สวมสูทพร้อมลุยกับ 5 ภาพยนตร์มาดเนี้ยบ จะบู๊แค่ไหนก็ไม่หวั่น

หากพูดถึงภาพยนตร์สายลับหรือมาเฟีย สิ่งแรกที่คุณนึกถึงคืออะไร? สำหรับผู้เขียน ภาพจำของภาพยนตร์เหล่านี้คือผู้ชายมาดเข้มที่อยู่ในยูนิฟอร์มสูทสุดเท่ การแต่งกายที่ตัดเย็บอย่างปราณีต เสริมให้บุคลิกของพวกเขาดูภูมิฐานและมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกเท่าตัว โดยสูทแต่ละแบบนั้นก็มีรายละเอียดแตกต่างกันไป สูทที่ดีนั้นคือสูทที่เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน ดังนั้น เมื่อดูภาพยนตร์เหล่านี้แล้ว ไม่แน่ว่าคุณอาจจะอยากมีสูทติดตู้เสื้อผ้าไว้สักชุดก็ได้

Skyfall (2012)

ภาพยนตร์สายลับลำดับที่ 23 ของเจมส์ บอนด์ ซึ่งได้แดเนียล เคร็ก มารับบทเป็นครั้งที่ 3 ต่อจาก Casino Royale และ Quantum of Solace

ในพิธีประกาศผลรางวัลออสการ์ปี 2013 Skyfall ได้กลายเป็นภาพยนตร์ชุดเจมส์ บอนด์ เรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดสำหรับภาพยนตร์แฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จำนวนมากที่สุดของบอนด์ ภาพยนตร์บอนด์เรื่องแรกในรอบสามทศวรรษที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ภาพยนตร์บอนด์เรื่องแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์สองรางวัล และภาพยนตร์บอนด์เรื่องที่สามที่ชนะรางวัลอคาเดมีอวอร์ดและเป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี

ในอิสตันบูล เจ้าหน้าที่สายลับ MI6 เจมส์ บอนด์ และอีฟ ได้รับภารกิจให้ไล่ล่าพาทริซ ทหารรับจ้างที่ขโมยฮาร์ดดิส ซึ่งมีรายละเอียดของตัวแทนสายลับไป ในระหว่างที่เผชิญหน้าและต่อสู้กัน บอนด์ถูกยิงและพลัดตกสู่แม่น้ำเบื้องล่าง แต่กลับไม่มีใครพบศพเขา ทุกคนจึงสันนิษฐานว่าเขาตายแล้ว

สามเดือนต่อมา เอ็ม หัวหน้าหน่วย MI6 ก็ถูกแรงกดดันให้ลาออก แต่หลังจากนั้นเหตุการณ์ต่างๆ กลับเลวร้ายลงเรื่อยๆ มีการก่อความรุนแรงจนเจ้าหน้าที่ล้มตายหลายคน พร้อมทั้งคำขู่ที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด บอนด์ซึ่งรอดชีวิตมาได้จึงกลับมารับภารกิจต่อ เขาออกตามหาพาทริซเพื่อชิงทุกอย่างกลับคืนมา รวมถึงสืบหาคนบงการเรื่องราวทั้งหมด แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม

เจมส์ บอนด์ภาคนี้จะทำให้ผู้ชมหวนนึกถึงภาคเก่าๆ ได้อย่างมีชั้นเชิง ทั้งตัวละคร รถยนต์ และความเป็นบอนด์ในแบบของเคร็ก แต่ตัวบทจะผสมความตลกเข้ามามากขึ้น และให้ความรู้สึกแบบอังกฤษมากๆ ความเห็นของผู้ชมแตกเป็นสองฝั่งอย่างเห็นได้ชัดว่ามีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ อย่างไรก็อยากให้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองกันก่อนว่าบอนด์แบบนี้ถูกจริตของเราไหม

John Wick (2014)

ภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ กำกับโดยแชด สตาเฮลสกี และเดวิด ลีทช์ สตันท์แมนที่หันมากำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก โดยแชดนั้นเคยเป็นตัวแสดงแทนให้กับคีอานู รีฟส์ด้วย

ส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเท็กซัส มาร์คัส ลูเทร็ลล์ อดีตเนวีซีล ได้รับลูกสุนัขมาตัวหนึ่ง มันชื่อว่าเดซี่ แต่ในอีก 4 ปี ต่อมาเจ้าเดซี่ก็ถูกฆ่าตาย มาร์คัสจึงติดอาวุธปืนและไล่ล่ากลุ่มชายพวกนั้นไป จนกระทั่งตำรวจจับตัวพวกเขาได้ ทั้งหมดถูกตัดสินจำคุก โดยมาร์คัสกล่าวในภายหลังว่า “ฉันไว้ชีวิตพวกเขา เพราะฉันฆ่าคนไปมากพอแล้ว”

จอห์น วิค อดีตนักฆ่ามือพระกาฬอันดับหนึ่งของวงการ เขาได้ล้างมือและหันหลังออกจากสิ่งที่ทำมาโดยตลอด โดยหวังว่าตัวเองจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสงบสุข เขาอาศัยอยู่ในบ้านกับสุนัขของภรรยาที่ตายจากไป มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ภรรยามอบให้เขา แต่ความสงบสุขกลับคืนมาได้ไม่นาน จู่ๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นบุกเข้ามา พวกนั้นทำร้ายร่างกายเขา สังหารสุนัขของเขา และขโมยรถของเขาไป นั่นทำให้ความอดทนของเขาขาดผึ่ง

จอห์นพร้อมจะไล่ล่าเอาคืนพวกมันอย่างสาสม แม้ว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นลูกชายของผู้มีอิทธิพลก็ตาม ความแค้นนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องล้างด้วยเลือด วิกโก้ หัวหน้าแก๊งรัสเซียจึงเรียกคนทั้งหมดมาคุ้มกันลูกชายเขา พร้อมตั้งค่าหัวจอห์น วิค เพื่อไม่ให้จอห์นเข้าถึงตัวลูกชายเขาได้ง่ายๆ มือปืนชั้นนำจึงพร้อมจะเล็งหัวมือปืนในตำนานอย่างจอห์น วิค

มันเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีความบันเทิงมากที่สุด พล็อตเรียบง่าย แต่ให้ความตื่นเต้นจนถึงตอนจบ และการแสดงของคีอานู รีฟส์ ก็เอาอยู่หมดทุกเม็ด

The Man From U.N.C.L.E. (2015)

ภาพยนตร์แนวสายลับ กำกับและร่วมเขียนบทโดยกาย ริตชี ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากละครโทรทัศน์ในชื่อเรื่องเดียวกัน ซึ่งออกฉายในปี 1964-1968 แต่เดิมนั้นทอม ครูซ เป็นนักแสดงที่ได้รับเลือกให้มาสวมบทนโปเลียน โซโล แต่เขาต้องการโฟกัสที่ Mission: Impossible – Rogue Nation บทจึงตกเป็นของเฮนรี คาวิลล์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ปล่อยออกมาในปีเดียวกันกับภาพยนตร์ Spectre (2015) และ Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) โดยทั้งสามเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สายลับที่เริ่มขึ้นในปี 1960

ภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของสายลับในช่วงสงครามเย็น โลกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ในปี 1963 นโปเลียน โซโล สายลับ CIA ได้ลอบพาตัวเกบี เทลเลอร์ ออกจากเยอรมนีตะวันออก โดยมีอิลย่า คูรียากิน สายลับ KGB ไล่ตามมา แต่ก็หนีรอดมาได้ แล้วเรื่องราวก็กลับตาลปัตร เมื่อ CIA และ KGB ต้องร่วมมือกัน นั่นเท่ากับว่าโซโลต้องร่วมมือกับคูรียากิน ศัตรูคู่แค้น เพื่อหยุดยั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่วางแผนจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ เงื่อนงำเดียวที่พวกเขามีก็คือ เกบี เทลเลอร์ ลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์ที่โดนจับตัวไป อย่างไร ทั้งหมดก็ต้องเข้าถึงตัวพ่อของเธอให้ได้ เพื่อหยุดเรื่องราวร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้น

หากเปรียบเทียบ โซโลกับคูริยากิน ทั้งสองคือบุคคลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งเป็นตัวแทนจากฝั่งเสรี และคนหนึ่งเป็นตัวแทนจากฝั่งคอมมิวนิสต์ การร่วมมือกันของทั้งสองจึงเป็นการร่วมกันของสองอุดมการณ์ มันอาจดูเป็นไปไม่ได้นักในความเป็นจริง แต่ภาพยนตร์ก็หยิบจับมันมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่เคอะเขิน มีความสนุกและความแสบสันต์ในแบบของตัวเอง ซึ่งแตกต่างไปจากภาพยนตร์สายลับที่เราคุ้นตา

Legend (2015)

ภาพยนตร์ชีวประวัติของอาชญากรฝาแฝดจอมอื้อฉาวของเกาะอังกฤษ เรจจี้ และรอนนี่ เครย์ ที่สร้างมาจากหนังสือของ จอหน์ เพียร์สัน ในชื่อ The Profession of Violence ซึ่งกำกับโดย ไบรอัน เฮลเกลันด์

ในเรื่องนี้ทอม ฮาร์ดี้ ต้องแสดงเป็นฝาแฝดที่มีบุคลิกต่างกันอย่างมาก ชีวิตจองสองพี่น้องเครย์เคยถูกนำไปสร้างภาพยนตร์มาก่อน แต่ในเวอร์ชั่นนี้จะแตกต่างออกไป เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความร้าวฉานของความรักความสัมพันธ์ เลือดจะข้นกว่าน้ำจริงอย่างที่ใครพูดหรือไม่ และในชีวิตจริงรอนนี่เก็บเรื่องการเป็นคนรักเพศเดียวกันไว้อย่างเป็นส่วนตัวมาก เพราะเขาเห็นว่ามันเป็นจุดอ่อนที่อาจถูกนำมาเอาเปรียบได้

เรื่องราวเริ่มต้นในประเทศอังกฤษปี 1960 สองพี่น้องเครย์มีแก๊งเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ที่อยู่ในการควบคุม แต่มันก็ยังไม่ได้ใหญ่โตนัก แม้ทั้งสองคนจะถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน แต่ลักษณะนิสัยกลับต่างกันแทบจะสิ้นเชิง เรจจี้เป็นคนช่างเจรจา เยือกเย็นในตอนที่ควร และเลือดร้อนในตอนที่เหมาะสม ส่วนรอนนี่ เป็นคนบ้าเลือดกว่ามาก มีความหวาดระแวงและวิกลจริตจนถึงกับเคยต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่รอนนี่ก็รักเรจจี้มากกว่าใคร

สองพี่น้องเครย์ค่อยๆ ขยายอิทธิพลออกไปทั่วย่านอีสต์เอนด์ แต่ขณะเดียวกันเรจจี้ก็ต้องประคับประคองความรักของตัวเองไว้ด้วย บางครั้งเขาก็ทำได้ดี แต่บ่อยครั้งเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะต้องตามล้างตามเช็ดวีรกรรมที่รอนนี่ก่อไว้ ถึงอย่างไรพวกเขาก็พี่น้องกัน และพี่น้องย่อมร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันเสมอ?

ทอม ฮาร์ดี้ สามารถคุมตัวละครได้อย่างอยู่หมัด สองบุคลิกที่เขาสวมมีการแสดงออกที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นแววตา สำเนียงการพูด และท่าทาง ดังนั้น ใครที่ชื่นชอบเขาจึงไม่ควรพลาดเรื่องนี้ เพราะทอมโดดเด่นมากจริงๆ

Kingsman: The Golden Circle (2017)

ภาพยนตร์มีพื้นฐานมาจากการ์ตูนซีรีส์ Kingsman ซึ่งได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่างแมทธิว วอห์น หยิบมาดัดแแปลง โดยเขาทั้งกำกับและร่วมเขียนบท นำแสดงโดยเหล่าผู้ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้วถึง 5 คน ได้แก่ จูเลียน มัวร์, แฮลลี เบร์รี, เจฟฟ์ บริดเจส, โคลิน เฟิร์ธ และเอลตัน จอห์น

ภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องที่สามในปี 2017 ที่มีเพลง “Take Me Home, Country Roads” เป็นเพลงประกอบ โดยอีกสองเรื่องคือ Alien: Covenant (2017) และ Logan Lucky (2017) ซึ่งมันทำให้แมทธิวประหลาดใจอยู่เหมือนกัน

เรื่องราวในภาคนี้ต่อเนื่องมาจากภาคแรก หลังจากแฮรี่ ฮาร์ต เสียชีวิตไปในภารกิจ กลุ่มสายลับคิงส์แมนก็เผชิญกับความยากลำบาก แต่เอ็กซี่กับเมอร์ลินก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ความบานปลายมันมาเกิดตรงที่ฐานทัพขององค์กรถูกถล่มโดยขีปนาวุธของป๊อปปี้ เจ้าแม่แห่งวงการยาเสพติด บรรดาคนในองค์กรจึงล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก

เอ็กซี่กับเมอร์ลินรอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่แผนการของป๊อปปี้ไม่จบลงแค่นั้น เพราะเธอได้ใส่ไวรัสลงในยาเสพติดที่จำหน่ายไปทั่วประเทศด้วย คนนับล้านเริ่มติดเชื้อและทยอยตายลงอย่างต่อเนื่อง เอ็กซี่กับเมอร์ลินต้องไปขอความร่วมมือจากสเตทแมน เครือข่ายสายลับในเคนทักกี เพื่อจัดการกับป๊อปปี้ ซึ่งเธอกบดานอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งในกัมพูชา ความโกลาหลทั้งหมดจะต้องยุติลง มิเช่นนั้นประชาชนจะต้องจมอยู่กับยาเสพติดอย่างแน่นอน

ภาพยนตร์ยังคงความสนุกสนานไว้ได้ไม่ต่างจากภาคแรก ทั้งยังเต็มไปด้วยสีสันจากนักแสดงที่ทุกคนคุ้นเคย ใส่ความโหด มัน ฮา มาแบบต่อเนื่อง ความน่าสนใจของภาคนี้คือการรวมพลังกันระหว่างสายลับอังกฤษและอเมริกัน ซึ่งต่างคนต่างสไตล์ แต่รวมกันแล้วบันเทิงอย่างลงตัว