แม้จะเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า วินเซนต์ แวนโกะห์ จิตรกรงานสไตล์โพสต์อิมเพรสชั่นนิสม์ระดับโลกฆ่าตัวตายหรือว่าถูกฆาตกรรม แต่ปืนที่เชื่อว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ปลิดชีวิตเขา ได้ชื่อว่าเป็น “อาวุธที่เลื่องชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลป์” ล่าสุดถูกนำมาประมูลในปารีส เคาะราคาที่ 162,500 ยูโร หรือประมาณ 5.6 ล้านบาทสูงกว่าราคาที่คาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า โดยผู้ประมูลที่ไม่ประสงค์จะออกนามผ่านทางโทรศัพท์

ปืนดังกล่าวเป็นปืนลูกโม่ขนาด 7 มม. ผลิตโดยบริษัท Lefaucheux มีสภาพผุกร่อนและเขรอะไปด้วยสนิม ซึ่งองค์กร Remy Le Fur & Associates ผู้จัดการประมูลกล่าวว่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่เชื่อกันว่าแวนโกะห์ใช้เป็นอาวุธในการปลิดชีวิตของเขากลางทุ่งใกล้กับหมู่บ้าน Auvers-sur-Oise ทางตอนเหนือของกรุงปารีส

เหตุที่ยังคงใช้คำว่า “เชื่อกันว่า” ก็เพราะในวันที่ 27 กรกฎาคม ปี 1890 ซึ่งแวนโกะห์เสียชีวิตจากอาวุธปืนนั้น ไม่ได้พบปืนกระบอกนั้นโดยทันที โดยปืนกระบอกที่นำมาประมูล เป็นปืนที่ถูกค้นพบโดยชาวไร่คนหนึ่งในปี 1965 ที่ไปเจอในทุ่งใกล้กับหมู่บ้านซึ่งเป็นที่พักในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของแวนโกะห์ เท่ากับว่าปืนกระบอกนี้ถูกฝังอยู่ในพื้นดินมาตั้งแต่ปี 1890 เลยทีเดียว

แต่สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ใช้ปลิดชีวิตจิตรกรระดับโลกผู้นี้ ก็เพราะมีการพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์ว่า อายุของปืนใกล้เคียงกันกับช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต และขนาดของปืนตรงกับกระสุนจากศพของแวนโกะห์ และการที่ปืนถูกพบในสภาพพร้อมยิง พอจะสันนิษฐานได้ว่า ปืนกระบอกดังกล่าวอาจเป็นของที่แวนโกะห์เคยใช้จริงๆ

ซึ่งก็มีคนมาประมูลมันไปแล้วในราคาสูงถึง 5.6 ล้านบาท

เรื่องราวของปืนอันเป็นจุดจบของชีวิตของศิลปินระดับโลกผู้นี้ ถูกตั้งคำถามและสืบค้นบ่อยครั้ง โดยทฤษฎีแรกและเป็นทฤษฎีที่เชื่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ มีการการสืบเสาะหลักฐานของนักเขียนนาม อาแล็ง โรอาน (Alain Rohan) ในหนังสือชื่อ “Did We Find the Suicide Weapon?” ในปี 2012 ซึ่งสรุปข้อสันนิษฐานว่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ใช้ยิงแวนโกะห์จริง ทั้งจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า ขนาดของปืนตรงกับกระสุนจากศพของแวนโกะห์ รวมไปถึงเป็นปืนพลังทำลายต่ำ ซึ่งตรงกับเรื่องราวการเสียชีวิตของแวนโกะห์ซึ่งไม่ได้เสียชีวิตโดยทันที

ในขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งมาจากเกรกอรี่ ไวท์ สมิธ (Gregory White Smith) และสตีเวน เนฟีห์ (Steven Naifeh) สองนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ที่เสนอทฤษฎีการตายของแวนโกะห์ไว้ในหนังสือชีวประวัติของแวนโกะห์ ชื่อ “Van Gogh: The Life” ในปี 2011 ซึ่งกล่าวว่า แวนโกะห์อาจจะถูกยิงโดยสองพี่น้องในละแวกนั้นที่คอยรังแกแวนโกะห์มาโดยตลอด โดยผู้น้องอาจจะเป็นคนยิงส่วนผู้พี่เป็นผู้ปกปิดและสร้างเรื่องว่าแวนโกะห์ยิงตัวตายเองเพื่อปกป้องน้องชายของเขา ซึ่งทฤษฎีนี้สันนิษฐานมาจากจากการสืบค้นจดหมายส่วนตัวและจดหมายของครอบครัวของแวนโกะห์

แม้การสันนิษฐานจะมีความน่าสนใจ แต่ก็มีคนคัดค้านอยู่ไม่น้อย โดยให้เหตุผลว่า แวนโกะห์ไม่ได้เสียชีวิตในทันทีหลังจากที่โดนยิงเนื่องด้วยปืนมีพลังทำลายต่ำเกินไป ซึ่งหากเขาถูกยิงจากบุคคลอื่นจริงๆ แวนโกะห์เองก็น่าจะบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่มาพบ แต่ทำไมเขาเลือกที่จะทิ้งท้ายก่อนตายด้วยคำพูดที่ทรงพลังมาจนถึงทุกวันนี้ว่า “ความเศร้าจะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์”

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้แย้งว่า การที่แวนโกะห์เลือกที่จะไม่บอกความจริง ก็เพระาเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วยทางจิตที่ถึงขั้นใช้ใบมีดโกนเฉือนหูซ้ายของตัวเอง จึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ให้เป็นภาระของน้องชายก็เป็นไปได้

มีอีกหลายเสียงกล่าวว่าทั้งการตายตั้งแต่อายุยังน้อย การตายที่เป็นปริศนา และเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ระทมเศร้านี่เอง ที่ทำให้งานของแวนโกะห์ทรงพลังและยังคงน่าสนใจมาจนถึงทุกวันนี้

 

อ้างอิง

  • http://www.artnews.com/2019/06/19/van-gogh-suicide-gun-auction/
  • https://edition.cnn.com/style/article/van-gogh-gun-sold-auction-trnd/index.html
  • https://www.bbc.com/news/world-europe-48694433

ภาพ : Charles Platiau/REUTERS

Tags: , , , , , ,