ภาพยนตร์เป็นหนึ่งในแหล่งความคิดสร้างสรรค์ที่ใกล้ตัวที่สุด มันมีทั้งข้อคิด แรงบันดาลใจ และรายละเอียดปลีกย่อยในทุกๆ บนสนทนาและการเคลื่อนกล้อง บางคนดูเพื่อศึกษาองค์ประกอบ บางคนดูเพื่อศึกษาการเขียนบท บางคนดูเพื่อศึกษาสุนทรียภาพ ภาพยนตร์แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นในแบบต่างๆ กัน

การสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง นอกจากบทจะต้องแข็งแรงแล้ว คาแรคเตอร์ของตัวละครก็ต้องแข็งแรงไม่แพ้กัน ซึ่งการแสดงออกนั้นไม่ได้อยู่ที่นักแสดงเพียงอย่างเดียว หากแต่อยู่ที่สไตล์ของตัวละครนั้นๆ ด้วย การแต่งตัวแทบจะเป็นสิ่งแรกที่เรามองเห็น และสร้างความจดจำให้กับผู้ชม บ่อยครั้งมันยังเป็นแรงบันดาลใจที่แบรนด์เสื้อผ้านำไปต่อยอดได้ด้วย เช่น คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสำหรับบุรุษประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2020 ของเฟนดิ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Call Me By Your Name (2017) ใครที่ทำงานเกี่ยวกับแวดวงแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ หรือสไตลิสต์ ถ้าวันไหนอยากเติมแรงบันดาลใจก็ลองหยิบภาพยนตร์มาชมกัน เผื่อว่าคุณจะค้นพบอะไรใหม่ๆ จากเรื่องราวเหล่านั้น

Phantom Thread (2017)

ผู้กำกับพอล โธมัส แอนเดอร์สัน ได้ไอเดียเรื่องนี้มาจากช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของเขาเอง เมื่อเขาล้มป่วยแล้วต้องนอนอยู่บนเตียงแทบตลอดเวลา ภรรยาจึงเป็นผู้ดูแลเขาทุกอย่าง ซึ่งเธอมาพร้อมกับสายตาอันอ่อนโยนที่เต็มตื้นไปด้วยความรัก โธมัสจึงฉุกคิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาได้

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการกลับมาทำงานอีกครั้งระหว่างโธมัส และแดเนียล เดย์-ลูอิส ที่มากไปกว่านั้นคือนี่อาจะเป็นผลงานการแสดงสุดท้ายของแดเนียล เนื่องจากเจ้าตัวประกาศออกมาว่าจะเกษียณอายุจากงานแสดง

ในการเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้แดเนียลได้ชมทั้งภาพยนตร์สารคดีและอ่านหนังสือมากมายเกี่ยวกับการออกแบบ รวมถึงฝึกฝนเกี่ยวกับการตัดเย็บจนชำนาญ

เครื่องแต่งกายส่วนใหญ่ในเรื่องนี้เป็นการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ เพราะโธมัสไม่ต้องการยืมหรือเช่าเสื้อผ้าวินเทจจากที่อื่นๆ และพนักงานหลายคนในบ้านวูดค็อกก็ไม่ได้เล่นโดยนักแสดงมืออาชีพ แต่เป็นช่างตัดเย็บหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับโลกแฟชั่นโดยตรง

เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1950 ของเรย์โนลด์ วู๊ดคอก เป็นช่างตัดเสื้อผู้โด่งดัง เขาตัดเย็บชุดให้กับชนชั้นสูง โดยทำงานร่วมกับซีริล พี่สาว ผู้ที่เป็นทั้งผู้จัดการธุรกิจและสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเขา เธอคือผู้ปกครองของเฮาส์ ออฟ วูดค็อก เรย์โนลด์คือชายโสดที่มีทั้งฝีมือและแพสชันในการทำงาน เขารักในความสมบูรณ์ ในขณะที่ชีวิตของตนค่อนข้างไม่สมบูรณ์ รายละเอียดของเสื้อผ้าที่เขาตัดเย็บนั้นปราณีตงดงาม ผิดกับความรักความสัมพันธ์ที่กระท่อนกระแท่น จนการมาถึงของอัลม่า สาวเสิร์ฟชนบทที่เข้ามาสานสัมพันธ์ครั้งใหม่ เธอสั่นคลอนเรย์โนลด์ต่างจากหญิงสาวที่ผ่านมาทั้งหมด มันสวยงามด้วยการถักทอจากมือสองคู่ที่แข็งขัน แต่ก็ต้องมาสะดุดลงกับการหวงแหนพื้นที่ส่วนตัวของเพอร์เฟกชันนิสม์อย่างเรย์โนลด์ หากเป็นคนอื่นคงวางมือและหันหลังกลับ แต่ไม่ใช่กับอัลม่า เธอรู้ว่าต้องเรียกร้องอย่างไร ปฏิบัติแบบไหน และมอบสิ่งใด เขาจึงจะเข้าใจว่าแท้จริงแล้วทั้งเขาและเธอคืออาภรณ์ที่เหมาะสมที่สุดของกันและกัน

Blade Runner 2049 (2017)

Blade Runner 2049 เป็นเรื่องราวต่อจาก Blade Runner (1982) ผลงานของผู้กำกับ ริดลีย์ สก็อตต์ โดยภาคนี้เป็นผลงานของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง เดนิส วิลเนิร์ฟ

ภาคแรกนั้นเป็นการล้มเหลวทางด้านรายได้อย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อกาลเวลาผ่าน ภาพยนตร์กลับยิ่งเป็นที่ผู้ถึงมากขึ้น และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไซไฟที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่ไม่ว่าจะภาคแรกหรือภาคนี้ ภาพยนตร์ก็โดดเด่นที่สุดในเรื่องของการออกแบบเครื่องแต่งกาย ผู้ที่มารังสรรค์เสื้อผ้าในภาคนี้ได้แก่ดีไซเนอร์หญิง รีนี เอพริล ซึ่งในการออกแบบครั้งนี้จะผสมผสานไปด้วยกลิ่นอายที่ทำให้นึกถึงภาคแรก แต่ก็มีความเป็นโลกอนาคต รวมถึงฟังก์ชันต่างๆ ที่เข้ากับแต่ละตัวละครด้วย

นี่คือเส้นเรื่องที่ต่อจาก 30 ปีที่แล้ว บริษัทไทเรลล่มสลายจากการก่อกบฏและมนุษย์เทียมรุ่นเก่าทุกตัวจะต้องถูกปราบปราม แต่ใช่ว่าโลกนี้จะไม่มีมนุษย์เทียมแล้ว เพราะ Wallace Corporation ซึ่งนำโดยไนแอนเดอร์ วอลเลซ ได้พัฒนามนุษย์เทียมไปอีกขั้น เค คือเบรดรันเนอร์คนใหม่ที่ได้รับภารกิจให้ตามเก็บมนุษย์เทียมเน็กซัส 8 แต่การทำงานในครั้งนี้ได้พาเคไปสู่ความลับอันดำมืดชิ้นหนึ่งที่ว่า มนุษย์เทียมรุ่นก่อนมีความสามารถในการให้กำเนิดมนุษย์ และมีมนุษย์ที่ถูกให้กำเนิดออกมาแล้ว เคเริ่มสับสนในตัวตนของตัวเอง เขาต้องการคำตอบว่าแท้จริงแล้วอะไรเป็นอะไรกันแน่ สิ่งที่ไนแอนเดอร์ปิดบังอยู่คืออะไร เขากำเนิดมาจากไหน คนกลุ่มหนึ่งกำลังปกป้องความลับอะไรอยู่ การพบกับระหว่างเขากับริค เดคการ์ด จะทำให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่? ไม่ว่ามนุษย์ไหนๆ ต่างก็เฝ้าถามกันมาตลอดว่าแท้จริงแล้ว “เราคือใคร”

Call Me By Your Name (2017)

ภาพยนตร์ขนาดยาวลำดับที่ 5 ของลูก้า กัวดาญีโน ที่มาพร้อมกับผู้กำกับภาพคู่ใจสยมภู มุกดีพร้อม หยิบจับนวนิยายโรแมนติกของอังเดร เอซิแมน มาถ่ายทอดภายใต้เงาแดดของอิตาลี และพาเราดดื่มด่ำไปกับความรักครั้งแรกที่หวานหอม แต่ไม่อาจหวนกลับมา

ความละเมียดละไมปรากฎอยู่ในทุกๆ รายละเอียดของภาพยนตร์ ตั้งแต่บทไปจนถึงการแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสไตล์ที่ชัดเจนของสองตัวละครหลักที่ได้ จูเลีย เพียซซานติ มาออกแบบ (เธอเคยร่วมงานกับลูก้ามาแล้วในเรื่อง A Bigger Splash) เครื่องแต่งกายเป็นทั้งการแสดงออกจากทั้งภายนอกและภายในของตัวละคร โอลิเวอร์คือหนุ่มอเมริกันผู้งามสง่า และเอลิโอก็คือเด็กหนุ่มเชื้อสายอเมริกันอิตาเลียน-ยิวที่งดงามและบอบบางอยู่ในที

Call Me By Your Name ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องของเอลิโอ เด็กหนุ่มวัย 17 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี และในทุกๆ ฤดูร้อนที่บ้านของเขาก็จะต้องต้อนรับแขกผู้มาเยือน ซึ่งมาช่วยงานวิจัยของพ่อเป็นเวลาหกสัปดาห์ และผู้มาเยือนในปีนี้ก็คือ โอลิเวอร์ นักศึกษาปริญญาโทวัย 24 ปี

เอลิโอไม่พอใจนักที่ต้องสละห้องนอนของตัวเองให้คนอื่น แถมเขายังไม่ค่อยชอบนิสัยใจคอของโอลิเวอร์ แต่ถึงอย่างนั้น เอลิโอกลับถูกแรงดึงดูดและความไม่เข้าใจบางอย่างให้ไม่สามารถสลัดโอลิเวอร์ออกจากความคิดได้ ฤดูร้อนอันแสงสงบปั่นป่วนขึ้น มันก่อตัวจนกลายเป็นแรงปรารถนาในกันและกัน ทางออกเดียวคือบอกออกไป บอกว่าคิดและรู้สึกอย่างไร ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายหรือแสนพิเศษก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกจำมันในแบบไหน เราปฏิบัติต่อกันอย่างไร เราลาจากกันด้วยท่าทีเช่นใด ฤดูความรักนั้นมีวันจบลงเช่นฤดูอื่นๆ แต่อย่าเร่งลืมความเศร้า จนลืมความสุขที่เคยมีไป ให้มันได้เบ่งบานและงดงามในความทรงจำ

The Favourite (2018)

ผลงานกำกับของ ยอร์กอส ลานธิมอส ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 โดยได้นักแสดงชั้นนำมาปะทะฝีมือกันอย่างถึงพริกถึงขิง ได้แก่ โอลิเวีย โคลแมน ในบทแอนน์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ส่วนเรเชล ไวสซ์ และเอ็มมา สโตน รับบทเป็นคนสนิทของพระองค์

เครื่องแต่งกายในเรื่องนี้รังสรรค์โดยแซนดี้ พาวเวลล์ คอสตูมดีไซเนอร์ร์เจ้าของรางวัลออสการ์สาขาเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม เธอให้ความสำคัญกับการเล่นสีเสื้อผ้า โดยเน้นไปที่สีขาว-ดำ มีการออกแบบอย่างประณีตในรายละเอียด และขับเน้นถึงตัวตนของตัวละคร

เนื้อหาของภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ว่าด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัวของราชิชีแอนน์ ในช่วงนั้นสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับประเทศฝรั่งเศส ไม่อาจกล่าวได้ว่าราชินีแอนน์มีความรู้ความสามารถในการเป็นผู้นำได้อย่างเต็มเปี่ยม เพราะพระองค์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจในเหตุบ้านการเมืองเท่าไรนัก แต่ตลอดมาพระองค์มีสหายหญิงที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กอย่าง ซาราห์ เชอร์ชิล ดัชเชสแห่งมาร์ลโบโรห์ คอยเป็นที่ปรึกษาและอยู่เบื้องหลังการปกครองอยู่กรายๆ

ราชินีแอนน์เป็นคนอารมณ์แปรปรวนง่าย มีโรคประจำตัวรุมเร้า และมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ที่สะสมเรื่อยมา การมีซาร่าห์อยู่ข้างกายจึงเป็นเหมือนที่ๆ ปลอดภัย แต่ความสัมพันธ์นั้นก็ต้องสั่นคลอนลง ด้วยการปรากฎตัวของอบิเกล ฮิลล์ ญาติห่างๆ ของซาราห์ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่เธอเรียนรู้ที่จะเอาอกเอาใจราชินีแอนน์อย่างรวดเร็ว สังคมภายในพระราชสำนักทำให้เธอรู้ว่าจะต้องเลือกข้าง เลือกสหาย และเลือกศัตรู อบิเกลจึงพยายามขึ้นมาแทนที่ซาราห์ นี่ไม่ต่างอะไรจากรักสามเส้าที่สุดท้ายแล้วก็ต้องเหลือเพียงคนสองคน ส่วนอีกหนึ่งนั้นจะโดนเขี่ยทิ้งไป อันหมายถึงการสูญเสียสถานะภาพอย่างที่ตนเคยมีมา

Crazy Rich Asians (2018)

ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ดัดแปลงมาจากวนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน ผลงานการเขียนของเควิน ควอน นำแสดงโดยคอนสแตนซ์ วู นักแสดงอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน ควงคู่มากับเฮนรี่ โกลดิง พระเอกหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-มาเลเซีย และที่ขาดไม่ได้ มิเชล โหยว ราชินีหนังบู๊ที่ยังคงความสง่าแม้ในวัยกว่า 50 ปี

เครื่องแต่งกายในเรื่องนี้ถูกเล่าออกมาได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งผู้ที่ดูแลคือ แมรี่ อี. วอกซ์ ผู้กำกับกล่าวกับเธอว่าต้องการให้ภาพรวมดูสดใสและมีสีสัน หัวใจสำคัญของเรื่องคือครอบครัวหนุ่มสาวที่มีความมั่นคงมาอย่างยาวนาน อิทธิพลจากแฟชั่นจะไม่ส่งผลต่อพวกเขาเท่าไร แต่พวกเขาจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง

ถ้าคุณจะไปพบครอบครัวของแฟน คุณจะรู้สึกอย่างไร ประหม่าไหม กังวลหรือเปล่า หรือมีความสุขมากแค่ไหน ราเชล ชู คือหญิงสาวที่กำลังจะเดินทางไปยังบ้านเกิดของแฟนหนุ่ม ราเชลเป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัย NYU เธอเติบโตมากับแม่ ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ขัดสน เธอคบกับนิคมาได้หนึ่งปีเต็ม และตัดสินใจจะเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทนิค 

มันเป็นครั้งแรกที่ราเชลรู้ว่าแท้จริงแล้วนิคเป็นใคร ครอบครัวมีพื้นเพอย่างไร และร่ำรวยขนาดไหน ฐานะที่แตกต่างกันอาจไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุด หากแต่เป็นเอลานอร์ ยัง แม่ของนิคที่หวงแหนลูกชาย และต้องการให้เขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต เธอมองว่าราเชลยังไม่คู่ควร รวมถึงแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไม่ต้องการได้ราเชลมาเป็นสะใภ้ ราเชลต้องปรับตัวอย่างมาก ทั้งเพื่อเข้าหาสังคมไฮโซที่พร้อมจะแทงข้างหลังกันตลอดเวลา สู้รบปรบมือกับสาวๆ ทั้งหลาย และทำความเข้าใจวัฒนธรรมเอเชียที่เธอไม่เคยสัมผัส การจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใครได้ เราต้องได้หัวใจของพวกเขาทั้งหมด ไม่ใช่แค่หัวใจคนใดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ความรักจะชนะทุกสิ่งได้ไหมก็ต้องไปลองดูกัน