได้กลับบ้านมาเจอต้นไม้เขียวๆ สักต้น หรือได้หายใจในพื้นที่สงบสักพัก กลายเป็นความสุขเล็กๆ ที่มีความหมายอย่างยิ่ง สิ่งนี้สะท้อนปัญหาของคนเมืองว่า กำลังขาดพื้นที่ที่เชื่อมโยงตัวตนกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
‘ภิรัชบุรีกรุ๊ป’ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและเล็งเห็นว่า การมีพื้นที่สีเขียวให้ผู้คนได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติมีความสำคัญมากเพียงใด จึงได้เปิด SAMA Garden (สมาการ์เด้น) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในพื้นที่ไบเทคบุรี ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง พร้อมสร้างการรับรู้ถึงการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติได้จริงในทุกวัน
SAMA Garden ไม่เพียงแค่เป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังเป็นคอมมูนิตี้สำหรับผู้ที่มีวิถีชีวิตรักธรรมชาติและเชื่อในแนวคิด Green Living ให้ได้แบ่งปันเรื่องราวและเติบโตไปด้วยกันในบรรยากาศที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่าย โดยคำว่า ‘สมา’ ในชื่อโครงการสะท้อนถึงแนวคิดของ ‘สมาคม’ และ ‘สมาพันธ์’ ที่เชื่อในการรวมตัวและเชื่อมโยงของผู้คนที่มีความสนใจร่วมกัน ทำให้ SAMA Garden เป็นทั้งพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างสังคมที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในบรรยากาศเดียวกัน
เราได้พูดคุยกับ มนต์-ปิติภัทร บุรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภิรัชบุรีกรุ๊ป และผู้ก่อตั้ง SAMA Garden ถึงเบื้องหลังการเนรมิตพื้นที่ 1.1 หมื่นตารางเมตรบนไบเทคบุรีให้กลายเป็น ‘สวน 0 นาที’ ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ โดย SAMA Garden ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์รวมต้นไม้ แต่คือ Green Lifestyle Centre ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงผู้คนกับธรรมชาติ เยียวยาทั้งคนและสังคม ผ่านแนวคิด Green Living ที่เรียบง่าย เข้าถึงได้ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตคนเมืองอย่างเป็นธรรมชาติ
SAMA Garden เติมเต็มคุณภาพชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติ
ย้อนกลับไปในปี 2020 ช่วงโควิด-19 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ ปิติภัทรเล่าว่า ธุรกิจที่เขาดูแลต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ช่วงเวลานั้นจึงกลายเป็นโอกาสให้เขาหยุดคิดและทบทวน ทั้งชีวิตส่วนตัวและทิศทางธุรกิจ
การได้ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้เขาเห็นว่า บ้านไม่ใช่แค่ที่พัก แต่คือศูนย์กลางของชีวิต และหากบ้านไม่มีคุณภาพ ชีวิตด้านอื่นก็ดีได้ยาก หลายคนเริ่มหันมาปลูกต้นไม้ ซ่อมแซมบ้าน และหาธรรมชาติใกล้ตัวเพื่อเติมเต็มจิตใจ
เมื่อโลกเริ่มกลับมา ผู้คนก็แห่กันออกไปสัมผัสธรรมชาติ นั่นทำให้ปิติภัทรตั้งคำถามว่า จะทำอย่างไรให้ผู้คนในเมืองเข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายขึ้นจึงเป็นที่มาของการสร้าง SAMA Garden พื้นที่ที่เชื่อมโยงชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติอีกครั้ง
จากจุดคิดเล็กๆ ที่คิดอยากสร้างพื้นที่ที่ช่วยเติมคุณภาพชีวิตให้คนเมือง ปิติภัทรเริ่มค้นคว้าและสำรวจโมเดลจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปซึ่งมี Garden Centre กระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ ไม่ใช่แค่ขายต้นไม้ แต่เป็นพื้นที่ของการใช้ชีวิต
“สำหรับคอนเซปต์นี้หลายคนอาจมองว่าเป็นสิ่งใหม่ แต่บางประเทศในยุโรปมี Garden Centre อยู่หลายแห่ง เป็นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ของประดับตกแต่ง และเป็นคอมมูนิตี้สำหรับผู้ที่สนใจการทำสวน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ นอกจากนี้ SAMA Garden ยังมีบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลต้นไม้และการจัดสวนอีกด้วย
“สำหรับผม SAMA Garden ไม่ใช่แค่ธุรกิจขายต้นไม้ แต่เป็นการออกแบบพื้นที่เพื่อคุณภาพชีวิตของคนเมือง” ปิติภัทรกล่าว
‘สวน 0 นาที’ เติมเต็มความสุขง่ายๆ ได้ที่บ้าน
SAMA Garden เชื่อว่า ความสุขจากธรรมชาติไม่ควรต้องรอหรือเดินทางไกล แนวคิด ‘สวน 0 นาที’ จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ต้องการเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้ทันทีที่กลับถึงบ้าน
SAMA Garden นำเสนอแนวคิดสวน 0 นาที เพียงแค่เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆ เช่น ระเบียงหรือมุมบ้านบางจุด ก็สามารถกลายเป็นพื้นที่สีเขียวส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย
“เราจึงคิดออกมาเป็นคอนเซปต์สวน 0 นาที ซึ่งคือการซื้อต้นไม้ไปตกแต่งที่บ้าน หรือเปลี่ยนพื้นที่อยู่อาศัยให้กลายเป็น Green Living หรือการเปลี่ยนมุมธรรมดาๆ ของบ้านให้กลายเป็นสวนสาธารณะได้ ทั้งระเบียงที่เราสามารถทำให้เป็นพื้นที่สีเขียว หรือการทำสวนที่บ้านให้เหมือนสวนสาธารณะ” ปิติภัทรกล่าวเสริมถึงแนวคิดที่มุ่งหวังให้คนสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของตัวเอง เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตได้ง่ายขึ้น
จุดประกายแรงบันดาลใจ สร้างสวนสวยเริ่มต้นที่ SAMA Garden
ภายในพื้นที่ของ SAMA Garden ได้จำลองตัวอย่างการจัดสวนในพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เห็นภาพจริงว่า สามารถสร้างสวนเล็กๆ ได้ด้วยตัวเองทันที พร้อมคำแนะนำและบริการที่ช่วยให้การเริ่มต้นปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องยาก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนอยากกลับไปจัดสวนหรือตกแต่งบ้านของตัวเอง และเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ไม่เพียงช่วยให้บ้านน่าอยู่ขึ้น แต่ยังสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและความเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้ในทุกวัน
ทั้งนี้ SAMA Garden เชื่อว่า กิจกรรมเล็กๆ อย่างการปลูกต้นไม้หรือตกแต่งบ้านด้วยธรรมชาติ คือจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตแบบ Eco-conscious ที่ทำได้จริง และช่วยให้ทุกคนค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ที่นี่จึงไม่ใช่แค่ร้านขายต้นไม้ แต่เป็นพื้นที่ที่มอบประสบการณ์สีเขียวแนวใหม่ให้คนเมืองได้หยุดพัก ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากขึ้นในทุกวัน
“เราหวังว่าเมื่อคนเข้ามาที่นี่แล้วจะได้รับแรงบันดาลใจ และเกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เราอยากสร้างคอมมูนิตี้ที่สนับสนุนกันและกัน เพื่อทำให้การใช้ชีวิตกับธรรมชาติกลายเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับทุกคน” ปิติภัทรกล่าว
ทั้งนี้การมาเยือน SAMA Garden ไม่จำเป็นต้องซื้อต้นไม้เสมอไป เพราะที่นี่คือพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจให้ทุกคนเห็นว่า การมีสวนเล็กๆ ที่บ้านเป็นเรื่องที่เริ่มต้นได้ง่าย และสามารถนำไปต่อยอดสู่การใช้ชีวิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้จริง ทุกมุมของ SAMA Garden จึงไม่ใช่แค่พื้นที่สีเขียว แต่คือพื้นที่ที่ชวนคนเมืองกลับมาเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นมิตรกับโลกมากขึ้น
มี ‘คลินิกต้นไม้’ ให้คำปรึกษาลบคำสบประมาทว่าปลูกอะไรก็ไม่รอด
หลายคนอาจเคยเริ่มต้นปลูกต้นไม้ด้วยความตั้งใจดี แต่กลับเจอปัญหาว่าปลูกอะไรก็ไม่รอด จนรู้สึกว่านี่อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับตัวเอง อย่างไรก็ตาม SAMA Garden เชื่อว่านี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องพรสวรรค์ แต่เป็นเพราะขาดข้อมูลและเครื่องมือที่เหมาะสมในการเริ่มต้น
เพื่อลบภาพจำเหล่านั้น ที่นี่จึงมีบริการ ‘คลินิกต้นไม้’ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวน ที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกต้นไม้ให้เหมาะกับพื้นที่ เช่น อยู่คอนโดฯ หรือบ้านทิศไหน ไปจนถึงวิธีดูแล การรดน้ำ ปรับแสง และการดูแลหลังการซื้อ เพื่อให้การปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องยากหรือน่ากลัวอีกต่อไป
ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือเคยล้มเหลวมาแล้ว ที่นี่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนกลับมามีความสุขกับการปลูกต้นไม้อีกครั้ง และเชื่อว่า “การปลูกต้นไม้ง่ายกว่าที่คิด เริ่มต้นที่ SAMA Garden จบที่บ้านคุณ”
เชื่อมโยงผู้คน ผ่านวิถีชีวิตที่เป็นธรรมชาติ
ที่ SAMA Garden เชื่อว่า การใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติไม่ควรเป็นเรื่องยากหรือไกลตัว แต่ควรเป็นธรรมชาติในชีวิตประจำวันของทุกคน
“โปรดักต์ที่นี่สร้างจาก Pain Point” ปิติภัทรกล่าว พร้อมอ้างถึงทฤษฎีมาสโลว์ว่า นอกจากความปลอดภัยแล้ว มนุษย์ยังต้องการความรู้สึกผูกพัน และการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม SAMA Garden จึงไม่ได้เป็นแค่พื้นที่ขายสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่เป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อสร้าง Sense of Belonging พื้นที่ที่ผู้คนได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองกันอย่างสบายใจ ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายและเป็นมิตรกับธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินช็อปปิงต้นไม้และของแต่งบ้าน การเข้าร่วมเวิร์กช็อปปลูกต้นไม้ ครอบครัวพาลูกมาเรียนรู้เรื่องธรรมชาติ คนทำงานมานั่งพักแล้วได้แรงบันดาลใจ หรือเพียงแค่นั่งพักผ่อนในโซนนั่งเล่น ก็ล้วนช่วยให้ผู้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ได้
“เราอยากให้การมาที่ SAMA Garden ไม่ใช่แค่การมาซื้อของ แต่เป็นการมาใช้ชีวิต ชาร์จพลัง และกลับออกไปพร้อมแรงบันดาลใจดีๆ ที่จะพาให้ทุกคนค่อยๆ เชื่อมโยงกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้มากขึ้นในทุกวัน” ปิติภัทรกล่าว
นวัตกรรมการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
SAMA Garden ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1.1 หมื่นตารางเมตร โดยใช้ประโยชน์จากอาคารเดิมของไบเทคบุรี มุ่งเน้นการประหยัดพลังงาน เช่น ไม่เปิดแอร์และควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาฯ เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี รวมถึงระบบน้ำที่ใช้วนกลับจากระบบ Cycle เพื่อลดการใช้น้ำที่ไม่จำเป็น
เวทีสินค้าคุณภาพจากชุมชนสู่ใจคนเมือง
SAMA Garden ไม่เพียงเป็นพื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ แต่ยังเป็นเวทีที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการสนับสนุนงานฝีมือ (Craftsmanship) ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและรายละเอียด ผ่านการคัดสรรสินค้าคุณภาพจากชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้คนเมืองได้ใกล้ชิดกับของดีที่มีทั้งเรื่องราวและคุณค่า ภายในพื้นที่นี้จึงไม่ได้มีแค่ต้นไม้หรือของตกแต่งบ้าน แต่ยังมีงานคราฟต์ที่บอกเล่าตัวตนของผู้ผลิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง
เบื้องหลังคือความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยชุมชนปรับแผนธุรกิจให้เข้ากับบริบทเมือง แก้ปัญหาการขาดแหล่งกระจายสินค้า และต่อยอดศักยภาพของสินค้าที่อาจเคยถูกมองข้ามเพียงเพราะอยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยในทุกไตรมาส SAMA Garden เปิดพื้นที่ให้ผู้ผลิตรายย่อยได้จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า
ในการคัดเลือกแบรนด์ที่เข้าร่วม ปิติภัทรกล่าวว่า “SAMA Garden ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และความโปร่งใส เพราะเชื่อว่า ความไว้วางใจคือหัวใจของความยั่งยืน อยากให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของงานคราฟต์ เข้าใจที่มา และรู้สึกเชื่อมโยงกับผู้ผลิต เมื่อเกิดความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ พวกเขาจะกลับมาอีกโดยไม่ต้องพึ่งโปรโมชัน” นับเป็นแนวคิดที่เปลี่ยนการซื้อของให้กลายเป็นการมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
ก้าวต่อไปของ SAMA Garden
SAMA Garden มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะยาวว่าเป็นโอกาสสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงเดินหน้าขยายเครือข่ายซัพพลายเชนให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 1 หมื่นรายการ (SKU) และยังคงเปิดรับพันธมิตรหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ด้าน Green Living ให้ครอบคลุมในทุกมิติของการใช้ชีวิต
เป้าหมายของ SAMA Garden คือการต้อนรับผู้คนราว 600-800 คนต่อวัน ไม่ใช่เพียงเพื่อยอดขายเท่านั้น แต่เพื่อสร้าง ‘พื้นที่กลาง’ ให้กับผู้ที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน ได้มาพบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมอง และรับคำแนะนำจากทีมงานที่เข้าใจการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ที่นี่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมาพักผ่อน หาแรงบันดาลใจ ตกแต่งบ้าน หรือใช้เวลาคุณภาพในสวนกับครอบครัว ทุกคนล้วนมีพื้นที่ของตัวเองใน SAMA Garden
ในก้าวถัดไป SAMA Garden ตั้งเป้าขยายพื้นที่ต้นแบบให้ครบ 3 แห่งทั่วกรุงเทพฯ เพื่อยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลาง Green Living ที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่การใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดธรรมชาติ และการเป็นเวทีให้ผู้ผลิตได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
สุดท้ายแล้ว SAMA Garden อาจไม่ใช่แค่พื้นที่สีเขียวในเมือง แต่คือพื้นที่ของ ‘แนวคิดสีเขียว’ ที่ผู้คนต่างมาร่วมกันลงมือปฏิบัติ คือการออกแบบชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างตั้งใจ และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่เริ่มจากตัวเรา สามารถส่งต่อคุณค่าต่อสังคมรอบข้างได้
หากวันนี้คุณยังไม่ปลูกต้นไม้ แต่ถ้ามาเดินเล่นที่นี่ เราเชื่อว่าคุณจะกลับออกไปพร้อมแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนบ้านและใจของคุณไปตลอด
Fact Box
- SAMA Garden พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ย่านบางนา ที่ไม่ได้เป็นแค่ร้านขายต้นไม้ แต่คือพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อเยียวยาทั้งคนและสังคม ภายใต้แนวคิด Green Living ที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตคนเมืองอย่างเป็นธรรมชาติ จนกลายเป็น Green Lifestyle Centre ที่ทั้งอบอุ่นและยั่งยืน
- ติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/SAMAgardenTH