เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ประตู 4 กระทรวงการคลัง ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาลงชื่อทบทวนสิทธิรับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากโครงการ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ ของรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ออกมาตั้งโต๊ะให้บริการประชาชนทั้งหมด 5 โต๊ะเพื่อรับเรื่อง
ชา (นามสมมติ) อายุ 62 เล่าว่า ขับแท็กซี่มา 24 ปี ตอนลงทะเบียนก็ลงไม่เป็นเลยจ้างให้คนแถวบ้านลงให้ ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เปิดลงทะเบียน พอช่วงกลางเดือนเมษายนก็เห็นว่ามีคนได้รับเงินกันแล้ว จึงขอให้คนแถวบ้านเช็คสถานะให้ พบว่าตนเองไม่ได้รับสิทธิ เพราะข้อมูลระบุว่าตนเองเป็นเกษตรกร ทางคนที่เช็คให้ก็ช่วยยื่นทบทวนสิทธิทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนแล้ว แต่ถึงวันนี้ก็ยังขึ้นว่ารอตรวจสอบอยู่ วันนี้จึงตั้งใจขับรถมาที่นี่เพื่อจะสอบถามว่าจะให้รอไปถึงเมื่อไร ส่วนเรื่องที่ว่าตนเองเป็นเกษตรกรก็ยังสงสัยอยู่ เนื่องจากเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด ไม่เคยทำไร่ ทำนา ทำสวนอะไรทั้งนั้น
นาย (นามสมมติ) อายุ 50 ปี อาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ช่วงหลังสงกรานต์ ตนเองได้รับแจ้งว่าได้รับสิทธิ แต่เงินกลับยังไม่เข้า พอไปตรวจสถานะพบข้อความว่าเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง พอไปตรวจจึงรู้ว่าบัญชีถูกปิดไปแล้ว เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหวมาเป็นเวลานาน จึงไปเปิดบัญชีใหม่และวานให้คนรู้จักลงเลขบัญชีใหม่ไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน แต่จนถึงวันนี้สถานะในเว็บไซต์ยังขึ้นเลขบัญชีเก่าอยู่ จึงเดินทางมาเพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ว่า กรณีของตนเองจะได้รับเงินเมื่อไร
พิสุทธิ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิทยากรอิสระ รับบรรยายตามสถาบันทั้งราชการและเอกชน กล่าวว่า ในช่องอาชีพที่อยู่ในเว็บไซต์นั้น ไม่มีรายละเอียดที่ตรงกับอาชีพของตน แต่เหมือนถูกบังคับให้เลือก จึงเลือกตามช่องที่มีความหมายใกล้เคียงที่สุดคือ เทรนเนอร์ หลังจากนั้นก็เข้าไปเช็คสถานะก็พบว่าต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งละเอียดกว่าครั้งแรก จึงพบว่าอาชีพเทรนเนอร์ในความหมายของเว็บไซต์หมายถึง เทรนเนอร์ที่อยู่ในฟิตเนส ไม่ใช่แบบที่ตนเองเข้าใจ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ช่องที่ให้เขียนรายละเอียดก็ไม่มี ทั้งที่ได้เตรียมข้อมูลรวมถึงรูปถ่ายเวลาทำงานมาไว้แล้ว จึงจำเป็นต้องติ๊กไปโดยที่รู้ว่ามันไม่ใช่อาชีพเรา แต่ต้องส่งไปก่อนเพื่อให้ทันเวลาที่กำหนดไว้ พอทราบว่าจะมีการตั้งโต๊ะรับข้อมูล ก็ถือว่าดีที่จะได้เข้ามาและให้ข้อมูลที่เป็นความจริงแก่เจ้าหน้าที่ เพราะหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ความจริง มันก็จะมีเรื่องการให้ข้อมูลหลอกลวง แอบอ้าง หรือหากว่าเขาใจดีให้เงินตามข้อมูลที่ซี้ซั้วเลือกไป มันก็ไม่ดีสำหรับตนเองเช่นกัน
สาว (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ทำงานเสิร์ฟในสถานบันเทิง ซึ่งถูกสั่งปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนเล่าว่า ตนเองเข้าไปเช็คสถานะในเว็บไซต์เมื่อช่วงสายของวันที่ 30 เมษายน พบว่าไม่ได้รับสิทธิ แต่เมื่อเห็นว่าสามารถลงชื่อทบทวนสิทธิได้จึงลงไป ต่อมามีข้อความมาทางโทรศัพท์มาในช่วงเย็น ให้ลงทบทวนสิทธิได้ในวันนี้ (1 พ.ค.) จึงเข้าไปกดยกเลิกการทบทวนสิทธิ กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ จึงเข้าไปลงทบทวนสิทธิอีกครั้งตามที่ข้อความส่งมา พบข้อความขึ้นว่าไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เนื่องจากยกเลิกสิทธิไปแล้ว วันนี้จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามว่าจะแก้ไขได้อย่างไรบ้าง
ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ของธนาคารออมสินที่มารับเรื่องระบุว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางมามีทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิแล้ว แต่เช็คข้อมูลไม่เป็น และผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิที่มายื่นทบทวนสิทธิ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดจะถูกส่งไปยังกระทรวงการคลัง โดยจะใช้บุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเป็นผู้คัดกรองและตรวจสอบต่อไป
Tags: โคโรนาไวรัส, โควิด-19, เราไม่ทิ้งกัน