ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพในการทำงานขนาดไหน ช่วงเวลาพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็น แต่เวลาได้หยุดพักนานๆ เคยรู้สึกขี้เกียจที่จะต้องกลับไปทำงานบ้างไหม?

หลายคนคงรู้จักอาการที่เรียกว่า ‘Post Vacation Blues’ หรือ ภาวะซึมเศร้าหลังการเดินทาง ซึ่งมักเกิดกับคนที่เพิ่งกลับจากการเดินทางไกล แล้วต้องกลับไปทำกิจวัตรตามปกติจากวันหยุดยาว ยิ่งการเดินทางไกลหรือการหยุดยาวนานเท่าไร ก็มีแนวโน้มว่าอาการ Post Vacation Blues อาจยิ่งรุนแรงขึ้น 

สาเหตุเช่นนั้นเป็นเพราะหลังจากกลับมาจากวันหยุดยาวหรือการเดินทาง (ที่มักเต็มไปด้วยประสบการณ์สดใหม่ น่าจดจำ หรือเรื่องที่ดี) มันทำให้เราตระหนักว่า วิถีชีวิตปกตินั้นช่างแสนราบเรียบ และไม่น่าพึงพอใจเอาเสียเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้พบมาจากช่วงหยุดยาว

โดยเฉพาะพนักงานกินเงินเดือนอย่างเราๆ ที่พอได้หยุดยาวจากเทศกาลสักครั้ง ก็มักเกิดอาการอิดออด ไม่อยากกลับไปทำงาน ก็แหม หยุดยาวครั้งหนึ่งบางคนได้กลับบ้านอยู่กับครอบครัวเต็มอิ่ม บ้างออกเดินทางขึ้นเขาลงทะเลสูดอากาศบริสุทธิ์ บ้างนอนเอกเขนกดูเน็ตฟลิกซ์ยาวๆ แล้วใครมันจะอยากยอมรับง่ายๆ ว่าถึงเวลาต้องกลับไปอยู่ในออฟฟิศสี่เหลี่ยมจ๋อยๆ เพื่อก้มหน้าก้มตาทำงานแล้ว

แต่ในเมื่อโลกแห่งความเป็นจริงได้กวักมือเรียก และเราก็ไม่สามารถหยุดยาวไปมากกว่านี้ได้ การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมก่อนกลับมาทำงาน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า หากพิจารณาว่า มีงานอีกมากมายรอเรากลับไปสะสาง เพราะความผ่อนคลายจากการหยุดยาวอาจถูกแทนที่ด้วยความเครียดหรือวิตกกังวลได้ เนื่องจากรับมือกับความรู้สึก ‘เร่งด่วน’ ที่พุ่งเข้ามาไม่ทัน

หากคุณเป็นเช่นนั้น นี่คือ 7 ข้อ ในการเตรียมตัวเพื่อค่อยๆ กลับเข้าสู่ ‘การเปลี่ยนแปลง’ หลังวันหยุดยาว เพื่อให้พร้อมกลับมาทำงานอีกครั้ง

1. พบปะทีมเพื่อเตรียมตัว

จัดการพบปะเล็กๆ ง่ายๆ แค่ในกรุ๊ปไลน์ก็ได้ เพื่อเชื่อมความรู้สึกเดิมๆ ก่อนเริ่มงาน หรือทบทวนงานที่ทำอยู่ก่อนการหยุดยาว นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ในทีมได้ช่วยเสริมถึงสิ่งที่เราอาจลืมหรือตกหล่นไปจากการหยุดยาว

2. เขียนเป้าหมายสำหรับสัปดาห์แรกในการทำงาน

ก่อนจะเริ่มงานอย่างเต็มรูปแบบ ลองเขียนเป้าหมายที่ต้องการจัดการในสัปดาห์แรก เช่น จะตามงานบางชิ้นให้ทันก่อนวันที่เท่าไร หรือกำหนดเวลาในการทำงานของตัวเองให้กลับมาอยู่ตามไทม์ไลน์เดิมให้ได้

3. เริ่มต้นวันแรกด้วย ‘เวลาส่วนตัว’

การหยุดยาวทำให้เราได้ใช้เวลากับตัวเองก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่างานที่รออยู่จะหดหายไป ดังนั้น การกลับมาทำงานอาจกลายเป็นเรื่องหนักใจได้ วิธีที่ดีในการจัดการคือ ลองตื่นเช้าขึ้นและเริ่มวันแรกด้วยการใช้เวลาในการอยู่กับตัวเองเพื่อปรับความรู้สึกก่อนทีละนิด จะลองยืดเส้นยืดสาย นั่งสมาธิ หรือจิบกาแฟแก้วโปรด เพื่อเตรียมร่างกายและความคิดให้พร้อมก็ลุยงานก็ได้

4. จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ

การกลับมาทำงานหลังวันหยุดยาวอาจทำให้เรารู้สึกเหวอจากปริมาณงานที่เหมือนภูเขาถล่ม แต่จำไว้ว่า ทั้งหมดที่เห็นอาจไม่ใช่ทุกสิ่งที่เราต้องเข้าไปจัดการ ดังนั้นลองแยกแยะให้ชัดเจนระหว่าง ‘งานด่วน’ และ ‘งานไม่ด่วน’ กำหนดลำดับความสำคัญสำหรับแต่ละงาน และไทม์ไลน์ที่ชัดเจน 

5. ใช้สิทธิ ‘วันตามให้ทัน’

หลายแห่งมักจัดประชุมตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนกลับมาทำงาน แต่การลองไม่จัดการประชุมใดๆ สำหรับวันแรกก็อาจเป็นวิธีที่ดีเช่นกัน และจัดให้มันเป็นวันเคลียร์งานกองพะเนินเพื่อ ‘ตามให้ทัน’ สิ่งที่ค้างไว้ก่อนวันหยุดยาว การใช้เวลานี้ จะทำให้เกิดความชัดเจนในการวางแผนส่วนที่เหลืออย่างเหมาะสม

6. เริ่มต้นด้วยงานที่ดู ‘น่ากลัว’ ที่สุดก่อน

ในวันแรกที่กลับมาทำงาน ลองเริ่มต้นด้วยงานที่ดูจะน่ากังวลใจมากที่สุดไปจนถึงงานที่ง่ายที่สุด เมื่อเสร็จเรียบร้อย จะทำให้สามารถโฟกัสกับงานที่เหลือในแต่ละวันได้ดีขึ้น เพราะเมื่อทำ ‘ภารกิจ’ ใหญ่สำเร็จ จะทำให้เรารู้สึกประสบความสำเร็จมากขึ้นและเครียดน้อยลง รวมถึงเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น

7. ไม่ต้องรีบเร่งจนเกินไป

อย่าพยายามจัดการทุกอย่างให้เสร็จในคราวเดียว อย่าลืมว่าการจัดลำดับความสำคัญของงานจะช่วยได้มากทีเดียว และอย่าละเลยการ ‘ดูแล’ ตัวเองในด้านอื่นๆ ด้วย เพราะอย่างไรเราต่างก็เป็นมนุษย์ เช่น ออกกำลังกายตอนเช้า จิบเครื่องดื่มโปรดพร้อมกับการทำงาน สิ่งเหล่านี้คือความรื่นรมย์ในความรีบเร่ง ที่จะช่วยให้เราค่อยๆ ‘สับเกียร์’ กลับมาสู่โลกของการทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน หลับเต็มตื่น ไปพร้อมกับความผ่อนคลาย

และสุดท้ายนี้ “ยินดีต้อนรับกลับสู่โลกของการทำงาน”

Tags: , , ,