ไม่ง้อของเถื่อน! 10 อันดับโปรแกรมใช้ดี และ ‘ฟรี’ ที่คุณต้องลอง

 หากคุณกำลังตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมในการทำงาน แล้วเห็นราคาของโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์ เช่น Photoshop, Pro Tools, Maya หรือแม้แต่ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows แล้วรู้สึกกระทบกระเทือนต่อกระเป๋าสตางค์

นี่คือ 10 อันดับโปรแกรมทางเลือกใช้ดีไม่ต่างจากโปรแกรมเสียตังค์ ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องควักเงินซื้อโปรแกรมของแท้ราคาแพง ซึ่ง The Momentum เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยและมีโอกาสใช้งาน 10 โปรแกรมนี้มาบ้างแล้ว

10. GIMP
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS และ Linux)

ถ้าคุณไม่ได้สมัครสมาชิก Adobe Creative Cloud หรือไม่เคยซื้อโปรแกรม Adobe Photoshop มาก่อน ไม่เพียงแต่จะมีคุณลักษณะที่อุดมด้วยประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Photoshop เท่านั้น แต่ GIMP ยังโดดเด่นที่การตกแต่งภาพต้นฉบับให้มีสีสัน แสงเงา รวมทั้งสร้างความแปลกใหม่ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

หากคุณต้องการหาโปรแกรมทางเลือกแนวเดียวกับ GIMP สำหรับผู้ใช้งาน Windows สามารถเข้าไปลองใช้โปรแกรม Paint.NET ฟรี ทว่าผู้ใช้ Mac สามารถเลือกใช้งานโปรแกรม Pixelmator สนนราคาอยู่ที่ 30 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1,058 บาท

9. LibreOffice
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS, and Linux)

Microsoft Office นับเป็นโปรแกรมพื้นฐานด้านจัดการเอกสาร งานนำเสนอ  งานคำนวณ และงานฐานข้อมูลที่นิยมใช้ในออฟฟิศทั่วโลก แต่ถ้าคุณมีโปรแกรมดังกล่าวในคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เพื่อความถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ก็คงไม่อยากจ่ายเงิน (แบบไม่เต็มใจ)

LibreOffice คือทางเลือกการใช้งานระยะยาวของโปรแกรมประยุกต์ใช้งานทางออฟฟิศ และมีความสามารถเหมือน Microsoft Office โดยตรง โปรแกรมทางเลือกนี้สามารถจัดการเอกสาร งานนำเสนอ งานคำนวณ และงานฐานข้อมูล ไม่ต่างกับการใช้งาน Word, Excel หรือแม้แต่ PowerPoint โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ใดๆ และที่สำคัญโปรแกรมนี้ยังไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย

8. Inkscape
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS และ Linux)

เมื่อเอ่ยถึงโปรแกรมที่จำเป็นต้องใช้งานด้านการออกแบบ วาดภาพเวกเตอร์ ตกแต่งภาพ ทำโลโก้ หรือแม้แต่การจัดรูปแบบเอกสาร Adobe Illustrator ถือเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่มีผู้ใช้งานกันอย่างกว้างขวาง แต่ถ้าคุณไม่ได้จ่ายเงินเพื่อเป็นสมาชิกของ Adobe Creative Cloud โปรแกรม Inkscape คืออีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้งานโปรแกรมด้านการออกแบบที่มีคุณสมบัติไม่ต่างกับ Adobe Illustrator ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายในการใช้งานแต่อย่างใด

นอกจากนี้ Inkscape ยังมีชุมชนของผู้ใช้งานขนาดใหญ่ที่คอยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน และยังมีคำแนะนำการใช้งานผ่านบล็อก ที่จะคอยช่วยให้คุณเริ่มใช้งานได้เร็วขึ้นทันตาเห็น

7. Blender
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS และ Linux)

หากคุณสนใจงานด้านการจำลอง การพิมพ์ หรือการทำภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ Blender คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสร้างโมเดล 3 มิติ เรนเดอร์ และทำแอนิเมชัน ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ทำงานได้บนระบบปฏิบัติการหลายรูปแบบเทียบเท่ากับโปรแกรม 3 มิติระดับสูง ที่ตอบโจทย์ผู้ที่สนใจเริ่มใช้งานโปรแกรมด้าน 3 มิติได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าโปรแกรม 3 มิติตัวอื่นๆ อย่างเช่น Maya, Cinema 4D, หรือ LightWave ถือเป็นโปรแกรมที่ใช้งานเฉพาะทางโดยตรงและมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน แต่หากคุณต้องการเริ่มต้นการใช้งานด้าน 3 มิติในรูปแบบต่างๆ โปรแกรมทางเลือกนี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้เป็นอย่างดี

6. Avira & Sophos
(Avira ฟรีสำหรับ Windows และ Sophos ฟรีสำหรับ mac OS)

คุณคงจะรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งเวลาที่ค้นหาข้อมูล ดาวน์โหลดอะไรต่างๆ หรือแม้แต่การเข้าชมเว็บไซต์แบบปลอดภัย เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของคุณได้รับการป้องกันที่ดีจากโปรแกรมสแกนไวรัส โปรแกรมที่คอยกำจัดการคุกคามทางคอมพิวเตอร์หรือมัลแวร์ให้กับคุณ

สำหรับเหตุผลที่ Avira คือโปรแกรมสแกนไวรัสที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน Windows, Sophos และยังเป็นทางเลือกของ mac OS นั้นเป็นเพราะ Avira มีคุณลักษณะของรูปแบบการใช้งานที่ง่ายต่อการควบคุม เป็นซอฟต์แวร์ที่ป้องกันไวรัสสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงการใช้งานระดับสูง และยังมีฐานข้อมูลป้องกันไวรัสที่เป็นอันตราย ซึ่งคุณสามารถดาวโหลดได้ฟรีภายใต้ชื่อ ‘Avira Free Antivirus’

ขณะที่ Sophos อีกหนึ่งซอฟต์แวร์สำหรับกำจัดไวรัสบนเครื่อง Mac ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลด ปกป้องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของคุณจากโปรแกรมไม่พึงประสงค์ต่างๆ ผ่านระบบป้องกันยามที่ผู้ใช้งานท่องโลกอินเทอร์เน็ต ตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บที่เราเข้าชมได้แบบไม่ต้องกังวล อย่างหายห่วง อีกทั้งยังสามารถกำหนดเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานบ่อยๆ ให้มีความปลอดภัยสูงอีกด้วย

5. LMMS
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS และ Linux)

อีกหนึ่งทางเลือกของโปรแกรมที่เกี่ยวกับการสร้างเสียงดนตรี ทำเพลง แบบฟรีๆ ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของคุณ และมีคุณสมบัติไม่ต่างกับโปรแกรมที่เสียค่าใช้จ่ายยอดนิยมอย่าง Cakewalk studio หรือ FL studio ทั้งการสร้างทำนองและจังหวะการสังเคราะห์และการผสมเสียงต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน หรือต้องการแก้ไขเพลง เป็นต้น

หากคุณกำลังมองหาการทำงานที่ต้องใช้โปรแกรมเกี่ยวกับเสียงแบบมืออาชีพ ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และตัวโปรแกรมมีคุณสมบัติไม่ต่างจากโปรแกรมประเภทเดียวกันที่มีราคาสูง LMMS ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย

4. VirtualBox
(ฟรีสำหรับ Windows, mac OS และ Linux)

Virtual Box เป็นโปรแกรมที่ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งในฮาร์ดดิสก์ เสมือนเป็นการจำลองเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ มีการใช้ทรัพยากรทั้งหน่วยความจำ หรือ RAM, การ์ดจอ, การ์ดเน็ตเวิร์ก (NIC) ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประโยชน์หลักของโปรแกรมทางเลือกนี้คือช่วยให้คุณทดสอบระบบปฏิบัติการ หรือโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องติดตั้งได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องไปหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาติดตั้งเพิ่ม ที่สำคัญคือผลิตออกมารองรับระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, mac OS รวมถึง Linux

3. DaVinci Resolve
(ฟรีสำหรับ Windows และ mac OS)

โดยปกติแล้วการหาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ดีและไม่เสียค่าใช้จ่ายคงเป็นเรื่องที่หาได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับโปรแกรมชื่อดังอย่าง iMovie หรือโปรแกรมจากตระกูล Adobe อย่าง Adobe Premiere Pro

อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่แตกต่าง DaVinci Resolve เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับงานตัดต่อวิดีโอที่น่าสนใจ ซึ่งนอกจากใช้ตัดต่อวิดีโอได้เหมือนโปรแกรมทั่วๆ ไปแล้ว จุดเด่นของ DaVinci Resolve คือการปรับแต่งสีภาพวิดีโอให้ดูดีมีตัวตน และยังเป็นการเพิ่มอรรถรสทางสายตาให้ผู้ชมได้ เหนือสิ่งอื่นใดคือ ฟรี!!!

2. Linux (ฟรี)

เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตไว้ใช้งาน คุณก็สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Linux อีกหนึ่งระบบปฏิบัติการทางเลือกนอกเหนือไปจากที่ใช้กันทั่วไปอย่าง mac OS หรือ Windows ให้คุณสามารถใช้งานโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

1. Google Drive
(ฟรีสำหรับ Web-Based)

ไดร์ฟจาก Google สำหรับให้คุณจัดเก็บข้อมูลที่จำเป็นลงไป โดยสามารถแบ่งปันให้ผู้ใช้คนอื่นและทำงานพร้อมๆ กันในเวลาเดียวกัน ครอบคลุมการเข้าถึงไฟล์ทั้งเอกสาร, สเปรดชีต หรืองานนำเสนอ จากที่ระบบปฏิบัติการใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่อง Mac คอมพิวเตอร์พีซี หรือแม้แต่ระบบแอนดรอยด์ และ iOS ที่สำคัญคือคุณสามารถเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆ ในความจุ 15 GB ได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

ที่มา:

     – http://lifehacker.com/top-10-free-alternatives-to-expensive-software-1791300629