ขณะที่การเดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวันเป็นสิ่งที่องค์การอนามัยโลก มูลนิธิโรคหัวใจสหรัฐอเมริกา และกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน ของสหรัฐอเมริกาเริ่มแนะนำแก่ประชาชน อุตสาหกรรมขายเครื่องนับก้าวก็เฟื่องฟู ประมาณการณ์ว่าปี 2020 จะมีผู้ใส่อุปกรณ์ที่นับก้าวเดิน 500 ล้านคนทั่วโลก

         แต่ตัวเลข 10,000 ก้าวมาจากไหน?

         ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ที่มาของเลข 10,000 ก้าวนั้นมาจากการติ๊ต่างตัวเลขของงานวิจัยก่อนหน้า ซึ่งไม่ใช่งานวิทยาศาสตร์ที่ดีสักเท่าไร ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ต้องใส่ใจในการเดินคือเรื่อง ‘จังหวะ’ เช่น ควรเดินให้ได้กี่ก้าวต่อนาที และเดินอย่างไรให้ดีต่ออัตราการเต้นของหัวใจ

         แนวคิดการเดิน 10,000 ก้าวต่อวันเริ่มต้นจากแคมเปญการตลาดของญี่ปุ่นเมื่อกลางทศวรรษ 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1964 บริษัท ยามาสะ ออกแบบอุปกรณ์สวมใส่ติดตัวที่นับก้าวได้เป็นเครื่องแรกของโลก ชื่อ มังโปะเคอิ (manpo-kei) ที่แปลว่า เครื่องนับ 10,000 ก้าว

         ศาสตราจารย์เดวิด บาสเสตต์ (David Bassett) หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว นันทนาการ และวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเทนเนสซีกล่าวว่า ตอนนั้นยังไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ ว่าตัวเลข 10,000 ก้าวมันจริง  “พวกเขาแค่รู้ว่า มันเป็นตัวเลขที่น่าจะช่วยชี้วัดวิถีชีวิตที่ตื่นตัวและควรจะมีสุขภาพดี

         งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ที่พยายามตั้งธงทดสอบว่าการเดิน 10,000 ก้าวต่อวันเป็นจุดที่ดีกับสุขภาพนั้น พวกเขาเปรียบเทียบง่ายๆ ระหว่างคนที่เดิน 10,000 ก้าวต่อวัน กับคนที่เดินน้อยกว่า เช่น 3,000-5,000 ก้าว จากนั้นวัดการเผาผลาญแคลอรี ความดันโลหิต และระดับกลูโคสในเลือด

         ศาสตราจารย์แคทริน ทิวดอร์-ล็อค (Prof Catrine Tudor-Locke)  ศูนย์เฝ้าระวังสุขภาพของบุคคล มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซ็ตส์ แอมเฮิร์สท์ กล่าวว่า ตัวเลข 10,000 มาจากการออกแบบวิจัยตอนเริ่มต้น แต่ไม่ใช่ผลวิจัย ดังนั้นการศึกษาก็จะพบว่าการเดิน 10,000 ก้าวทำให้น้ำหนักลดลงมากกว่าคนที่เดิน 5,000 ก้าว สื่อเห็นแบบนี้ก็รายงาน “ใช่ คุณควรจะเดิน 10,000 ก้าว แต่เป็นเพราะว่าการศึกษาทดสอบแค่ 2 ตัวเลข ไม่ได้ทดสอบเลข 8,000 ก้าว หรือ 12,000 ก้าว”

         แม้เรารู้ว่าวิถีชีวิตที่นั่งอยู่กับที่ไม่ดี และถ้าเดินน้อยกว่า 5,000 ก้าวต่อวันอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่ในเวลาเดียวกัน “ดูเหมือนว่ามีการหมกมุ่นเรื่อง 10,000 ก้าว เดินกี่ก้าวจึงจะพอ คำถามที่เราควรจะถามมากกว่าก็คือ เดินกี่ก้าวถึงเรียกว่าน้อยเกินไป

         งานวิจัยส่วนหนึ่งที่ศึกษาการออกกำลังกายกับโรคเรื้อรัง ตั้งแต่โรคหัวใจไปจนถึงหลอดเลือดสมองแตก และมะเร็ง พบว่าการเดิน 6,000 – 8,000 ก้าวต่อวันอาจจะเป็นเป้าหมายที่ต้องการ “งานวิจัยเหล่านี้บอกว่า 6,000 ก้าวขึ้นไป ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถป้องกันโรคหัวใจได้” บาสเสตต์กล่าว “และสำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว มันจะช่วยแก้ไขปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นได้”

         นักวิทยาศาสตร์ที่เคยพยายามคำนวณหาจำนวนก้าวที่แท้จริงเพื่อให้ได้ผลเท่ากับการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน พบว่า เราควรจะเดินอย่างน้อย 7,500 ก้าวต่อวัน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์การกีฬากำลังศึกษาว่า 10,000 หรือ 18,000 ก้าวที่จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว

         ปัญหาหนึ่งของการกำหนดเป้าหมาย 10,000 ก้าวต่อวันคือ มันไม่สามารถแทนที่การออกกำลังกายได้ การหายใจและการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจสำคัญกว่าจำนวนก้าวมาก นักวิจัยส่วนหนึ่งจึงกำลังศึกษาเปรียบเทียบ คนที่เดิน 10,000 ก้าวต่อวันในบ้านกับคนที่เดินนอกบ้านหรือเล่นกีฬา

         งานศึกษาเมื่อไม่นานนี้ เริ่มดูที่ ‘จังหวะ’ ซึ่งเป็นการดูอัตราการก้าวเดินหรือความถี่ของการก้าวที่จะส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนเลือดในร่างกาย

         เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ทิวดอร์-ล็อค เพิ่งตีพิมพ์ผลการศึกษาเบื้องต้นที่ศึกษาว่า ควรจะเดินเร็วแค่ไหนถึงจะพอ ผลการศึกษาแนะนำให้เดิน 100 ก้าวต่อนาทีจะเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์ นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นศึกษาว่าคนที่มีสุขภาพดีไม่ได้อยู่ที่ว่าพวกเขาเดินได้กี่ก้าว แต่อยู่ที่เดินด้วยอัตราเร็วเท่าไหร่

 

ที่มา:

https://www.theguardian.com/lifeandstyle/2018/sep/03/watch-your-step-why-the-10000-daily-goal-is-built-on-bad-science

Tags: , ,