ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้หลายคนคงเลือกได้แล้วว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไรดี ส่วนใหญ่คงมีแผนปาร์ตี้แฮงก์เอาต์ รอนับเวลาเคานต์ดาวน์แล้วชมพลุสวยๆ เฉลิมฉลองปีใหม่ แต่สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้หรือเลือกแล้วว่าฉันจะอยู่บ้าน! เราก็ไม่อยากให้คุณพลาดชมพลุและดอกไม้ไฟในค่ำคืนดีๆ แบบนี้ เพราะฉะนั้น ลองหยิบภาพยนตร์เหล่านี้ขึ้นมาดูแล้วฉลองปีดีๆ ที่กำลังจะมาถึงนี้ไปพร้อมๆ กัน!!
Submarine – สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘วัยรุ่น’ (2010)
ฉากพลุ: ช่วงเวลาที่โอลิเวอร์ เทต กับจอร์แดน่า บีแวน เล่นสนุกกันที่สวนสนุกร้างและริมทะเล รวมถึงวันขึ้นปีใหม่ที่แต่ละคนล้วนสับสนและโดดเดี่ยว
เรื่องราวของโอลิเวอร์ เทต หนุ่มน้อยวัย 15 ที่ต้องรับมือและจัดการกับปัญหาความรักของคนสองคู่ด้วยกัน หนึ่งคือพ่อแม่ของเขา สองคือคู่ของเขาเอง ระหว่างพ่อแม่มีบางอย่างเริ่มแตกร้าวและผุพัง ความเย็นชาเข้ามาแทนที่ความรักความเอาใจใส่ แถมยังมีคนรักเก่าของแม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โอลิเวอร์จึงต้องคอยประคับประคองความสัมพันธ์ของทั้งคู่เอาไว้ ส่วนความรักของเขานั้น โอลิเวอร์คบอยู่กับแฟนสาวที่ดูแปลกแยกกว่าผู้หญิงทุกคน เธอชอบทำอะไรเพี้ยนๆ แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดบางอย่าง ความรักครั้งนี้จึงหวานปนขมสับสนในหัวใจ เพราะทั้งเขาและเธอต่างแบกรับปัญหาส่วนตัวของตัวเองเอาไว้
หากผ่านเรื่องเลวร้ายมาได้ ไม่ว่าจะด้วยดีหรือแย่ อย่างไรเราก็จะเรียนรู้และเติบโตขึ้น มันอาจจะไม่ใช่ในทันที แต่เราจะรู้ได้เองว่าความเจ็บปวดนั้นเบาบางลงบ้างแล้ว
โดยรวมแล้ว Submarine อาจดูเป็นภาพยนตร์ Coming of Age ธรรมดา แต่ด้วยสไตล์ภาพที่โดดเด่นจึงส่งผลให้เนื้อเรื่องดูมีความหวือหวามากขึ้น และการนำเสนอเนื้อหาโดยแบ่งเป็นองก์ๆ ก็ยังเหมาะกับอารมณ์ของภาพยนตร์อีกด้วย ที่สำคัญยังได้อเล็กซ์ เทอร์เนอร์ นักร้องนำวง Arctic Monkey มาร้องและแต่งเพลงให้ ซึ่งทำออกมาได้ดีและเข้ากับแต่ละฉากมากๆ
Adventureland – แอดเวนเจอร์แลนด์ ซัมเมอร์นั้นวันรักแรก (2009)
ฉากพลุ: วันฉลอง Happy R-Day ที่สวนสนุกแอดเวนเจอร์แลนด์ พลุสว่างไสวถูกจุดขึ้นพร้อมคลอไปกับบทเพลง Don’t Dream It’s Over
ฤดูร้อนปี 1987 เป็นปีที่เจมส์ แบรนเนนเรียนจบไฮสคูล และเขาวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวยุโรปก่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในนิวยอร์ก แต่แผนการก็ต้องล้มไม่เป็นท่าเมื่อพ่อแม่แจ้งข่าวกับเจมส์ว่าฐานะการเงินของที่บ้านไม่สู้ดีนัก และพ่อของเขาก็ถูกโยกย้ายตำแหน่งงาน เจมส์จึงต้องหางานพิเศษทำในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนอย่างเสียไม่ได้ หลังจากสมัครงานไปหลายที่เจมส์ก็มาลงเอยที่สวนสนุกแอดเวนเจอร์แลนด์ ในตำแหน่งพนักงานคุมเกม ที่นี่เองเขาได้พบกับเอม เลวิน สาวสวยเพื่อนร่วมงาน ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และเจมส์หารู้ไม่ว่าเอมเป็นชู้รักของคอนเนลล์ ช่างประจำสวนสนุก เรื่องราวความรักและความลับดำเนินไปได้ด้วยดีแค่ในระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายทั้งหมดก็ดิ่งลงเหวเมื่อความจริงถูกเปิดเผย
ถ้าไม่เชื่อหัวใจและความรู้สึกของตัวเองแล้วเราจะไปเชื่อใคร ทุกอย่างอยู่ที่เราเป็นคนตัดสิน แม้ว่าโลกจะไม่ได้หมุนรอบตัวเรา ซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองต้องการย่อมทำให้เรื่องราวผ่านไปได้ ถึงจะจบลงไมได้ด้วยดี
ภาพยนตร์เล่าเรื่องความรักในหลายแง่มุม และไม่ได้โฟกัสแต่แค่คู่พระเอกนางเอกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนรอบข้างด้วย ซึ่งทำให้ตัวละครแต่ละตัวดูมิติมากยิ่งขึ้น ปัญหาหลายๆ อย่างถูกโยนเข้าใส่วัยรุ่นและเสนอออกมาว่าพวกเขามีวิธีจัดการและรับมือกับมันอย่างไร การกล้ายอมรับความผิดพลาดมีส่วนช่วยให้คนเราก้าวเดินต่อไปได้ และความบอบช้ำมีอยู่จริงในทุกชีวิต ถึงเขาจะไม่ได้แสดงออกมาให้เราเห็นก็ตาม พร้อมกันนี้ยังมีเพลงประกอบเพราะๆ จาก Lou Reed, David Bowie และ The Cure ด้วย
The Great Gatsby – รักเธอสุดที่รัก (2013)
ฉากพลุ: งานปาร์ตี้ที่คฤหาสน์หลังงามของเจย์ แกตซ์บี
The Great Gatsby สร้างจากนวนิยายคลาสสิกอันโด่งดังของ เอฟ. สก็อตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของนิค คาร์ราเวย์ ที่มีเจย์ แกตซ์บี เป็นตัวละครหลัก นิคอาศัยอยู่บ้านข้างๆ คฤหาสน์ของเจย์ ชายหนุ่มมหาเศรษฐีลึกลับ ที่ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แกตซ์บีชอบจัดงานปาร์ตี้อยู่เสมอๆ ผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศมักมารวมตัวกันที่นี่ กินดื่มจนเมามายแล้วกลับไป พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแกตซ์บีเป็นใคร ไม่รู้แม้กระทั่งใบหน้าค่าของเขา หลังจบปาร์ตี้นิคจึงเห็นความอ้างว้างเงียบงันของคฤหาสน์ และความอ้างว้างเดียวดายของเจย์ แกตซ์บี ต่อมานิคได้รู้ว่าทั้งหมดที่แกตซ์บีทำไปเพื่อต้องการพบเดซี่ หญิงสาวที่เขาหลงรัก และนิคเป็นญาติกับเธอ ดังนั้นแกตซ์บีจึงขอให้นิคช่วยนัดเดซี่มาพบเขา เพื่อที่เขาจะได้ทวงคืนความรักกลับมา แต่เรื่องราวก็ไม่ง่าย เพราะเดซี่มีสามีอยู่แล้ว
ความรักยิ่งใหญ่นั้นน่ายกย่อง แต่บางครั้งก็ยากที่จะแยกว่ามันคือความงมงายอย่างไม่ลืมหูลืมตา หรือความบริสุทธิ์ใจในรักอย่างแท้จริง แล้วรักนั้นให้อะไรกับเราบ้าง
นอกจากจะมีประเด็นหลักเป็นเรื่องความรักแล้ว ประเด็นที่ภาพยนตร์ให้ความสำคัญพอๆ กันก็คือฝันแบบอเมริกัน (American Dream) ความเชื่อที่ว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันทางโอกาสและเสรีภาพ ซึ่งเอื้อให้เราไปถึงเป้าหมายในชีวิตด้วยการทำงานหนักและความมุ่งมั่น เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและมั่งคั่งมากขึ้น และยังแฝงไปด้วยประเด็นทางชนชั้นที่เหลื่อมล้ำกันอยู่เสมอมา
Kingsman: Secret Service – คิงส์แมน โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์ (2014)
ฉากพลุ: การต่อสู้ระหว่างองค์กรสายลับระดับชาติคิงส์แมนกับแก๊งวายร้ายวาเลนไทน์
เมื่อคิงส์แมน องค์กรสายลับระดับโลกต้องสูญเสียสมาชิกไปหนึ่งคน อาร์เธอร์ หัวหน้าองค์กรจึงมอบหมายให้ สมาชิกที่เหลือไปเฟ้นหายอดฝีมือมาเพิ่ม ในระหว่างนั้นเอง แฮร์รี่ ฮาร์ท หรือกาลาฮัด ก็ได้พบกับเอ็กซี่ ลูกชายของสายลับที่เขาเคยร่วมงานด้วยในอดีต ถึงเอ็กซี่จะมีนิสัยเกเร แต่ก็ฉลาดและมีไหวพริบเป็นเลิศ ดังนั้นแฮร์รี่จึงยื่นข้อเสนอให้เอ็กซี่เข้าคัดเลือกเป็นสายลับ ขณะเดียวกันสายลับคิงส์แมนก็ต้องรับมือกับแผนการอันชั่วร้ายของวาเลนไทน์ วายร้ายอัจฉริยะ ที่มาพร้อมกับผู้ช่วยสาวขาโหดชื่อกาเซล แผนการร้ายที่วาเลนไทน์ได้วางไว้ก็คือ เขาวางแผนลดประชากรโลกลงด้วยการส้รางซิมการ์ดโทรศัพท์ที่สามารถกระตุ้นให้ผู้คนเข่นฆ่ากันเองได้ เมื่อสายลับคิงส์แมนสืบรู้เขา พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะหยุดความเสียหายของโลกนี้ไว้ การชิงไหวชิงพริบจึงเริ่มต้นขึ้น และเรื่องนี้ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นผู้พ่ายแพ้!
Kingsman: Secret Service เป็นภาพยนตร์สายลับที่ยียวนกวนประสาทแตกต่างจากภาพยนตร์สายลับที่เราคุ้นเคยกัน ทั้งขบขันและแสบสันจนต้องยกนิ้วให้ ฉากแอ็กชันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งละเลงเลือดกันแบบไม่กลัวเปลือง ถึงจะโหดสุดขั้วแต่ก็สนุกจนลืมไม่ลง
Blue Valentine – บลูวาเลนไทน์ (2010)
ฉากพลุ: ในช่วงเวลาที่ลูกสาวรั้งพ่อไว้ไม่ให้จากตัวเองไป และ End Credits ที่เป็นการประมวลภาพช่วงเวลาแห่งความสุขของดีนกับซินดี้ ความรักของทั้งคู่เปรียบได้กับดอกไม้ไฟ สว่างไสวแล้วค่อยๆ จางหาย
Blue Valentine เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของดีนและซินดี้ ตั้งแต่แรกเริ่มพบกัน จีบกัน ตกลงคบ และแต่งงาน งานวิวาห์เรียบง่ายทว่าเปี่ยมไปด้วยความรักอันบริสุทธิ์ รักกันแบบหมดหัวใจเท่าที่คนๆ หนึ่งจะมอบให้อีกคนได้ ทั้งคู่มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ลูกสาวที่ไม่ได้เกิดจากดีน ซึ่งเขารู้ความจริงข้อนี้ดี แต่เขายอมรับได้ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจขอซินดี้แต่งงาน จากช่วงเวลาเริ่มรักในอดีต ภาพยนตร์ตัดสลับกลับมาที่ปัจจุบัน เหมือนอดีตได้กลายเป็นโลกคู่ขนานของปัจจุบันไปแล้ว ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปโดยสิ้นเชิง ความสัมพันธ์ของดีนและซินดี้จืดจางลง พวกเขาเหมือนกลายเป็นคนละคนกับแต่ก่อน รอยยิ้มและอารมณ์ได้หายไป หลงเหลือแต่ความปากร้ายและขุ่นเคืองต่อกัน ความรักที่นำพาให้ดีนมาอยู่กับซินดี้ กลายเป็นความเจ็บปวดเกินกว่าจะสามารถอยู่ด้วยกันต่อได้ ไม่มีอีกแล้วคำว่า ‘เรา’ มีแค่คนที่เคยรักกันเท่านั้น
ความรักอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้คนเราอยู่ด้วยกัน มันต้องประกอบด้วยความเข้าใจและการเอาใจใส่ดูแล ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ ถ้ารดน้ำมาเกินไปรากมันก็เน่าตาย หรือถ้าปล่อนปะละเลยก็ต้องแห้งเหี่ยวตายในสักวัน เราต้องมั่นดูแลและตัดแต่งมันอยู่เสมอ
Blue Valentine เป็นทั้งภาพยนตร์ที่หวานที่สุด แต่ก็เศร้าที่สุดเช่นกัน ทุกตัวละครและความรู้สึกล้วนจริง มันจึงส่งผลกระทบต่อใจคนดูอย่างมาก และเมื่อดูจบแล้วตัวเราเองยังต้องกลับมาทบทวนความรักของเรา ไม่ว่าจะที่ผ่านมาแล้วหรือปัจจุบัน ว่าเราเข้าใจมันมากพอแล้วหรือยัง
Tags: The list, Blue Valentine, New Year, The Great Gatsby, Movie, ภาพยนตร์