เคยไหม? ตั้งใจจะไปให้ถึงออฟฟิศเป็นคนแรกหรือไปตามนัดก่อนเวลา แต่อะไรๆ ก็ดูจะไม่เป็นใจจนพานทำให้คุณเป็นคนที่ ‘สายเสมอ’ ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่กี่ครั้งก็ตาม

ในความเป็นจริงนั้นการมาสายอาจจะไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนปวกเปียก หรือมีนิสัยขี้หลงขี้ลืมเสมอไป เพราะในเชิงจิตวิทยา หลักการต่างๆ อาจจะอธิบายเหตุผลการที่คุณเป็นคนมาสายเเบบคงเส้นคงวาได้มากกว่าที่คิดและลึกกว่าที่หัวหน้ามองคุณว่าเป็นพวก ‘ขี้เกียจ’!?

แม้ดูจะฟังไม่ขึ้นสักเท่าไร แต่ ‘ป่วย’ และ ‘อุบัติเหตุ’
ก็ยังเป็นเหตุผลที่คนมาสายทั่วโลกนิยมใช้อ้างกัน

หรือเพราะคุณละเอียดลออมากกว่าคนทั่วไป จึงใช้เวลามากกว่าปกติ?

มุมมองความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อคนไม่ตรงต่อเวลามักจะเป็นไปในเชิงลบ แต่บางทีมันอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดๆ ก็ได้

แฮร์เรียต เมลลอตต์ (Harriet Mellotte) นักบำบัดการปรับความคิดและพฤติกรรม (cognitive behavioural therapist) และนักจิตวิทยาคลินิกการฝึกในศูนย์ฝึกที่ลอนดอน กล่าวอย่างติดตลกไว้ว่า

“ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำให้เราชอบมองคนมาสายว่าเป็นพวกไร้ระเบียบ หยาบคาย ขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เพราะภายนอกห้องปฏิบัติการทางคลินิกนี้ คนที่มาสายก็มักทำให้ฉันหงุดหงิดรำคาญใจมากๆ”

แม้ดูจะฟังไม่ขึ้นสักเท่าไร แต่ ‘ป่วย’ และ ‘อุบัติเหตุ’ ก็ยังเป็นเหตุผลที่คนมาสายทั่วโลกนิยมใช้อ้างกัน ขณะที่คนชอบมาสายบางคนก็มองว่าชีวิตของพวกเขามีเรื่องมากมายที่ต้องทำมากกว่าการมามัวประวิง ‘รักษาเวลา’

โจแอนนา (Joanna: ไม่เปิดเผยนามสกุล) คุณครูในลอนดอนอธิบายถึงกิตติศัพท์การเป็นคนไม่ตรงต่อเวลาของเธอว่าเกิดขึ้นเพราะปัจจัยหลายๆ ประการ

“เวลาที่เพื่อนๆ นัดฉันให้ไปเจอ พวกเธอมักจะบอกว่าให้มาหลัง 7 โมงนะ พอฉันไปถึงตอน 8 โมงหรือสายกว่านั้น พวกหล่อนกลับปรี๊ดแตกใส่ฉันทันที”

ในความเป็นจริงนั้นพฤติกรรมการมาสายเป็นประจำอาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณก็ได้ เพราะมันอาจจะเกิดจากลักษณะความเป็นตัวตนของคุณ ทั้งบุคลิก, มุมมอง, ระดับการควบคุมตนเอง, ความกังวลหรือความชอบแสวงหาความท้าทาย โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าบุคลิกที่แตกต่างกันมีผลในการกำหนดว่าแต่ละคนจะจัดสรรเวลาได้มากน้อยแตกต่างกันอย่างไร

ปี 2001 เจฟฟ์ คอนเต (Jeff Conte) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยามหาวิทยาลัยรัฐซานดิเอโก ได้ทำการศึกษาเรื่อง ‘รูปแบบลักษณะนิสัยของคนกลุ่ม A กับเวลาที่เร่งรีบและการจัดการเวลา’ (Type A behavior pattern, time urgency, time management) โดยเเบ่งกลุ่มตัวอย่างศึกษาตามลักษณะนิสัย ได้แก่ กลุ่ม A ที่ชอบการแข่งขันและทะเยอทะยาน และกลุ่ม B คนชอบสำรวจที่มีความคิดสร้างสรรค์ ละเอียด และไตร่ตรอง

คอนเตทดลองโดยการให้กลุ่มตัวอย่างแต่ละกลุ่มเลือกหยุดเวลาเมื่อรู้สึกว่าครบ 1 นาที โดยไม่ใช้นาฬิกา ผลปรากฎว่ากลุ่ม A ใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 58 วินาที แต่กลุ่ม B กลับใช้เวลามากถึง 77 วินาทีในการหยุดเวลา

จากงานวิจัยนี้จึงอาจจะตีความได้ว่า บุคลิกของคนมีผลในการรับรู้เวลา (passing of time) ที่แตกต่างกัน เช่น คนที่ชอบการแข่งขันจะรู้สึกว่าเวลา 1 นาทีนั้นผ่านไปเร็วกว่าคนที่มีหัวด้านครีเอทีฟ

คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ
ก็มักจะมีแนวโน้มถูกจับผิดเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขา
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้น
ใช้เวลาตรวจทานงานของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่ามากกว่าคนทั่วๆ ไป

ใส่ใจรายละเอียดมากเกินไป และเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ คุณอาจจะกลายเป็นคนไม่ตรงต่อเวลา

มีเหตุผลเป็นพันล้านที่จะทำให้คุณเป็นคนชอบมาสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นคน ‘ใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ มากจนเกินไป’

สำหรับครูโจแอนนา เธอบอกว่าสิ่งที่ทำให้เธอหวั่นวิตกมากที่สุดคือการเขียนรายงานของโรงเรียน “เพราะฉันไม่เคยมีเดดไลน์ในการส่งรายงาน มันเลยทำให้ฉันดูเหมือนเป็นคนไม่ใส่ใจอะไร ทั้งๆ ที่ฉันครุ่นคิดถึงแต่ตัวรีพอร์ตมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับการประเมินเด็กแต่ละคน แต่ความจริงที่ว่าฉันส่งรายงานสายกลับทำให้ทุกอย่างพังทลายหมด”

แฮร์เรียต เมลลอตต์ อธิบายว่า “ความล่าช้าส่วนใหญ่เป็นผลพวงที่น่าวิตกเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือสภาพระบบประสาท คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรควิตกกังวลมักจะเลือกหลีกเลี่ยงการเผชิญสถานการณ์บางสถานการณ์ คนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองต่ำก็มักจะมีแนวโน้มถูกจับผิดเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นใช้เวลาตรวจทานงานของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่ามากกว่าคนทั่วๆ ไป”

แต่ใครจะรู้ว่าการที่คุณมาสาย ไม่ว่าคุณละเอียดลออกับหลายสิ่งหลายอย่างรอบๆ ตัว หรือใส่ใจในรายละเอียดมากเกินไปตามข้อมูลจากด้านบน ผลลัพธ์ก็คือคุณ ‘มาสาย’ อยู่ดี ซึ่งการมาสายไม่ใช่เรื่องที่ดีและยังส่งผลเสียต่อหลายเรื่องใกล้ตัวคุณ

คนที่มีพฤติกรรมชอบมาทำงานสาย
เป็นหนึ่งเหตุผลที่สุ่มเสี่ยงต่อการ ‘โดนไล่ออก’ จากบริษัท

การมาสายอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณถูกไล่ออก

การมาสายจะส่งผลต่อตัวคุณอย่างไร?

มาเรีย เคเทรียน เฮสลิน (Maria Katrien Heslin) เจ้าของบริษัท GPS to Success Coaching & Development บอกว่า เธอเห็นมามากกับข้อแก้ตัวของคนที่ชอบมาสาย ไม่ว่าจะเป็น การปวดท้องประจำเดือน การนอนมากกว่าปกติ จนไปถึงปัญหารถยนต์เสีย สำหรับเธอแล้วเหตุผลพวกนี้ไม่จำเป็นเลย เพราะบางครั้งเหตุผลจริงๆ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เหตุผลเหลวไหลพวกนี้ทำให้พนักงานโกหกตลอด แทนที่เธอจะหาเหตุผลของการมาสาย เธอควรให้ความสำคัญว่าการมาสายคือปัญหาที่ติดเป็นนิสัยแล้วหรือไม่มากกว่า

จากเว็บไซต์ jobs.lovetoknow.com และ beingfired.com กล่าวถึงคนที่มีพฤติกรรมชอบมาทำงานสาย เป็นหนึ่งเหตุผลที่สุ่มเสี่ยงต่อการ ‘โดนไล่ออก’ จากบริษัท ถ้าพนักงานยังคงมาทำงานสายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง พวกเขาอาจจะโดนไล่ออกได้เพราะเหตุผลนี้ และเป็นสัญญาณไม่ดีเท่าไรเมื่อเจ้านายของคุณจับจ้องการอู้งานของคุณทุกนาที เพราะหลายๆ บริษัทมีนโยบายไล่พนักงานออกเมื่อคุณมาสายเป็นประจำหรือขาดงาน 3 วัน

นั่นหมายความว่าถ้าคุณยังเป็นคนมาทำงานสายอยู่เป็นประจำก็เตรียมตัวหางานใหม่ได้เลย!

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai 

อ้างอิง:

Tags: ,