อูไลย์ หรือ แฟรงค์ อูเวย์ เลย์ซีเพน เป็นหนึ่งในศิลปินที่ขับเคลื่อนวงการศิลปะร่วมสมัยมาตั้งแต่ยุค 1970s เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา เขาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ในวัย 76 ปี ที่บ้านของเขาในประเทศสโลวาเนีย หลังจากที่เผชิญโรคร้ายนี้มาตั้งแต่ปี 2011
เขาเริ่มต้นเส้นทางศิลปินจากการเป็นช่างภาพที่คลั่งไคล้ฟิล์มโพลารอยด์ เช่นผลงานเมื่อปี 1973 ของเขาชื่อว่า S’he ที่เป็นภาพของเขาแต่งเป็นชายครึ่งหนึ่งหญิงครึ่งหนึ่ง เพื่อถ่ายทอดตัวตนซึ่งไม่จำกัดอยู่กับการแต่งกายตามเพศสภาพ เช่นเดียวกันในงานอีกหลายชิ้นของเขาสะท้อนภาพร่างกายผอมบางกับใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางที่คัดง้างกับภาพความเป็นชายที่ถูกเสนอในสื่อกระแสหลัก ณ ขณะนั้น
อูไลย์พบกับมารินา อบราโมวิช ในปี 1976 และทำงานแสดงสดร่วมกันเป็นเวลา 13 ปี สร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่จดจำหลายต่อหลายชิ้น เช่น Rest Energy (1980) ที่ทั้งคู่อาศัยความเชื่อใจระหว่างกัน ยืนทิ้งน้ำหนักไปด้านหลังแล้วง้างคันธนูโดยหันปลายลูกศรไปทางอบราโมวิช แน่นอนว่าการสูญเสียสมดุลอาจนำไปสู่เลือดเนื้อของเธอ หรือ Relation In Time (1977) ที่ทั้งคู่หันหลังชนกันและมัดผมไว้รวมกัน ก่อนจะอยู่ติดกันอย่างนั้นเป็นเวลา 16 ชั่วโมง เหล่านี้ล้วนเป็นการแสดงที่ได้รับการยอมรับและถูกนำมาผลิตซ้ำทั้งในงานแสดงสดหรือในงานวิชวลของศิลปินยุคใหม่ๆ อย่างแพร่หลาย
ทั้งคู่เลิกรากันในปี 1988 และทำงานคู่กันเป็นครั้งสุดท้าย นั่นคือ The Lovers: the Great Wall Walk ที่เขาและเธอเดินจากปลายกำแพงเมืองจีนคนละฝั่ง เมื่อมาพบกันตรงกลางเพื่อกล่าวคำอำลา โดยทั้งคู่ใช้เวลาเดินกว่าสามเดือนในการเดินคนละ 2,500 กิโลเมตร
หลังจากเลิกรา อูไลย์หันกลับมาทำงานภาพถ่ายเต็มตัว เช่น Berlin Afterimages (1994-1995) ที่เขาถ่ายทอดชีวิตจริงๆ ในเบอร์ลินหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เขายังทดลองถ่ายภาพโดยใช้กล้องขนาดยักษ์ถ่ายภาพโพลารอยด์ขนาดใหญ่กว่าตัวจริง (Polagram)
ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้งในการแสดงสดที่ MoMA และกลายเป็นคลิปไวรัล ‘ซึ้งๆ’ ที่ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ที่ระบุว่า “เมื่อคู่รักที่เลิกรากลับมาพบกันอีกครั้งในรอบ 30 ปี” แต่อันที่จริงนั่นเป็นส่วนหนึ่งในงานศิลปะของอบราโมวิช ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้ามานั่งจ้องตากับเธอ และหลังงานนั้นอูไลย์ก็ฟ้องอบราโมวิชซึ่งเธอก็ฟ้องกลับในข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสัญญาในชิ้นงานที่ทั้งคู่ทำร่วมกัน ก่อนจะกลับมาเป็น ‘เพื่อนที่ดีต่อกัน’ ในปี 2017
“นี่เป็นความเสียใจครั้งใหญ่ที่ฉันได้รู้ว่าเพื่อนและอดีตคู่รักของฉันได้เสียชีวิตลง เขาเป็นทั้งศิลปินและมนุษย์ที่พิเศษอย่างยิ่ง ฉันจะคิดถึงเขาอย่างสุดซึ้ง และอย่างน้อยก็สบายใจที่ได้รู้ว่าศิลปะของเขาจะยังคงมีชีวิตอยู่ตลอดไป” อบราโมวิชกล่าวผ่านอินสตาแกรมของสถาบันมารินา อบราโมวิช ของเธอ
ที่มา:
https://www.nytimes.com/2020/03/02/arts/ulay-dead.html
ภาพ: Andrew H. Walker / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP