วันนี้ (13 กรกฎาคม 2566) เวลา 18.00 น. ณ ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร (เกียกกาย) บริเวณหน้าจอนับคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี มวลชนเข้าร่วมชุมนุมฟังปราศรัย หลังจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพราะมติเสียงไม่ผ่าน และจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่จะถึงนี้
การปราศรัยครั้งนี้ไม่มีแกนนำ เมื่อถึงเวลาปราศรัย ประชาชนทยอยขึ้นพูดในหลายประเด็นสำคัญที่พูดถึงในวันนี้
ประเด็นแรก คือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงตั้งแต่วาระแรกๆ ในการประชุมร่วมรัฐสภา และถูกใช้เป็นการอ้างถึงความชอบธรรมที่จะไม่โหวตแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล
และประเด็นที่สอง คือปัญหาที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รับใช้เผด็จการ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของ ส.ว.ที่มาจากรัฐบาลทหาร และไม่เคยมาจากเสียงของประชาชน
เวลา 18.50 น. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาที่หน้าเวทีปราศรัย กล่าวถึงการที่ ส.ว.บางคนที่โหวตให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นถูกเล่นเกมหมาหมู่ ทั้งที่จริงแล้ว ส.ว.ควรมีหน้าที่ฟังเสียงประชาชนและโหวตตามเสียงข้างมาก มากกว่าการงดออกเสียง และกล่าวเพิ่มเติมว่า อีกไม่นาน ส.ส.พรรคก้าวไกลจะตามมาพบปะพี่น้องประชาชนที่เวทีปราศรัยแห่งนี้
