สารภาพว่าแวบแรกที่เห็นคำว่า Japan บนปกหนังสือแนวบันทึกการเดินทางสมัยนี้ เราต้องแอบเบือนหน้าหนีเบาๆ ประเทศเล็กๆ บนเกาะสุดฮิตนั้นยังมีอะไรน่าตื่นเต้นให้เขียนถึงอีกหรือ

แต่พอเลื่อนสายตามาเห็นชื่อนักเขียน ทรงกลด บางยี่ขัน ความตื่นเต้นก็พุ่งขึ้นทันที เรายังจำความรู้สึกหัวใจพองโตตอนได้อ่านผลงานเล่มก่อนหน้าของเขาอย่าง ทางรถไฟสายดาวตก ได้ดี และหวังไปล่วงหน้าว่าเล่มนี้คงให้ความรู้สึกดีไม่ต่างกัน

Japan Vintage Village เล่าถึงการเดินทางของทรงกลดเมื่อ 6 ปีก่อน เขาต้องนั่งรถไฟไปค่อนประเทศญี่ปุ่นเพื่อหาข้อมูลสำหรับทำนิตยสาร โดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นหนึ่งล่าม หนึ่งช่างภาพ และสองล้อจักรยาน เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังญี่ปุ่นสุดอบอุ่นชื่อ Always: Sunset on Third Street ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์และความฝันของผู้คนบนนถนนเส้นหนึ่ง ในยุคฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือยุคของการสร้างโตเกียวทาวเวอร์

เรารู้ว่าปกติทรงกลดชอบเดินทางแบบไม่ปกติ เรื่องเล่าระหว่างทริปของเขาจึงมีรายละเอียดไม่เหมือนใคร หลายสถานที่ที่ไปก็มีน้อยคนนักจะเข้าถึง หรือหากเข้าถึง ก็อาจไม่ทันสังเกตสิ่งที่สายตาซุกซนของเขาได้เห็น

แต่ทริปนี้ยิ่งพิเศษกว่านั้น ทรงกลดตั้งใจพาตัวเองไปสัมผัสบรรยากาศวินเทจๆ ของญี่ปุ่นยุคหลังสงคราม เขาจึงตระเวนไปตามหมู่บ้านเล็กๆ เก่าแก่ในชนบท เพื่อพูดคุยกับผู้คนที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสถานที่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอดีต โดยมีเจ้าบ้านชาวญี่ปุ่นคอยนำทาง ถามไถ่ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมในสิ่งที่คนต่างชาติอย่างเขาอาจไม่เข้าใจ

Japan Vintage Village จึงไม่ใช่แค่บทบันทึกการเดินทางที่พาเราไปสัมผัสความวินเทจของหมู่บ้านญี่ปุ่นในประสบการณ์ของทรงกลด แต่มันพาเราย้อนไปญี่ปุ่นในยุคที่ความหวังเบ่งบาน ยุคแห่งการสร้างชาติ ยุคสำคัญในความทรงจำร่วมของชาวญี่ปุ่นทุกคน

บางประโยคในหนังสือเล่มนี้ทำเราหดหู่ใจกับความโหดร้ายของสงคราม บางประโยคทำเราขนลุกกับความมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตของผู้คน และหลายประโยคก็ทำเราอดอมยิ้มกับสำนวนการเขียนที่แพรวพราวของทรงกลดไม่ได้จริงๆ

พออ่านจบก็ลืมไปเลยว่าเคยเบือนหน้าหนีคำว่า Japan บนปก

 

FACT BOX:

  • Japan Vintage Village เขียนโดย ทรงกลด บางยี่ขัน, สำนักพิมพ์ a book