อนิเมะเป็นหนึ่งในประเภทของภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยชื่อเสียงของสตูดิโอ ผู้กำกับฯ ความโดดเด่นด้านลายเส้น หรือแก่นของเรื่องราว ทุกอย่างผลักดันให้วัฒนธรรมของญี่ปุ่นแข็งแรงขึ้น และถูกส่งต่อไปยังทั่วโลก

หนึ่งในผู้กำกับฯ ภาพยนตร์อนิเมะที่โด่งดังและประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นชื่อของ ฮายาโอะ มิยาซากิ จาก Studio Ghibli ซึ่งมีลายเซ็นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นเด็กสาว สงครามโลก หรือเครื่องบิน และเมื่อไม่กี่ปีมานี้คงต้องยกให้ผู้กำกับฯ มือทอง มาโคโตะ ชินไค ชายที่นำพาความเหงามาพร้อมกับความงาม แต่ในแวดวงนี้ก็ยังมีผลงานของผู้กำกับฯ อีกหลากหลายที่น่าสนใจไม่แพ้กันให้เราเปิดใจชม 

ย้อนกลับไปในช่วงห้าปีที่ผ่านมาว่า ในกระแสคลื่นอนิเมะ มีใครปล่อยงานอะไรมาให้ชมกันบ้าง

The Anthem of the Heart (2015)

คำพูดมีพลังมากกว่าที่เราคิด บางคนคิด แต่ไม่ได้พูด บางคนพูด โดยไม่ได้คิด คำพูดและการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนเราเข้าใจกัน แต่เมื่อใครบางคนไม่สามารถสื่อสารออกมาได้ ไม่ว่าจะโดยคำพูดหรือการกระทำ ความเข้าใจย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย

The Anthem Of The Heart กำกับฯ โดย ทะสึยุกิ นะไง เล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักสี่คนที่ประสบปัญหาแตกต่างกัน แต่มีจุดร่วมคือพวกเขาไม่อาจเปิดเผยบางสิ่งที่อยู่ภายในใจได้ เริ่มจาก นารุเสะ—เด็กสาวแก่นแก้วที่พูดทุกอย่างตามที่เห็นและรู้สึก แต่วันหนึ่งสิ่งที่เธอพูดกลับกลายเป็นสิ่งที่ทำลายครอบครัวของเธอเอง เธอเห็นพ่อขับรถออกมาจากปราสาทแสนสวยกับผู้หญิงคนอื่น เมื่อนำเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟัง มันจึงนำไปสู่การหย่าร้าง นารุเสะในวัยประถมฯ จึงถูกสาปให้พูดอะไรไม่ออกอีกนับแต่วันนั้น ความรู้สึกผิดครอบงำจิตใจของเธอ จนเมื่อคิดจะเปิดปากเมื่อไร เธอจะเกิดอาการปวดท้องและอาเจียน

นารุเสะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กสาวที่เงียบเหงา จนกระทั่งครูประจำห้องเรียนชั้นมัธยมฯ เลือกเธอและเพื่อนๆ อีกสามคนมาเป็นคณะกรรมการการจัดงานประจำปี ประกอบไปด้วย ทาคุมิ —ผู้มีความสามารถด้านดนตรี นัตซึกิ—เชียร์ลีดเดอร์สาว และไดกิ—นักเบสบอลผู้บาดเจ็บที่แขน การจะทำงานนี้ให้สำเร็จพวกเขาต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ซึ่งทาคุมิได้ค้นพบว่าคำสาปของนารุเสะจะไม่ทำงาน หากเธอร้องเพลง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะแสดงละครเพลง 

นี่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีต ซื่อสัตย์กับความรู้สึก และ ‘พูด’ ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวความรักความฝันของวัยรุ่น แต่มันคือการก้าวข้ามอุปสรรคด้วยพลังของถ้อยคำ เสียงที่เราเปล่งออกมาจะมีความหมาย เมื่อเราใช้หัวใจเป็นสะพานเชื่อมโยงไปสู่ผู้อื่น

Flavors of Youth (2018)

แอนิเมชันเรื่องนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Haoliners สตูดิโอฝั่งประเทศจีน กับ CoMix Wave Films สตูดิโอฝั่งประเทศญี่ปุ่น ที่ทำออกมาถึงสามเรื่องสามรสในคราวเดียว โดยแบ่งออกเป็นแต่ละตอนที่แยกขาดจากกัน แต่ก็มีฉากร่วมและจุดมุ่งหมายของตัวละครที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

อนาคตของพวกเขาคือการเผชิญหน้ากับอดีต และฟาดฟันกับปัจจุบัน ความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่การก้าวผ่าน การได้สะสางความคับข้องใจจะนำไปสู่การก้าวเดิน ถ้าเราเชื่อมั่นในวันพรุ่งนี้ อดีตหรือปัจจุบันก็จะผ่านไป โดยที่เรายังคงหลงเหลือเรี่ยวแรงยืนหยัด

ก้าวที่หนึ่ง Hidamari no Choushoku — เรื่องของเสี่ยวหมิง ชายหนุ่มที่เดินทางจากมณฑลหูหนานมาทำงานที่ปักกิ่ง ในความวุ่นวายของบ้านเมืองและชีวิต มีรสชาติหนึ่งที่เขาหวนคิดถึงอยู่เสมอ นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวสามสหาย ในวัยเด็กเขาเติบโตมากับคุณยายและเคยได้กินก๋วยเตี๋ยวชามนี้ด้วยกัน มันเต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใยแบบที่ไม่ว่าก๋วยเตี๋ยวชามไหนๆ ก็ให้ไม่ได้ แต่เขาก็ไม่อาจหาก๋วยเตี๋ยวชามนั้นกินได้อีกแล้ว ต่อให้มันปรุงรสชาติมาดีแค่ไหนก็ตาม

ก้าวที่สอง Chiisana Fashion Show — สายสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวน้องสาว หยี่หลินกับลูลู่ ที่มีฉากหลังอยู่ในเมืองกวางโจว ทั้งสองมีความสนใจคล้ายๆ กันในด้านแฟชั่น แต่ก็เลือกเดินไปคนละสายงานตามความถนัด หยี่หลินเป็นนางแบบชื่อดัง ส่วนลูลู่ชื่นชอบงานเบื้องหลังด้านตัดเย็บเสียมากกว่า พวกเธอมีหนทางในแบบของใครของมัน ที่แม้จะขัดแย้งกันบ้าง แต่สุดท้ายสายใยของทั้งสองฝ่ายนี่แหละที่ช่วยประคับประคองกันและกันไว้ โดยไม่ทิ้งใครไว้ให้เจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียว

ก้าวที่สาม Shanghai Koi — เล่าเรื่องในเซี่ยงไฮ้ จากปี 1999 มาจนถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน หลี่โม่—ชายหนุ่มที่บังเอิญไปเจอเทปเก่าของเด็กสาวที่เป็นรักแรก เขาไม่รู้เลยว่ามีเทปม้วนนี้มาก่อน ไม่เคยรู้ว่ามีอะไรบรรจุไว้ในนั้น และไม่เคยคิดว่าจะมีสิ่งใดที่ตัวเองหลงลืม เทปม้วนนี้ได้พาให้เขามองย้อนกลับไปในวัยเยาว์ วันที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อความรัก แต่สิ่งต่างๆ ก็ไม่เป็นไปตามปรารถนา จนอีกหลายปีต่อมาเขาถึงมีโอกาสทบทวนว่ามันเป็นเพราะอะไร

Weathering with You (2019)

ผลงานเรื่องล่าสุดของผู้กำกับฯ ชื่อดัง มาโคโตะ ชินไค ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวความสัมพันธ์ให้เราได้ตกหลุมรักอีกครั้ง ความงามด้านภาพนั้นคงไม่ต้องพูดถึงว่าชวนประทับใจขนาดไหน ทุกฉากทุกตอนไม่ว่าจะตอนที่ดวงอาทิตย์ฉายฉานหรือเม็ดฝนพร่างพรม เราแทบจะละสายตาไม่ได้นอกจากจมอยู่กับภาพนั้น และคอยเอาใจช่วยความรักของหนุ่มสาวคู่นี้ ซึ่งหากนับเอาความเศร้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ต้องบอกว่ามันไม่เจ็บปวดเท่าเรื่องก่อนๆ ของชินไค

ในการเดินทางจากบ้านมาของ โมริชิมะ โฮดากะ—ตัวละครหลักของเรื่อง ชินไคสอดแทรกแรงขับจากอีกตัวละครหนึ่งเข้าไป นั่นคือ โฮลเดน คอลฟิลด์ เด็กหนุ่มจอมขบถในเรื่อง The Catcher in the Rye ซึ่งในตอนต้นเรื่องเราจะเห็นโฮดากะถือหนังสือเล่มนี้ไว้ขณะกำลังอยู่บนเรือข้ามฟาก

โฮดากะ นักเรียนชั้นมัธยมฯ ปลายที่หนีออกจากบ้านแล้วมุ่งหน้าสู่โตเกียว เขาไม่มีแผนอะไรทั้งสิ้น มีแต่ความตั้งใจที่จะไปให้ไกลจากบ้าน ในระหว่างทางบนเรือข้ามฟากเขาเกือบจะตกลงไปในทะเล เพราะขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าเรือตอนพายุกระหน่ำ โชคดีที่ได้ สุกะ เคสึเกะ ช่วยชีวิตไว้ รวมถึงยังเอื้อเฟื้อให้ที่พักพิงและงานในเวลาต่อมา

ในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่โตเกียว โฮดากะบังเอิญได้พบกับ อามาโนะ ฮินะ จนได้รู้ความลับว่าเธอคือ ‘สาวฟ้าใส’ คนที่สามารถส่งแรงอธิษฐานและทำให้สภาพอากาศเป็นไปตามต้องการ ตามตำนานกล่าวว่าความสามารถพิเศษนี้ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงในตอนแรก โฮดากะกับฮินะจึงใช้ความสามารถนี้ในการหารายได้เสริม โดยรับจ้างทำให้ฝนหยุดตกลงชั่วคราว และในยามที่แสงตะวันสาดส่อง มันยังช่วยขจัดความหม่นเศร้าในใจไปด้วย 

แต่ไม่นานนักวันที่ทั้งท้องฟ้าและชะตาชีวิตไม่เป็นใจก็มาถึง มันบังคับให้พวกเขาต้องเลือกระหว่างโลกหรือความรัก…เลือกจะอยู่หรือเลือกจะลา…

Hello World (2019)

เป็นแอนิเมชันโรแมนติก-ไซไฟ ผลงานของ โทโมฮิโกะ อิโต้ ผู้กำกับฯ Sword Art Online ทั้งสองภาค ซึ่งเรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทำหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์เต็มตัว ก่อนหน้านี้อิโต้เคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯ แอนิเมชันสองเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นเป็นอย่างดี ได้แก่ The Girl Who Leapt Through Time (2006) และ Summer Wars (2009)

Hello World เป็นประโยคที่เหมือนยั่วล้อไปกับเทคโนโลยี ไม่ต่างจาก Hey, Siri ใน iPhone หรือ Hello, Samantha ใน Her (2013) การสวัสดีโลกในครั้งนี้จึงเกี่ยวพันกับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัย

ในปี 2027 รัฐบาลญี่ปุ่นได้วางแผนที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างของโตเกียวไว้ เพื่อใช้อนุรักษ์สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมต่างๆ โดยข้อมูลทั้งหมดจะบรรจุอยู่ใน Alltale และในวันแสนธรรมดาวันหนึ่ง เด็กหนุ่มมัธยมฯ ปลาย นาโอมิ คาตางากิ ก็พบกับเหตุการณ์ประหลาด เขาเจอตัวเองที่มาจากโลกอนาคต การปรากฎตัวนี้ไม่ต่างอะไรจากผีหรือภาพลวงตา แต่ว่าเขาสามารถสื่อสารกับนาโอมิได้จริงๆ การมาถึงของนาโอมิผู้ใหญ่ หรือ ‘เซนเซย์’ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความจริงอีกชุดหนึ่ง ว่าแท้จริงแล้วชีวิตของนาโอมิไม่ใช่ชีวิตที่มีเลือดเนื้อจริงๆ แต่มันคือโลกใน Alltale ต่างหาก

เซนเซย์อธิบายว่า เขาเข้ามาในโลกนี้เพื่อเปลี่ยนอดีตที่ถูกบันทึกไว้ และช่วยชีวิตแฟนสาวให้รอดพ้นจากชะตากรรมบางอย่าง นั่นหมายถึง การช่วยให้นาโอมิได้มีแฟน และทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ เด็กสาวคนที่ว่าคือ อิจิเกียว รูริ เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคม แต่เธอจะกลายเป็นโลกทั้งใบของนาโอมิ และหากครึ่งแรกของภาพยนตร์คือการปูให้เห็นการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก ครึ่งหลังก็จะเป็นการทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ โดยเติมความไซ-ไฟเข้าไปเต็มรูปแบบมากกว่าเดิม

Ride Your Wave (2019)

มาซาอากิ ยูอาสะ ผู้กำกับฯ ที่มีผลงานและลายเส้นเฉพาะตัว ทั้งแปลกตาและแฟนตาซี ซึ่งเร็วๆ นี้ก็จะมีผลงานแอนิเมชันให้ชมทาง Netflix ด้วย (ใครอยากชิมลางตอนนี้สามารถชมเรื่อง The Night Is Short, Walk on Girl รอไปก่อนได้) 

สำหรับเรื่องนี้ ยูอาสะได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน แต่บางคนก็รู้สึกว่า ‘ธรรมดา’ เกินไปสำหรับเขา (ซึ่งถ้าใครเคยดู Mind Game (2004) จะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก)

Ride Your Wave เป็นเรื่องราวความรักบริสุทธิ์ของตัวละครเอกสองคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ผนวกเข้ากับเกลียวคลื่นของทะเลและชีวิตที่เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะดีหรือร้าย ยูอาสะกล่าวว่า “บางคนกลัวคลื่น บางคนกังวลเกี่ยวกับความล้มเหลว แต่คุณจะไม่มีทางรู้ หากคุณไม่ลอง มันไม่เป็นไรหรอกที่คุณจะล้มเหลว และมันก็สนุกมากที่จะได้โต้คลื่น”

พรหมลิขิตคือความหัศจรรย์ บางทีมันอาจเกิดขึ้นในชั่วพริบตาของความอลหม่าน และวันนั้นฮินาโกะก็กำลังสติแตกจากเหตุเพลิงไหม้ เธอคว้าเอากระดานเซิร์ฟวิ่งขึ้นไปยังดาดฟ้า โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะ มินาโตะ นักดับเพลิงหนุ่มเข้ามาช่วยไว้ ภายในไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็สานต่อความสัมพันธ์จนพาไปสู่ความรัก ถ้อยคำสัญญาของพวกเขาคือจะมีกันและกันตลอดไป

แน่นอนว่าโศกนาฏกรรมนั้นก็ติดตามมาอย่างรวดเร็วพอๆ กับความรัก หลังจากที่มินาโตะขอให้ฮินาโกะสอนเขาเล่นเซิร์ฟ ในเช้าวันที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง มินาโตะลงทะเลไปตามลำพังแล้วไม่กลับขึ้นมาอีก ฮินาโกะหัวใจสลาย และยังยึดมั่นในความทรงจำ จนอยู่ๆ มินาโตะก็เข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งในรูปแบบที่ต่างออกไป วิญญาณของเขาปรากฎตัวในน้ำ เพียงแค่เธอร้องเพลงที่เคยร้องด้วยกัน มินาโตะก็จะมาอยู่เคียงข้าง แต่ลึกๆ แล้วนั่นอาจไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดเพื่อจะมีกัน สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าวันนี้ ‘ไม่มีเรา’ อีกแล้ว

Tags: , , , ,