ฮอกไกโด เป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้โตเกียว โดดเด่นด้วยอาหารญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์ การเลือกใช้วัตถุดิบทางทะเลมาเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะเมนูสารพัดปูต่างๆ ปูทาราบะ ปูซูไว และปูขน ที่มีให้เลือกกินกันตลอดทั้งปี
‘สึโบฮาจิ’ ถือเป็นร้านอาหารเก่าแก่จากเมืองฮอกไกโด เปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1973 เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในบ้านเกิดและขยายสาขาไปยังเมืองอื่นๆ ในญี่ปุ่น รวมทั้งในต่างประเทศ ปัจจุบัน สึโบฮาจิมีสาขามากกว่า 300 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้แก่สิงคโปร์และไทย ตามลำดับ
สำหรับใครที่เคยไปฮอกไกโดแล้วติดใจในรสชาติอาหารญี่ปุ่นที่มีกลิ่นทะเลหน่อยๆ คราวนี้ไม่ต้องบินไปไกลถึงฮอกไกโดอีกแล้ว เพราะสึโบฮาจิที่เมืองไทยมีมาหลายปี เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนญี่ปุ่นที่มาทำงานในเมืองไทย โดยขึ้นชื่อเรื่องอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในเวลานี้
ชื่อ สึโบฮาจิ มีความหมายว่าเป็นร้านที่เกิดจากจุดเริ่มต้นแบบพื้นที่เล็กๆ แต่ค่อยๆ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาขาในเมืองไทย เรามีโอกาสไปที่โครงการนิฮอนมาจิ (สุขุมวิท 26) ที่มีบรรยากาศเหมือนบ้านญี่ปุ่น ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นแบบตะวันออก มีบาร์สำหรับคนที่มาคนเดียว หรือโต๊ะนั่งธรรมดาที่รองรับได้หลายสิบคน และห้องส่วนตัวถึง 8 ห้อง
แน่นอนว่าจุดเด่นของสึโบฮาจิคืออาหารอันหลากหลายที่มีมากกว่า 200 รายการ ทั้ง ซูชิ ซาซิมิ อาหารทะเล อาหารย่าง เมนูข้าว เมนูเส้น และของทอดกินเล่น ที่เลือกกินแกล้มเบียร์ สาเก ม็อคเทล ได้ ซึ่งถ้ากลัวว่าเมนูเยอะขนาดนี้ รสชาติและความสดของวัตถุดิบจะยังมีไหม ขอบอกว่าทางร้านนำเข้าวัตถุดิบโดยตรงจากฮอกไกโดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะปู 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ปูทาราบะ ปูซูไว และปูขน ที่เป็นพระเอกของงานนี้
เมนูที่เราได้ลองชิมล้วนเป็นซิกเนเจอร์ของร้านที่พลาดไม่ได้ เริ่มจาก ชุดซูชิหน้าล้น (Tokumori Kobore Sushi ราคา 599 บาท) จานอลังการที่เชฟนำข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้แตงกวามากิมาวางเรียงต่อกันให้สูงๆ เหมือนภูเขา และโรยหน้าด้วยปลาแซลมอน ไข่ปลาแซลมอน และปลาทูน่าสับอย่างอลังการ สมกับชื่อซูชิหน้าล้น เพราะเมื่อเราค่อยๆ ตักซูชิกับปลาแซลมอน ไข่ปลา หรือทูน่าสับ ต้องคอยระวังไม่ให้มันล้นออกจากจาน ถือเป็นเมนูกินง่ายและถูกปากแน่นอน
จานต่อมาเป็นอีกเมนูที่เด่นมาก คือ ปูยักษ์ทาราบะนึ่ง (Gokai!! Mushi Tarabagani ราคา 1,299 บาท ) ปูทาราบะเป็นปูสายพันธ์ยักษ์ที่ส่งตรงมาจากฮอกไกโด มีให้กินตลอดทั้งปี โดยเชฟจะใช้เวลานึ่งปูทาราบะ 5-7 นาที ให้เนื้อปูอิ่ม สดหวาน เสิร์ฟพร้อมกับเลมอน ไว้ให้เราบีบเพิ่มรสชาติ
เมนูไฮไลต์ห้ามพลาดคือ ข้าวอบฮอกไก (Hokkai Kamameshi ราคา 349 บาท) ต้นตำรับข้าวอบสไตล์ฮอกไกโดที่ผ่านขั้นตอนอันซับซ้อน กว่าจะมาเป็นข้าวอบหอมๆ เชฟนำข้าวญี่ปุ่นเม็ดกลมหุงกับน้ำซุปสูตรเฉพาะ พร้อมกับของทะเลครบครันอย่าง หอยเชลล์โฮตาเตะ ปูทาราบะและปลาแซลมอน เมื่อทุกอย่างรวมตัวกันแล้วก็ใส่เห็ดชิเมจิลงไป ใช้เวลาหุง 25 นาที พอสุกก็โรยด้วยใบโอบะและสาหร่ายหั่นฝอย
ปิดท้ายที่ขนมหวาน เกียวโตอุจิมัชฉะพุดดิ้ง (Kyoto Uji Maccha Pudding ราคา 99 บาท) เมนูของหวานสไตล์ฮอกไกโดแท้ๆ ที่ต้องถูกใจคนชอบชาเขียวแน่นอน หน้าตาเรียบง่ายเป็นพุดดิงนมด้านในมีโมจิและถั่วแดง กินคู่กับซอสคุโรมิสึและผงถั่วเหลือง เป็นการเพิ่มมิติรสชาติให้ดีขึ้นไปอีก ถือเป็นขนมหวานที่ต้องสั่ง แต่ขอแนะนำว่าสั่งมาแล้วควรรีบกินทันที เพราะพุดดิ้งนมจะละลายจนเสียรสชาติก่อน
Fact Box
สึโบฮาจิ สาขานิฮอนมาจิ (สุขุมวิท 26) เปิดให้บริการทุกวันจันทร์- ศุกร์ เวลากลางวัน 11.00 – 14.00 น. และช่วงเย็นเวลา 17.00 - 23.00 น. โทรศัพท์ 0-2262-0331 และสามารถดูสาขาอื่นๆ อีก 6 สาขา ได้ที่เว็บไซต์ www.tsubohachi-tha.com และ FB: Tsubohachi Thailand