คุณโสดมานานหลายปี ไม่มีคนรู้ใจคอยเคียงข้าง เพื่อนที่โตมาด้วยกันถ้าไม่มีลูกก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว เหลือแค่คุณคนเดียวที่ยังไม่มีใคร แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้รู้สึกทุกข์ทรมานใจกับการไร้คู่ ในทางกลับกันคุณรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่กับตัวเองมากกว่า แต่พอมีใครเข้ามาทักทายทำความรู้จักก็ดันขี้เกียจตอบและไม่เคยทักหาใครเลย หากคุณมีอาการเหล่านี้ บางทีคุณอาจมีอากการโสดเรื้อรัง หรือ Chronically Single 

ถึงแม้คำว่า ‘โสด’ และคำว่า ‘เรื้อรัง’ อาจฟังดูเหมือนโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาหาย ทว่าความจริงแล้วการอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องแย่ และการเป็นโสดเรื้อรังก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลแต่อย่างใด เนื่องจากอาการโสดเรื้อรัง เป็นคำนิยามที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่ครองโสดมาเป็นเวลานาน เพราะรักในความสันโดษ มีความสุขกับกิน ดื่ม เที่ยวด้วยตัวคนเดียว รู้สึกดีกับการได้คิดหรือตัดสินใจโดยคำนึงถึงความต้องการของตนเป็นหลัก ถึงแม้ฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันเป็นความสบายใจที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องคาดหวังหรือพึ่งพาคนอื่น 

อีกทั้งคนที่มีอาการโสดเรื้อรังยังมีมาตรฐานสูงในการเลือกคบคน เนื่องจากพวกเขารู้ตัวดีว่า ตนเองมีค่าและคู่ควรกับคนที่ดีจริงๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้ หากยังไม่เจอคนที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะเจาะ การบ่มเพาะความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น จึงเป็นสิ่งที่คนเหล่านี้มองว่าคุ้มค่ากับการทุ่มเทมากกว่า นั่นจึงเป็นสาเหตุที่กลุ่มคนลักษณะนี้มักใช้เวลาอยู่กับเพื่อนและครอบครัวเสียเป็นส่วนมาก

การใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังแบบไร้คู่ ไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ นั่นจึงทำให้อาการโสดเรื้อรังไม่ใช่สิ่งที่น่าเป็นห่วง หากคนกลุ่มเหล่านี้ยังคงรู้สึกมีความสุขกับตนเอง ถึงแม้คนภายนอกอาจรู้สึกสงสารและเห็นใจ แต่เชื่อเถอะว่า พวกเขาไม่ได้รู้สึกแย่กับการเดินคนเดียวสักเท่าไร ในทางกลับกันพวกเขาอาจรู้สึกดีกว่าเสียด้วยซ้ำ และดูเหมือนว่านับวันจำนวนคนโสดโดยสมัครใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

ผลสำรวจในงานวิจัย Global Increases in Individualism ในปี 2017 ระบุว่า จำนวนประชากรที่เป็นโสดเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุผลด้านสังคม เศรษฐกิจ และประสบการณ์อื่นๆ ในชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย Why people prefer to be single: Voluntary singlehood and experiences with relationships ในปี 2022 เกี่ยวกับการศึกษาพฤติกรรมการเป็นโสดของคนจำนวน 629 คน พบว่า คนโสดโดยสมัครใจ 60% เลือกอยู่คนเดียวเพราะคำนึงถึงอนาคต ขณะที่คนโสดอีก 24% ฝังใจกับความสัมพันธ์ในอดีต อีกทั้งผลการสำรวจสำมะโนประชากรจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ในปี 2023 ยังคาดการณ์ว่า ภายใน 50 ปีข้างหน้า ประชากรโลกจะครองสถานะเป็นโสดเพิ่มขึ้น 35% 

อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดคือ การเป็นโสดหรือมีคู่ไม่ใช่ตัวชี้วัดว่า ใครประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในชีวิต ทุกคนสามารถมีความสุขในรูปแบบที่ตนเองพึงพอใจได้ โดยในงานวิจัย Happily ever after for coupled and single adults: A comparative study using latent profile analysis ที่เผยแพร่ในปี 2023 เกี่ยวกับการเปรียบเทียบระดับความสุขและความพึงพอใจในชีวิต ระหว่างคนโสดกับคนที่มีคู่ครอง โดยสำรวจกลุ่มคนโสดจำนวน 562 คน และกลุ่มคนมีคู่จำนวน 1,438 คน ผ่านการตอบแบบสอบถามชุดเดียวกันพบว่า คนโสดจำนวนมากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่และมีความสุขเทียบเท่ากับคนมีคู่ 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะโสดมาเนิ่นนานแค่ไหน ขอแค่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ก็เพียงพอแล้ว บางครั้งการได้รักตัวเอง อยู่กับตัวเอง ทบทวนเรื่องราวของตนเอง โดยไม่ต้องแสวงหาใครมาทดแทนหรือเติมเต็ม อาจทำให้เราได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตที่การมีแฟนไม่สามารถมอบให้เราได้ แต่ถึงอย่างนั้นการได้รักใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่ การใช้ชีวิตทุกรูปแบบขึ้นอยู่กับเราพึงพอใจหรือไม่

 

ที่มา:

https://geediting.com/people-who-are-chronically-single-tend-to-display-these-behaviors/

https://czasopisma.uksw.edu.pl/index.php/sp/article/view/11985

https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0956797617700622

https://www.psychologytoday.com/intl/blog/finding-a-new-home/202404/singles-can-be-as-happy-as-those-in-romantic-relationships

Tags: , , , , ,