สถาปัตยกรรมโบซาร์ (Beaux-Arts architecture) ที่มีต้นกำเนิดจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั้น แท้จริงแล้วเริ่มต้นจากโรงเรียนศิลปะ École des Beaux-Arts ที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน
โบซาร์จัดรวมอยู่ในสไตล์ศิลปะนีโอคลาสสิก (Neoclassical movement) ซึ่งต่อมา มีอิทธิพลแผ่ไปทั่วทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 19 จนถึง 20 เป็นรูปแบบความงามที่ผลัดเปลี่ยนจากศิลปะยุคคลาสสิกโดยนับยุคศิลปะบาโรคเป็นยุคสุดท้าย สีทองอร่ามถูกแทนที่ด้วยความโอ่อ่าของโครงสร้างแบบสมมาตร เสาหินโค้ง โดม รวมถึงขั้นความสำคัญของพื้นที่ที่แสดงความหรูหราด้วยประตูทางเข้ากว้าง โถงต้อนรับขนาดใหญ่ เพดานสูง และบันได ภาพรวมที่ให้ความรู้สึกขาวสะอาดและนิ่งสงบ เปลี่ยนบรรยากาศและรสนิยมของชาวตะวันตกไปอย่างสิ้นเชิง
แรงกระตุ้นหลักของสถาปัตยกรรมยุคนีโอคลาสสิกก็คือการกลับไปทำความเข้าใจ ‘ความบริสุทธิ์’ ของศิลปะยุคกรีกโบราณ ในขณะที่ช่วงศตวรรษที่ 16 มาจนถึงศตวรรษที่ 18 นั้นเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของศิลปะคลาสสิก อันได้แก่ ศิลปะยุคเรเนซองส์ (The Renaissance) และศิลปะยุคบาโรค (Baroque) เป็นต้น ที่จะเน้นความวิจิตรของลวดลายประติมากรรมแกะสลักลายหยดน้ำทั่วทุกมุมเสาและประตู รวมถึงการเพนต์ภาพลงบนทุกมุมผนังเพื่อตอกย้ำความเฟื่องฟูของวัฒนธรรมยุโรปและศาสนาคริสต์ แต่สุดท้ายแล้วความอู้ฟู่ก็ต้องมาถึงจุดเริ่มต้นของพื้นฐานอีกครั้ง ชาวอังกฤษไม่ได้ถูกจริตกับความทองอร่ามสไตล์บาโรคสักเท่าไร เมื่อมีการกำเนิดสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกขึ้น นอกจากฝรั่งเศสเองแล้ว สหราชอาณาจักรจึงเป็นหนึ่งในที่แรกๆ ที่นำสไตล์นี้มาปรับใช้อย่างแพร่หลาย
สถาปัตยกรรมโบซาร์กลายเป็นรูปแบบของสถานที่สำคัญของโลก ที่เราเห็นได้จากอาคารรัฐสภา ศาล โบสถ์ อาคารเรียนเก่าแก่ และแทรกอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตกมากมาย จากจุดเริ่มต้นในฝรั่งเศส ที่ต่อมานอกจากจะมีบทบาทต่อประเทศในยุโรปเช่นในสหราชอาณาจักรแล้ว ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 อิทธิพลนี้ยังแผ่ข้ามทวีปมาถึงสหรัฐอเมริกา เห็นได้ชัดผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ลินคอร์น เมมโมเรียล ที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนและไลม์สโตน หรืออีกสองตัวอย่างเด่น เช่นที่สถานีรถไฟแกรนด์เซ็นทรัล และห้องสมุดสาธารณะในนิวยอร์ก รูปแบบความงามอันอลังการถือเป็นความคลาสสิกข้ามกาลเวลา เพราะถูกนำมาเป็นต้นแบบตึกอาคารและที่พักอาศัยให้กับคนรุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆ
การลดทอนการใส่ลวดลายประดับที่ฟู่ฟ่า เน้นการตกแต่งในจุดสำคัญใหญ่ๆ และผลักดันความวิจิตรของงานฝีมือให้มากขึ้น โครงสร้างใช้หินและเหล็กเป็นส่วนใหญ่ ไม่เน้นเพิ่มเติมลวดลายให้มากเกินไป หัวใจหลักที่ทำให้สถาปัตยกรรมสไตล์โบซาร์โดดเด่นเปล่งประกายนั้นก็คือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ อย่างที่เหล่าศิลปินเชื่อถือกันว่าอุปกรณ์ที่ดีย่อมทำให้งานศิลปะสวยไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ความงดงามชั้นเลิศนี้รวบรวมมาไว้ที่โครงการ ‘98 Wireless’ โดยแสนสิริ โครงการที่พักอาศัย High-Rise ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนนวิทยุ ใช้เวลาบรรจงประดิษฐ์มากว่า 7 ปี เพื่อออกแบบ คัดสรรวัตถุดิบ และพัฒนาเพื่อมอบงานศิลปะที่ไร้กาลเวลา โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าที่พักอาศัยนั้นจะเลอค่าจากภายในสู่ภายนอก
ละมุนแต่แข็งแกร่ง แบบ Moleanos Limestone
วัสดุสำคัญของสถาปัตยกรรมโบซาร์ก็คือ ‘หิน’ ทั้งหินทรายและหินอ่อน เพราะโครงสร้างหลักของตึกรวมไปถึงของประดับตกแต่งก็ยังประกอบไปด้วยหิน ซึ่งหิน Moleanos Limestone เป็นหินธรรมชาติจากประเทศโปรตุเกส เป็นหินปูนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั่วโลก สามารถนำมาใช้ในงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลาย ตั้งแต่เป็นหินปูพื้น ผนัง ฟาซาด (façade) หรือแม้แต่งานหินสลัก ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
หิน Moleanos Limestone มีเสน่ห์ละมุนด้วยสีเบจควันกับลวดลายจุดกระเล็กๆ สีน้ำตาล มีความทนทานแข็งแรงเมื่อผ่านการเลือกสรรและประดิษฐ์งานอย่างพิถีพิถัน ผิวเนื้อของหินมีความมันเงาสวยงาม รวมถึงยังให้สัมผัสที่เย็นสบาย มีค่าการดูดซึมพอเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย สถาปนิกของ 98 Wireless เลือกวาง Moleanos Limestone คู่กับหินแกรนิต Absolute Black Granite จากอินเดียที่ทั้งเข้มขรึมหรูหรา ตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กคั่นระหว่าง Moleanos Limestone แต่ละแผ่นดึงความโดดเด่นของกันและกันออกมาได้อย่างแยบยล
Statuario หินอ่อนที่มากับลวดลายเทาคม
หินอ่อนยังเป็นหินที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะความละเอียดอ่อนและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะนำไปประดับที่จุดใดก็ทำให้ดูหรูหรามีราคา เพราะแบบนั้นแล้วในการสร้างตึกอาคาร หากต้องการความวิจิตรก็มักจะนึกถึงพื้นผนังหินอ่อนเป็นอย่างแรก อย่างพระที่นั่งอนันตสมาคมที่ใช้หินอ่อน Statuario หินอ่อนหายากและมีราคาแพงที่สุดจากเหมืองที่ประเทศอิตาลี ซึ่งให้ความรู้สึกพิเศษแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
หินอ่อนคลาสสิกที่เป็นที่นิยมมากที่สุดนั้นมี 3 ประเภทก็คือหินอ่อน Carrara, Calacatta และ Statuario ซึ่งทั้ง 3 ประเภทมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อย่าง Carrara เป็นหินอ่อนที่เกิดขึ้นที่เมือง Tuscany ประเทศอิตาลี ที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยโรมันโบราณและเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 Carrara นั้นจะเป็นหินอ่อนสีขาวนวลที่มีลวดลายสีเทาอมฟ้า กระจายเป็นเส้นฝอยเล็กๆ ให้ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน เหมาะสำหรับการทำผนัง พื้น บันได และที่มากไปกว่านั้นคือนิยมนำมาใช้แกะสลักเป็นรูปปั้นและอนุเสารีย์ต่างๆ อีกด้วย
แต่สำหรับคนที่ชอบความชัดเจนของลวดลายบนหินอ่อน Carrara อาจยังไม่ถูกจริตสักเท่าไร แต่ในขณะที่ Calacatta กับ Statuario จะเป็นหินอ่อนที่มีลายเป็นเส้นสีเทาชัดเจน แต่ทั้งสองประเภทก็มีความแตกต่าง Calacatta คือหินอ่อนที่ตอบโจทย์ภาพจำของหินอ่อนและมีความคลาสสิกที่สุด ส่งเสริมให้ห้องหับนั้นๆ หรูหราสง่างามด้วยเส้นสีเทาที่คาดเดาไม่ได้ ส่วน Statuario คือหินอ่อนชนิดที่พิเศษและราคาสูงที่สุด จุดเด่นอยู่ที่ลวดลายสีเทาคมเฉียบอย่างที่หาไม่ได้จากหินอ่อนประเภทอื่นๆ และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการสกัดออกมาแต่ละก้อน
หินอ่อนจะสวยงามพิเศษแค่ไหนเมื่อเส้นสายลวดลายมาบรรจบต่อกันจนเป็นงานศิลปะของธรรมชาติขนาดใหญ่? ด้วยเหตุนี้ ในการเลือกสรรวัตถุดิบให้แก่ 98 Wireless แสนสิริจึงเดินทางไปคัดเลือกหินอ่อนแต่ละก้อนเพื่อนำมาใช้ตกแต่งห้องพักของโครงการ และใส่ใจในความวิจิตรของงานฝีมือในขั้นตอนการเลือกตัดหินอ่อน Statuario ทีละแผ่นเพื่อนำมาเรียงให้ลวดลายต่อกันไม่ขาดตอน นอกจากนั้น หินอ่อนที่นำมาใช้ทุกแผ่นได้รับการวิจัยเพื่อให้หาค่าสมดุลที่ดีที่สุดในการใช้งานกับสภาพอากาศประเทศไทย เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่คงทนยาวนานไม่เปลี่ยนสภาพไป
นอกจากหินอ่อนที่คัดสรรมาพิเศษแล้ว Lefroy Brooks คือชื่อที่ทุกคนในวงการออกแบบให้การยอมรับเมื่อเอ่ยถึงสุขภัณฑ์ชั้นเลิศ ที่เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิก ผ่านรูปลักษณ์และเรื่องราวที่ล้วนตกผลึกมาจากมรดกทางการใช้ชีวิตซึ่งพบเห็นได้จากข้าวของเครื่องใช้ประวัติศาสตร์ที่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ก๊อกน้ำรุ่นแมคอินทอช (Macintosh) ที่ใช้ในโครงการ 98 Wireless ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตที่โก้หรูและล้ำลึกในสมัยทศวรรษที่ 1930 แต่ถ่ายทอดผ่านอารมณ์สง่างามร่วมสมัยด้วยวัสดุอย่างนิกเกิลขัดเงา
นอกจากนี้ สุขภัณฑ์จาก Kallista ผลงานออกแบบของดีไซเนอร์ดังอย่างไมเคิล เอส สมิธ และบาร์บาร่า แบรี่ ที่มากับวัสดุจากเซรามิกสีขาวนวล สะท้อนถึงความล้ำลึกของสุนทรีย์ที่ร่วมสมัย โดยเฉพาะซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราสง่างาม เป็นความงดงามอมตะที่ไร้กาลเวลาที่สะท้อนความคลาสสิกผ่านวัสดุชั้นเลิศ
หัวใจของบ้าน กับวัสดุที่สมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน
ในโซนห้องครัว 98 Wireless เลือกเฟ้น Subzero สุดยอดตู้เย็นและตู้เก็บไวน์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากเชฟระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็น กอร์ดอน แรมซีย์ หรือ เจมี่ โอลิเวอร์ Subzero ผสมผสานคุณค่าของศิลปะงานฝีมือเข้ากับเทคโนโลยีทำความเย็นระดับสูงสุดที่องค์กรนาซ่าเลือกใช้ ช่วยสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการเก็บรักษาอาหารให้สดใหม่อยู่เสมอ ในขณะที่การใช้แก๊สอาร์กอน (Argon Gas) จะช่วยปกป้องไวน์ขวดพิเศษล้ำค่าจากความเปลี่ยนแปลงภายนอก เพื่อรักษารสชาติ กลิ่น และสีให้คงสภาพสมบูรณ์ที่สุด
สำหรับเครื่องครัว Gaggenau แบรนด์จากเยอรมันที่กวาดรางวัลชั้นนำมาแล้วจากทั่วโลก Gaggenau เป็นอีกหนึ่งชื่อที่สะท้อนถึงสุดยอดของความหรูหราและฟังก์ชั่นการใช้งานในหนึ่งเดียว ดีไซน์สวยงามด้วยเส้นสายบริสุทธิ์สะอาดตา ได้รับการหลอมรวมเข้ากับเทคนิกการลงยาที่ช่วยให้ง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด โดยเฉพาะในรุ่นสูงสุดที่ประกอบไปด้วยไมโครเวฟ เตาอบ เครื่องดูดควัน และเครื่องทำกาแฟเอสเปรสโซ่
นอกจากนี้ ตู้เก็บของสำหรับครัวจาก SieMatic คืออีกหนึ่งชื่อคุ้นหูที่เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับนักออกแบบ และกลายเป็นอีกหนึ่งชิ้นเอกประจำครัวของเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลก ด้วยการผนวกฟังก์ชั่นการใช้งานและเทคโนโลยี เข้ากับเอกลักษณ์ทางสุนทรีย์ที่คลาสสิกไร้กาลเวลา หรูหรา สง่างาม และเต็มไปด้วยรสนิยมอย่างแท้จริง
มะฮอกกานี ช่วยเสริมความรู้สึกอบอุ่นภายในบ้าน
อาคารที่ใช้วัสดุหินอาจให้ความรู้สึกเย็นจึงต้องมีไม้เข้ามาเพิ่มเติมความอบอุ่น ไม้เป็นอีกหนึ่งวัสดุคลาสสิกตลอดกาลที่สรรสร้างความงามของที่อยู่อาศัยได้หลากหลายสไตล์ แต่สำหรับมะฮอกกานี ครอทช์ (Mahogany Crotch) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งคัดสรรส่วนที่ลายสวยและหายากที่สุดของไม้มะฮอกกานี เป็นต้นฉบับของภาพลักษณ์สุขุมนุ่มลึกสำหรับการตกแต่งภายใน
นอกจากนี้ ด้วยผลงานการหล่อปูนจาก Hyde Park Mouldings ที่เคยฝากผลงานไว้ภายในอาคารหรูมากมาย ก็เห็นได้ผ่านการประดับประดาอันวิจิตรของลายแกะสลักคิ้วบัว ฝ้า ส่งรับกับโคมไฟระย้าสั่งทำพิเศษ เฟอร์นิเจอร์ antique ที่ยิ่งเก่ายิ่งเก๋าและตู้ที่ออกแบบสั่งทำขึ้นมาใหม่ด้วยงานดีไซน์ระดับโลกจาก Ralph Lauren Home ภายในสตูดิโอที่สหรัฐอเมริกา มีฟังก์ชันที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้งานและความออริจินัลราวกับอยู่ที่นิวยอร์ก
ห้องชุดคอนโดนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวและเปรียบได้ดั่งบ้าน ไม้จึงกลายมาเป็นวัสดุหลักที่ทำให้ที่พักมีความอบอุ่นและสงบ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายแต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานของวัสดุชั้นเยี่ยม ที่ทำให้ห้องหับกลายเป็นเหมือนนิทรรศการศิลปะขนาดย่อม ตั้งแต่ลวดลายก้างปลาหรือ Herringbone ในส่วนของห้องนั่งเล่น ลายไม้กระดานในห้องนอน รวมไปถึงบานประตูที่ทำจากส่วนแง่งของต้นมะฮอกกานีซึ่งหายากและให้ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียว
รายละเอียดเล็กน้อย ที่ได้รับการใส่ใจ เสริมสร้างให้เป็นบ้านที่สมบูรณ์
เมื่อนึกถึงคำว่าบ้าน ปัจจัยที่คำนึงจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบายสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ฟังก์ชันการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ ในระยะยาวมากกว่า 10 ปี การมีโครงสร้างที่แข็งแรงคงทนจะต้องควบคู่ไปกับวัสดุตบแต่งที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกัน คอนโดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมักมีปัญหาเรื่องเสียงรถกวนจากถนนด้านนอก แต่กระจกพิเศษที่แสนสิรินำมาใช้ มีมาตรฐานสูงสุดเท่าที่เคยมีในการใช้ทำที่พักอาศัย เพราะเป็นกระจกที่ได้รับการพัฒนาและผ่านการรับรองจากคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเรื่องความสามารถในการลดเสียงรบกวนและความร้อนจากภายนอกได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผนังห้องที่มีความหนาพิเศษที่ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีทางได้ยินเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ สงบและเป็นส่วนตัวโดยแท้จริง
อีกวัสดุที่มักถูกมองข้ามก็คือทองเหลือง หลายคนมักประสบปัญหากับการใช้วัสดุอุปกรณ์จากโลหะชุบทองเหลืองที่สึกร่อนไปตามกาลเวลา แต่วัสดุที่ทำจากทองเหลืองแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างลูกบิดประตูหล่อขึ้นรูปจาก Baldwin ซึ่งหนึ่งในผลงานไอคอนิกที่ปรากฏในตัวอาคารสำคัญอย่างทำเนียบขาวนั้น สามารถการันตีได้ว่ายิ่งใช้ยิ่งเงางาม รวมถึงโลหะที่ใช้ตกแต่งด้วยดีไซน์และฝีมือแบบพิถีพิถัน นำมาทำเป็นโครงห้องอาบน้ำจากทองเหลืองชุบนิกเกิลคุณภาพดี ที่ดูเรียบแต่หรูหราและคงทน
ความโอ่อ่าอลังการของสถาปัตยกรรมสไตล์โบซาร์หรือนีโอคลาสสิก ยังคงมีเสน่ห์มนต์ขลังมาแบบไร้กาลเวลา ในมุมหนึ่งมีความเคร่งขรึม สุขุม และมีชั้นเชิง ขณะเดียวกันก็มีความสงบเงียบและอบอุ่น เมื่อได้เข้ามาสัมผัสความลงตัวของผังแปลนโล่งโปร่ง ด้วยเพดานสูงและโค้งโดมที่ทำให้ทุกคนต้องรู้สึกตะลึงกับความวิจิตร สไตล์ที่มีความโดดเด่นและเรียบหรู ความงามที่เกิดจากวัสดุเนื้อดี จะสามารถเปล่งประกายออกมาด้วยตัวของมันเองในทุกมุมมอง ทั้งผิวสัมผัส น้ำหนัก บรรยากาศ และมากไปกว่านั้นคือวัสดุที่ดีไม่ได้มีแค่ความสวยงามที่ตาเห็น แต่ย่อมทนทาน ใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพมากกว่าในทุกด้าน
