หลังจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมอีก 5 พรรค แถลงจุดยืนในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลและพร้อมลงคะแนนสนับสนุนให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ ในขณะที่อีก 7 พรรคแนวร่วมไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ‘สืบทอดอำนาจ’ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีต่อ ซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทยนั้น สุดท้ายแล้วมีมติร่วมกันในการส่งชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน หลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ หนึ่งในสามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยประกาศไม่รับตำแหน่งใดๆ และชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ได้รับการวางตัวให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครในครั้งต่อไป

และสุดท้าย เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ประกาศพร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ฝั่งพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วม รวม 19 พรรค มีคะแนนเสียง 254 เสียง และฝั่งพรรคเพื่อไทยและแนวร่วมรวม 7 พรรคมีคะแนนเสียง 246 เสียง แต่หากหักการออกเสียงของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งอยู่ในระหว่างคำสั่งศาลในการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่จึงไม่มีสิทธิลงคะแนน ทำให้เหลือเพียง 245 เสียง ซึ่งเท่ากับว่าในการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ฝั่งพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมต้องการคะแนนเสียงจาก ส.ว. อีก 122 เสียง เพื่อให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาทั้งหมด หรือ 376 เสียงเพื่อให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย ในขณะที่ฝั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วม เพื่อให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องการคะแนนเสียงจาก ส.ว. อีก 131 เสียง

ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะได้ทราบผลแล้วว่า ส.ว. จำนวน 250 คนจากการสรรหาของ คสช. นั้น จะลงคะแนนเสียงให้กับฝั่งไหน เพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย

Tags: ,