จิ๋มนั้นสำคัญไฉน…ก็ต้องสำคัญสิ เพราะจิ๋มนี้แหละ (จู๋ด้วย) ที่สร้างประชากรของโลก แต่ในโลกนี้เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์จู๋ (ที่โด่งดังก็เห็นจะเป็น Penis Museum ที่ไอซ์แลนด์) แต่ยังไม่มีพิพิธภัณฑ์จิ๋มเลย จนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์จิ๋มแห่งแรกในโลกก็ได้ฤกษ์เปิดตัวแล้วที่ลอนดอน ชื่อก็ตรงตัวง่ายๆ ว่า Vagina Museum

โปรเจ็กต์นี้เริ่มต้นเมื่อปี 2017 โดยผู้กำกับกับหญิง ฟลอเรนซ์ เชชเตอร์ ซึ่งมองว่าทำไมในโลกนี้ถึงไม่มีพิพิธภัณฑ์จิ๋มเลย ทั้งๆ ที่พิพิธภัณฑ์จู๋เต็มไปหมด ในขณะที่งานศิลปะ หรืองานแสดงเกี่ยวกับจิ๋มก็มีออกมาเรื่อยๆ ทั้งพิพิธภัณฑ์จิ๋มออนไลน์ โปรเจ็กต์ของศิลปินชาวออสเตรียน เคิร์สติน ราจนาร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมผลงานและความรู้เกี่ยวกับจิ๋มแรกๆ ในโลกออนไลน์ 

“พิพิธภัณฑ์จิ๋มมีความสำคัญมาก เพราะบริเวณนี้ของร่างกายถูกตีตราอย่างหนักและมันสร้างผลตามมาในโลกแห่งความจริง ผู้หญิงหลายคนเขินอายเกินกว่าที่จะดูว่าจิ๋มตัวเองมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดในการทำโปรเจ็กต์นี้ของเราก็คือการต่อสู้กับข้อห้ามที่กำกับร่างกายของเราไว้ และสร้างสถานที่ที่เราจะได้สนทนาเรื่องนี้อย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์” เชชเตอร์กล่าว

พิพิธภัณฑ์จิ๋มแห่งนี้สร้างขึ้นมาได้ด้วยการระดมทุนจากสาธารณะ จากประชาชนกว่าหนึ่งพันคน เป็นเงินบริจาคกว่า 5 หมื่นยูโร ตั้งอยู่ที่ Camden Stables Market ถนน Chalk Farm ในลอนดอน และเปิดให้เข้าชมฟรีอีกด้วย

 

โดยนิทรรศการแรกที่จัดแสดงคือ Muff Busters: Vagina Myths and How To Fight Them ในวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาและจะจัดแสดงไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ว่าด้วยเรื่องมายาคติที่เกิดขึ้นกับจิ๋ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด รูปร่างลักษณะ การมีประจำเดือน เซ็กซ์และการคุมกำเนิด 

ในนิทรรศการมีการจัดแสดงข้อมูลผลการสำรวจของสถาบัน YouGov ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของประชาชนชาวอังกฤษที่สำรวจไม่สามารถอธิบายฟังก์ชั่นการทำงานแม้กระทั่งบริเวณแห่งที่ที่มันอยู่ของ ช่องคลอด (52%), แคม (47%) หรือท่อปัสสาวะ (58%) ได้ 

“ผลการสำรวจนี้ทำให้ฉันน่าประหลาดใจ…ครึ่งหนึ่งของคนที่สำรวจไม่ทราบว่าช่องคลอดอยู่ที่ไหน ฉันคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ผู้คนควรรู้ อีกหนึ่งสถิติที่น่าตกใจก็คือผู้หญิง 1 ใน 5 คิดว่าต้องถอดเอาผ้าอนามัยแบบสอดออกก่อนเพื่อที่จะปัสสาวะ” ซาราห์ ครีด ผู้ดูแลนิทรรศการ กล่าว

ในนิทรรศการนี้ มีการจัดแสดงสิ่งของหลากหลายแบบที่เกี่ยวข้อมกับจิ๋มและมายาคติที่เกิดกับจิ๋มโดยตรง เช่น น้ำยาล้างช่องคลอด ซึ่งซาราห์ ครีด กล่าวอธิบายว่า

“ช่องคลอดของผู้หญิงไม่ได้มีกลิ่นเหมือนช่อดอกไม้และมันไม่ควรจะมีกลิ่นแบบนั้น คนมักคิดว่ามันก็เหมือนรักแร้นั่นแหละ ถ้ามีกลิ่นก็ต้องใส่ยาระงับกลิ่นกายลงไป แต่ที่จริงเราไม่ควรจะทำแบบนั้นกับส่วนนั้นของร่างกาย หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเรามีจุลินทรีย์ระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนมากที่นั่น คุณไม่สามารถมีผลิตภัณฑ์สำหรับทุกช่องคลอดได้หรอก เพราะทุกคนแตกต่างกัน”

นอกจากนั้นยังซาราห์ ครีด ยังนำกางเกงในของตัวเองมาจัดแสดงในนิทรรศการนี้อีกด้วย เพื่ออธิบายว่าช่องคลอดของผู้หญิงมีความเป็นกรดในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้กางเกงในเกิดการฟอกขาวได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ 

ในส่วนของนิทรรศการนั้นนอกจากจะสามารถไปเดินเยี่ยมชมเรื่องเล่าและข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับจิ๋มที่พิพิธภัณฑ์แล้ว ยังสามารถรับชมออนไลน์ทางเว็บไซต์ได้ด้วย แต่ส่วนที่ต้องไปรับฟังรับชมที่พิพิธภัณฑ์ได้อย่างเดียวนั้นก็คือตัวงานอีเวนต์อื่นๆ ทั้งการแสดง คอมเมดี้โชว์ ทอล์กโชว์ หรือชมรมอ่านหนังสือ ที่แต่ละครั้งก็มีการหยิบเอางานเขียนในเชิงเฟมินิสต์มาร่วมพูดคุยกัน 

ในพิพิธภัณฑ์ยังมีแผ่นพับข้อมูลแจก ว่าด้วยเรื่องสุขภาพช่องคลอด โครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์ที่มีสุขภาพที่ดีและมีการมีส่วนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อให้บริการที่ดีขึ้นสำหรับชุมชนชาวทรานส์และผู้ที่มีภาวะเพศกำกวม  (intersex)

นอกจากนี้ในพิพิธภัณธ์ยังมีของที่ระลึกเกี่ยวกับจิ๋มมากมายจัดจำหน่ายอีกด้วย ทั้งสร้อยคอหรือต่างหูจี้รูปจิ๋ม โปสการ์ดภาพวาดรูปจิ๋ม แก้วกาแฟรูปจิ๋ม ปากกา เข็มกลัด ฯลฯ เรียกว่าของใช้ เครื่องประดับในชีวิตประจำวันหลากหลายอย่างที่เป็นรูปจิ๋มนั่นแหละ ใครไปลอนดอนก็แวะไปดูจิ๋มกันได้ เผื่อจะค้นพบว่าจิ๋มของเรา (หรือจิ๋มที่เราเคยเห็น) ไม่เหมือนกับจิ๋มของใครในโลกนี้

อ้างอิง:

 

ภาพ : Vagina Museum

Tags: , , ,