วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,025 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม นอกจากนี้ ที่สำคัญอีก 2 ประเด็น ได้แก่ การตัดสินใจลดเวลาเคอร์ฟิว และเปิดกิจกรรม/กิจการทางเศรษฐกิจในกลุ่มที่สอง โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ศบค. ได้มีมติลดระยะเวลาเคอร์ฟิวจากแต่เดิมที่ 22.00 – 4.00 น. เป็น 23.00 – 4.00 น. ส่วนมาตรการล็อกดาวน์ด้านอื่นๆ ยังคงไว้เช่นเดิม ทั้งมาตรการการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ รวมถึงการงดและชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด
ปลดล็อกกิจกรรม/กิจการทางเศรษฐกิจในกลุ่มที่สอง หรือกลุ่มสีเขียว ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดปานกลาง และมีความจำเป็นในการดำรงชีวิตสูง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มกิจการและ 10 กลุ่มธุรกิจ
กลุ่มเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต
- กลุ่มจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในอาคารสำนักงาน หรือโรงอาหารภายในหน่วยงาน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของราชการ แต่ห้ามบริโภคเครื่องที่มีแอลกอฮอล์ภายในร้าน
- กลุ่มห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า โดยให้เปิดระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น. อย่างไรก็ตาม พื้นที่โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง สถาบันกวดวิชา สปา ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เปิด
- กลุ่มร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งขนาดใหญ่ อาทิ ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ร้านเฟอร์นิเจอร์ และตลาดขนาดใหญ่ เช่น ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง
กลุ่มดูแลสุขภาพและออกกำลังกาย
- คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม โดยให้เปิดให้บริการเฉพาะเสริมความงามบนเรือนร่าง แต่ยกเว้นสถานเสริมความงามที่เกี่ยวกับบริเวณใบหน้า
- สถานเสริมความงาม อาทิ ร้านตัดผม ร้านทำเล็บ ห้ามให้ใช้บริการเกิน 2 ชั่วโมง
- กลุ่มสนามกีฬาในร่ม โดยต้องเป็นกีฬาที่ไม่มีการปะทะกัน ผู้เล่นที่แข่งกันต้องไม่เกินฝั่งละ 3 คน และห้ามมีผู้ชมนั่งดู เช่น แบดมินตัน ตะกร้อ ฟันดาบ หรือโยคะ นอกจากนี้ ฟิตเนสสามารถเปิดให้บริการได้ แต่ห้ามให้มีการออกกำลังกายแบบรวมกลุ่ม และห้ามไม่ให้ใช้เครื่องออกกำลัง อาทิ ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน รวมถึงเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ
- สระว่ายน้ำ สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามจำนวนเลนที่สระนั้นมี และเลนควรมีความกว้างมากกว่า 7 ฟุต รวมทั้งจำกัดระยะเวลาการใช้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง
กลุ่มอื่นๆ
- สถานที่ประชุมทั้งภายในโรงแรมและศูนย์ประชุมต่างๆ โดยเปิดให้ประชุมเฉพาะภายในหน่วยงาน และให้มีการจำกัดผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงเว้นระยะห่าง
- ห้องสมุดสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ สามารถกลับมาเปิดได้
- กิจการภาพถ่ายและวีดิทัศน์ โดยให้มีทีมงานทั้งหมดห้ามเกิน 50 คน โดยมีข้อแม้ว่าส่วนหน้าฉากห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 10 คน ขณะที่ทีมอื่นห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน