OMEGA : อาวุธทางสไตล์ของสายลับ เจมส์ บอนด์

“ผมไม่หยุดเพราะเหนื่อย ผมจะหยุดต่อเมื่อเสร็จงานเท่านั้น” คำพูดแบบนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาพูดก็คงไม่รู้สึกอะไรสักเท่าไร แต่พอออกมาจากปากของสายลับ 007 แล้ว มันช่างดูเท่เสียเหลือเกิน คงไม่ได้มีแต่สาวบอนด์ (จำนวนไม่น้อย) หรอกที่หลงเสน่ห์เจมส์ บอนด์ เข้าอย่างจัง แต่คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจกับความมากไปด้วยเสน่ห์ของสายลับผู้ดีชาวอังกฤษ ผลงานของนักเขียน เอียน เฟลมมิ่ง ผู้นี้ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเจมส์ บอนด์คือสายลับที่เก่งที่สุดในโลกหรือเปล่า แต่อย่างน้อย เขาก็เป็นสายลับที่มีสไตล์ที่สุดคนหนึ่ง

อาวุธทางสไตล์ 

นอกจากอาวุธยุทโธปกรณ์สุดล้ำที่คิว (Q) เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาวุธของหน่วย MI6 ของอังกฤษ ผลิตให้ลองใช้อยู่เนืองๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้เจมส์ บอนด์ แตกต่างจากสายลับคนอื่นๆ คืออาวุธทางสไตล์ที่ติดตัวเขาไปทุกที่ ชุดสูทต้องเป็นสูทสุดเนี้ยบแบบสั่งตัดพอดีตัวเข้ากับรูปร่าง ตามแบบฉบับของสุภาพบุรุษอังกฤษ รองเท้าต้องเป็นทรงเดอร์บี้หรืออ็อกซ์ฟอร์ดเท่านั้น ส่วนรถยนต์มักเป็นรถสปอร์ตวินเทจที่เท่และคลาสสิกไม่เหมือนใคร และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ในทุกภาคตั้งแต่ปีค.ศ. 1995 ก็คือนาฬิกา OMEGA ที่อยู่ติดข้อมือเจมส์ บอนด์อยู่เสมอ แม้ว่าอาวุธอื่นจะพัฒนาไปล้ำแค่ไหน และแม้จะเปลี่ยนสาวบอนด์ไปแล้วกี่คนต่อกี่คน เพราะสำหรับเขาแล้ว นาฬิกาไม่ได้มีไว้แค่บอกเวลาอย่างเดียว แต่ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสไตล์และรสนิยมของผู้สวมใส่ด้วย 

ความผูกพันเหนือกาลเวลา

แฟนๆ ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ คงจะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นนักสะสมนาฬิกาตัวยง แม้ในอดีตเขาจะใส่นาฬิกาอยู่หลายแบรนด์ แต่ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง GoldenEye ในปี ค.ศ. 1995 เป็นต้นมา (แสดงโดยเพียร์ซ บรอสแนน) นาฬิการุ่น Seamaster Diver 300 ของ OMEGA ก็กลายเป็นนาฬิกาประจำตัวของเขา โดยลินดี้ เฮมมิ่ง คอสตูมดีไซเนอร์ ผู้รับหน้าที่เลือกนาฬิกามาแคสติ้งให้กับเรื่อง GoldenEye ให้เหตุผลว่าเธอนึกภาพบอนด์ในฐานะทหารเรือยศนาวาโท เป็นนักดำน้ำ แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีก 

คนแบบนี้ย่อมเหมาะกับนาฬิกา Seamaster หน้าปัดสีน้ำเงินแน่นอน แถมในภาพยนตร์นั้นนาฬิการุ่นนี้ไม่ได้บอกเวลาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาเพื่อให้บอนด์สามารถเจาะพื้นรถไฟและหลบหลีกจากการไล่ล่าของศัตรูได้ด้วย ซึ่งความสามารถพิเศษของนาฬิกา OMEGA ก็ยังค่อยๆ ทยอยเผยออกมาในภาคต่อๆ ไปด้วยเช่นกัน อย่างเช่นบางรุ่นสามารถช่วยจุดชนวนระเบิดได้ ส่วนอีกรุ่นช่วยเปล่งแสงนำทางระหว่างที่บอนด์ติดอยู่ในหิมะถล่ม

และจุดเปลี่ยนก็มาถึงอีกครั้งในเรื่อง Casino Royale ในปีค.ศ. 2006 เมื่อเพียร์ซ บรอสแนน ตัดสินใจอำลาบทเจมส์ บอนด์ แล้วเปิดทางให้หนุ่มบอนด์คนใหม่ ซึ่งก็คือแดเนียล เครก แม้ภาพของหนุ่มบอนด์จะดูเปลี่ยนไปในทางแข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น แต่อาวุธด้านสไตล์ที่ติดข้อมืออยู่ก็ยังคงเป็น OMEGA Seamaster หน้าปัดสีน้ำเงินเช่นเคย แต่นอกจากจะเป็นรุ่น OMEGA Seamaster 300 แล้ว ในภาคนี้เรายังได้เห็นนาฬิกาอีกเรือน นั่นคือนาฬิกา Seamster Planet Ocean ใหม่ล่าสุดในตอนนั้น โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 600 เมตร ซึ่งในช่วงนั้น OMEGA ได้เปิดตัวนาฬิกา Seamaster รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวน 5,007 เรือนเพื่อฉลองการเปิดตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย โดยนาฬิการุ่นพิเศษนี้ประดับโลโก้ปืนของสายลับ 007 บนหน้าปัดและมาพร้อมกับสายยางสีดำ

ส่วนในเรื่อง Skyfall ในปีค.ศ. 2012 ความหลงใหลใน OMEGA ของเจมส์ บอนด์ดูจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก เพราะภาคนี้เขามาพร้อมกับนาฬิกาถึงสามรุ่น นั่นคือ Seamaster Planet Ocean, Seamaster Aqua Terra และ Circa 2012 Seamaster Planet Ocean Titanium ซึ่งนาฬิการุ่น Planet Ocean ที่แดเนียล เครก ใส่เข้าฉากในเรื่อง Skyfall ที่ถูกนำไปประมูลโดย Christie’s นั้นมีมูลค่าสูงถึง 254,273 ดอลลาร์สหรัฐ 

50 ปี เจมส์ บอนด์และอาวุธประจำกายรุ่นใหม่   

แม้ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่องใหม่ No Time to Die จะมีกำหนดเข้าฉายในปีหน้า แต่เพื่อการฉลองครบรอบ 50 ปีของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์เรื่องแรก ในชื่อ On Her Majesty’s Secret Service ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1969 OMEGA จึงนำนาฬิการุ่น Seamaster Diver 300M รุ่นแรกที่ได้เป็นอาวุธคู่กายเจมส์ บอนด์ มาผลิตเป็นรุ่นพิเศษ โดยคราวนี้ผลิตขึ้นเพียง 7,007 เรือนเท่านั้น (ราคา 226,000 บาท) ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 42 มม. มาพร้อมกับหน้าปัดเซรามิกเคลือบ PVD สีดำ เข็มและหลักชั่วโมงทำจากเยลโลว์โกลด์ 18K ส่วนที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาประดับด้วยตราประจำตระกูลของบอนด์ 

เมื่อถึงวันที่ 7 ของแต่ละเดือน หมายเลข 7 บนหน้าต่างวันที่จะปรากฏเป็นฟอนต์เดียวกับสัญลักษณ์ 007 แถมยังมีหมายเลข 50 เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวาซ่อนอยู่บริเวณตำแหน่ง 10 นาฬิกา โดยจะปรากฏออกมาเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกับสายหนังสีดำ และบรรจุในกล่องสีดำที่ตกแต่งด้วยลายเกลียวลำกล้องปืนและปุ่มกดรูปหัวกระสุน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใส่ไปแล้วจะซ่อนกิมมิกอะไรที่จะช่วยให้คุณรอดจากภยันตรายเหมือนในหนังหรือเปล่า ถือว่าเป็นเซอร์ไพร์สละกัน