สายลมใต้ปีก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’

“Stand by and stand back” 

“ขอให้อดกลั้นและเตรียมพร้อม” โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวพร้อมขยิบตา ระหว่างอภิปรายทางทีวีครั้งแรกกับ โจ ไบเดน เมื่อปี 2019 หลังจากมีคำถามจากกลุ่ม Proud Boys ว่าเขายังมีใจให้กลุ่มผู้สนับสนุนอยู่หรือไม่

และหลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณ ‘มีใจให้กัน’ อีกครั้ง เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ก็ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ก่อนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน และมีกลุ่มคนบุกรุกเข้าไปภายในอาคาร ผู้คนเหล่านั้นประกอบด้วยกลุ่มผู้สนับสนุนที่ลงคะแนนเสียงให้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ และที่เชื่อว่ามีการฉ้อโกงการเลือกตั้ง แต่กลุ่มนี้เข้าร่วมชุมนุมเพียงสองสามชั่วโมง เมื่อรู้สึกตัวว่าพลัดหลงเข้าไปในคลื่นชนคนหัวรุนแรงจึงแยกย้ายกันกลับไป

นอกจากนั้นแล้วยังมีกลุ่ม QAnon, Proud Boys, นีโอนาซี และฝ่ายขวาหัวรุนแรงที่เข้าร่วม และกลุ่มคนเหล่านี้เองที่ได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งบุกรุกเข้าไปก่อจลาจล และทุบทำลายทรัพย์สินภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ 

QAnon – การเคลื่อนไหวตามทฤษฎีสมคบคิด

‘คิวเอนอน’ ไม่ใช่องค์กรหรือโครงสร้างที่ถาวร หากเป็นแนวความคิดในการขับเคลื่อนเครือข่ายให้เคลื่อนไหวไปตามเป้าหมาย และมีตัวอย่างเป็นรูปธรรมในโลกความจริง อย่างเช่นกลุ่มชุมนุมประท้วง หรือการจัดตั้งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนผู้คนที่อยู่ในเครือข่ายมีจำนวนเท่าไหร่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่แน่ชัดว่ามันถูกขับเคลื่อนโดยนักการเมืองฝ่ายขวาและสื่อมวลชนในสหรัฐอเมริกา

ในเดือนตุลาคม 2017 มีข้อความปรากฏขึ้นในบอร์ดกระทู้ 4chan อันเป็นช่องทางสื่อสารของกลุ่มหัวรุนแรง กล่าวอ้างว่าอีกไม่นาน ฮิลลารี คลินตัน จะต้องถูกจับดำเนินคดี ข้อความที่โพสต์ดูคลุมเครือและแทบไม่ดึงดูดความสนใจสักเท่าไหร่ แต่ผู้ดูแล 4chan และยูทูเบอร์เริ่มถักทอตำนานที่เกี่ยวกับประเด็นนี้ และข้อความต่อๆ มา พร้อมกันนั้นพวกเขายังอ้างว่า ผู้เขียนไม่ใช่ทหารของสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับ ‘Q’ มีความปลอดภัยสูงสุด และด้วยเหตุนี้จึงสามารถเข้าถึงความลับนิวเคลียร์ของประเทศได้ ตำนาน ‘QAnon’ จึงถือกำเนิดขึ้นนับแต่นั้น

แต่ข้อความแรกมาจากใคร และโพสต์ต่อๆ มาเป็นการจัดการโดยบุคคลหรือกลุ่มคนเดียวกันหรือไม่นั้น ไม่ปรากฏหลักฐาน ทุกกระทู้ที่โพสต์ลงใน 4chan ล้วนแล้วแต่มาจากบัญชีอวตาร อีกทั้งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อเข้ากลุ่ม

ต่อมา ‘คิว-โพสต์’ ย้ายพื้นที่ไปยังอิมเมจบอร์ด 8chan ที่เน้นความรุนแรงมากขึ้น ทว่าดำเนินกิจกรรมมาถึงเดือนสิงหาคม 2019 ก็มีอันสิ้นสุดลง หลังจากผู้ให้บริการได้ยกเลิกบริการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคบนเว็บไซต์ เหตุเพราะมีการโจมตีในเอล ปาโซ และเดย์ตัน

ปัจจุบันบอร์ดกระทู้นี้เริ่มกลับสู่โลกออนไลน์อีกครั้ง แต่ยังพบกับปัญหาด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่อง จนต้องกระจายตัวไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เป็น ‘คิวดรอป’ แฝงตัวในสื่อโซเชียลฯ อย่าง Facebook, Instagram, YouTube, TikTok และ Telegram

นอกจากอักษร Q แล้ว พวกเขายังมีสโลแกน ‘Where we go one, we go all’ (ไปไหนไปกัน) หรือคำย่อ ‘WWG1WGA’ อันเป็นประโยคคำพูดจากคลิปของ ไมเคิล ฟลินน์ (Michael Flynn) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2020

ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ นอกจากจะมีบทความเผยแพร่แล้ว คิวเอนอนยังแตกไลน์หารายได้จากการทำเสื้อยืด หนังสือ ย่าม ธง และโปสเตอร์ขาย รวมถึงรายได้จากยอดวิวในยูทูบอีกด้วย

Proud Boys กลุ่มเหยียดคนผิวสีและสตรีเพศ

ชื่อของกลุ่มเป็นศัพท์บัญญัติของหนุ่มๆ ที่ภาคภูมิใจในสหรัฐอเมริกา ภาคภูมิใจในรากเหง้าพื้นเพ ภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของพวกเขา นอกจากนั้นพวกเขายังเป็นเพศชายทั้งหมด สมาชิกมีอายุระหว่าง 15 ถึง 30 ปี นิตยสาร New York Times ยังให้คำจำกัดความด้วยว่า คนกลุ่มนี้เกิดขึ้นจากฝ่ายขวาหัวรุนแรง ฟาสซิสต์ มีแนวโน้มเกลียดชังผู้หญิง และเหยียดเชื้อชาติ

สมาชิกกลุ่ม Proud Boys มีความใกล้ชิดกับกลุ่ม White Supremacy (ชนผิวขาวชั้นปกครอง) ที่ล้วนมีความเชื่อไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ชายผิวขาวชาวตะวันตกกำลังใกล้สูญพันธุ์ และต้องการสร้างโลกสมัยใหม่แบบไม่แยแสใคร

ไม่เป็นที่ประจักษ์ว่าสมาชิกของกลุ่ม Proud Boys มีจำนวนเท่าไหร่ แต่เป็นที่รับรู้กันว่าพวกเขามีพิธีเบื้องต้นในการรับสมาชิกเข้ากลุ่ม นั่นคือการสักลาย และสาบานตนว่า “จะไม่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง”

กลุ่ม Proud Boys มีชื่อในเรื่องของการใช้ความรุนแรง สมาชิกในกลุ่มมักมีเรื่องวิวาทต่อยตีกันบ่อยครั้ง ระหว่างการชุมนุมประท้วง Black Lives Matter คนกลุ่มนี้เข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาในชุดเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืน อ้างว่าเพื่อดูแลความเรียบร้อย แต่พวกเขากลับเป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบบ่อยครั้ง

Proud Boys ก่อตั้งขึ้นอย่างขำๆ เมื่อปี 2016 โดย แกวิน แม็กคินเนส (Gavin McInnes) ผู้เรียกตนเองว่าเป็นคนมุสลิม ชื่อกลุ่มมาจาก Proud of Your Boy เพลงประกอบหนัง Aladdin ของดิสนีย์

แกวิน แม็กคินเนส เคยร่วมก่อตั้งบริษัทสื่อชื่อ Vice ในปี 1994 ถอนตัวออกมาในปี 2007 และถอนตัวออกจากกลุ่ม Proud Boys ในปี 2018 ด้วย ทุกวันนี้ เอนริค ทาร์ริโอ (Enrique Tarrio) อดีตผู้ลี้ภัยจากคิวบา ได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีเครือข่ายที่เคลื่อนไหวอยู่นอกสหรัฐอเมริกา ได้แก่ แคนาดา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย

เอนริค ทาร์ริโอ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal หลังจากเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ความวุ่นวายแบบนี้จะเกิดขึ้นอีก “หากว่าพวกเขาไม่ยอมรับฟังเสียงของประชาชน”

เขาอาจเป็นหนึ่งในวันเกิดเหตุจลาจลที่กรุงวอชิงตันด้วย หากว่าเขาไม่ถูกตำรวจจับกุมและศาลสั่งห้ามเคลื่อนไหวก่อนหน้านั้น 

Neo-Nazi, Ku Klux Klan และ Alt-Right คลื่นความรุนแรงรุ่นเก่า

เหตุการณ์ความรุนแรงในชาร์ล็อตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย และได้รับบาดเจ็บ 19 คนนั้น เคยปรากฏชื่อกลุ่มเหล่านี้มีบทบาทร่วมเหตุจลาจล รวมทั้งในเหตุการณ์บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วย

ในภาพข่าวมีนีโอนาซีสองคน คนหนึ่งยกมือขวาขึ้นเหนือศีรษะแสดงสัญลักษณ์ ‘สีก-ไฮล์’ (Sieg-Heil) คล้ายการคารวะของพลพรรคนาซีในอดีตที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา อีกคนสวมเสื้อยืดพิมพ์ลายและอักษร ‘แคมป์ เอาชวิตซ์’ รวมถึงคนที่ถือธงสมาพันธรัฐอเมริกา (Confederate Flag) ซึ่งมีตราสัญลักษณ์รูปดาวบนกากบาท เคยใช้เป็นธงรบของกองกำลังรัฐเทนเนสซีในช่วงสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ที่สื่อถึงการเหยียดผิวและการกดขี่ของคนผิวขาว

นีโอนาซีในสหรัฐอเมริกายึดอุดมคติและสัญลักษณ์ของพรรคนาซีในเยอรมนีเป็นต้นแบบ สำหรับพวกเขาแล้ว อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เป็นเสมือนผู้มองการณ์ไกล ไอดอล และวีรบุรุษ นีโอนาซีอเมริกาก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ 1960s แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จกับผลงานใดๆ ทุกวันนี้พวกเขาทำได้แค่เพียงเป็นกองหน้าในทุกการชุมนุมของฝ่ายขวาหัวรุนแรง และเป็นหน่วยสร้างความเกลียดชังในเว็บไซต์ต่างๆ ‘National Socialist Movement’ (NSM) คือชื่อสมาคมของนีโอนาซีที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

‘คลู คลักซ์ แคลน’ ถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษ 1960s เพื่อตอบโต้การเรียกร้องสิทธิและความเสมอภาคของคนผิวดำ มีผลงานความรุนแรงและฆาตกรรมนับครั้งไม่ถ้วน เดวิด ดุค (David Duke) เคยเป็นผู้นำกลุ่มที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2016 โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเคลียร์ตนเองว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับฝ่ายขวาหัวรุนแรงกลุ่มนี้ ปัจจุบันคาดว่าสมาชิกของกลุ่ม KKK มีอยู่ราว 5,000-8,000 คน

‘อัลต์-ไรต์’ เป็นชื่อที่บัญญัติขึ้นโดย ริชาร์ด สเปนเซอร์ (Richard Spencer) เมื่อปี 2008 โดยแฝงแนวคิดแบบนีโอนาซี ฝ่ายขวาหัวรุนแรง และการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นกระบวนการ จุดประสงค์ของการก่อตั้งกลุ่มเพื่อ ‘การชำระล้างเผ่าพันธุ์ด้วยสันติวิธี’ สมาชิกทุกคนต่างมีแนวคิดร่วมกันที่การต่อต้านชาวมุสลิม ผู้อพยพ กลุ่มสตรีนิยม ความเสมอภาค และสังคมที่หลากหลาย สมาชิกหลายคนเป็นพวกเกลียดยิว

แล้วเราจะกลับมาอีกครั้ง

“การปฏิวัติครั้งที่สองจะเกิดขึ้น หากว่า โจ ไบเดน ร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี” 

คำข่มขู่ของ เดฟ เฮย์ส (Dave Hays) สมาชิก QAnon ผ่านทางทวิตเตอร์ ที่เขาใช้ชื่อบัญชี ‘Praying Medic’ และมีผู้ติดตามอยู่ราวครึ่งล้านบัญชี

ทว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ – ระหว่างที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้ถูกลงมติเสนอถอดถอน ด้วยข้อหา “เป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และสถาบันรัฐ …เขาคุกคามระบอบประชาธิปไตย ขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ และสั่นคลอนความเท่าเทียมของอำนาจรัฐ”

และก่อนถึงวันที่ผู้สนับสนุนจะเคลื่อนพลไปส่งขวัญและกำลังใจให้ โดนัลด์ ทรัมป์ แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ได้ระงับบัญชี @realdonaldtrump อย่างถาวรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้นอีก 

อ้างอิง

www.zdf.de/nachrichten/politik/us-wahlen-proud-boys-qanon-capitol-100.html#xtor=CS5-48

www.tagesschau.de/faktenfinder/qanon-faq-101.html

www.rnd.de/politik/wer-sind-die-proud-boys-OMLVTA54FBACXDBDLKG2DBPQXQ.html

www.n-tv.de/politik/Die-gewaltbereite-rechte-Szene-in-den-USA-article19981835.html

www.zdf.de/nachrichten/politik/usa-trump-impeachment-100.html#xtor=CS5-48