หลังจบมหาวิทยาลัย ตูน-กรินทร์ อ่องชุ่ม ขอแม่พัก 3 เดือนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน ทำให้มีเวลาเพียงพอที่เธอจะทำสิ่งที่ถนัดคือ การสวมบทบาทเป็นช่างแต่งหน้า ให้กับเหล่านายแบบนางแบบในวงการแฟชั่น ควบคู่กับการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ในช่อง YouTube: Alie Blackcobra ภายใต้ชื่อ ‘เอลี่’ เพื่อหารายได้ให้ตัวเอง
กระทั่ง มิกซ์ เฉลิมศรี ผ่านมาเห็นช่อง YouTube ของเธอและสะดุดตากับความสามารถ จึงชวนเข้า ‘แก๊งหิ้วหวี’ เธอจึงได้รับอีกบทบาทหนึ่งคือ ตูน หิ้วหวี ในช่องหิ้วหวีไปหิ้วหวีมา ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งบทบาทในช่องเก่า
การทำงานใน YouTube 2 ช่อง ทำให้ตูนต้องแยกตัวตนออกเป็น 2 คาแรกเตอร์ เพื่อตอบโจทย์กับผู้ชม 2 กลุ่ม เธอให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเป็นเอลี่ต้องมีความ ‘กระแดะ’ ส่วนตูน หิ้วหวีนั้น ‘กักขฬะ’ เพื่อเข้าถึงผู้ชมมากขึ้น
แต่ในวันนี้ตูนได้พบกับเส้นทางใหม่ที่คาดหวังจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก นั่นคือการเป็นศิลปินผู้รังสรรค์บทเพลงแนว R&B เส้นทางนี้ได้เปิดออกเมื่อเธอก้าวเข้าสู่วัย 30 ปีและกลายเป็นจุดนัดพบของตัวตนทั้ง 2 ด้าน
อินฟลูเอนเซอร์สายฝอ สายแฟชั่น และศิลปินที่เปล่งเสียงจากหัวใจ หลอมรวมกันเป็น Alie Blackcobra ที่สำคัญที่สุด มันคือพื้นที่ที่เธอได้ ‘คัมเอาต์’ ความเป็นตัวเองได้มากที่สุดแล้วในวันนี้
ตูน หิ้วหวีกับเอลี่ หรือพี่ลี่ ต่างกันแค่ไหน
จริงๆ คิดว่าต่างกัน เรารู้สึกว่าตูน หิ้วหวีเป็นคนแซ่บๆ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก ทำทุกอย่างให้เพื่อนและคนรอบข้างมีเสียงหัวเราะ ชอบทำให้คนรอบข้างมีความสุข ส่วนเอลี่จะนำเสนอตัวตนเรื่องไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ความเป็นตัวเองแบบเฟียซ เก๋ ทันสมัย ทันกระแส และสวย เวลาไปให้สัมภาษณ์แล้วเขาถามว่า 2 คาแรกเตอร์ใช้ต่างกันไหม ก็จะบอกว่าใช้คาแรกเตอร์ทั้ง 2 แบบสลับกัน เพราะตูนมีช่อง YouTube 2 ช่องคือ ช่องหิ้วหวีไปหิ้วหวีมา จะใช้คาแรกเตอร์ตูน หิ้วหวีกับช่อง Alie Blackcobra จะใช้คาแรกเตอร์ของเอลี่ ซึ่งถ้าทั้ง 2 คาแรกเตอร์มาอยู่รวมกันก็จะกลายเป็นคนสวย มีความสุข ดูทันกระแส และทันสมัย
ทุกวันนี้ตูนอายุ 32 ปี จะเห็นว่าเรามีคาแรกเตอร์เดียว เป็นคนคนเดียวกันแล้ว เพราะเรารวมทั้ง 2 คาแรกเตอร์เอาไว้ด้วยกัน มันก็จะมีความกระแดะ น่ารัก ตลก แต่ก็สวยไปด้วย
คุณใช้คาแรกเตอร์ใดในการเป็นศิลปิน
ทั้งตูน หิ้วหวีกับเอลี่ ก็คือคนเดียวกัน แต่ถ้าถามว่าใช้ตัวตนไหน บอกตรงๆ ว่าใช้ทุกตัวตน รวมไปถึงจิตวิญญาณของเราเอง เพราะตั้งแต่เด็กก็ชอบฟังเพลง ฟังเพลงไหนก็สั่งสมเทคนิคมา เก็บเมโลดีต่างๆ ศึกษาวิธีการเขียนเพลง รวมไปถึงเก็บประสบการณ์ชีวิต อย่างประสบการณ์ความรัก ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับตูน และมองว่าเราเป็นคนสนุกสนาน และโดดเด่นในแฟชั่นมากกว่าพาร์ตความรักหรือความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ตูนเลยเอาพาร์ตที่คนยังมองไม่เห็นเกี่ยวกับเรามาเขียนให้ชัดเจนมากขึ้นก่อนเอาไปแต่งในเพลง
ที่มาของชื่อ Alie Blackcobra
เรารู้สึกว่า Alie Blackcobra เป็นชื่อที่แสดงถึงตัวตนของตูนชัดเจน มีความสายฝอ ดัดจริต เซ็กซี่ และเฟียซในชื่อ ที่สำคัญมันเรียงตัวอักษรเป็น A B C ซึ่งดูแล้วมันสวย เราชอบมาก
ตูนเชื่อจริงๆ ว่าศิลปินแต่ละคนชอบมี AKA ของตัวเองอยู่แล้ว ตูนก็ชอบมีนามแฝงกับเพื่อนตั้งแต่เด็ก ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด ชอบดูหนังฝรั่งแล้ว อยากจะเป็นคนนู้นคนนี้ ซึ่งพอโตขึ้นมาก็รู้ว่า มันไม่ได้แปลก คนที่เป็นศิลปินก็มีสเตจเนม AKA กันหมด ที่เราชอบก็เพราะศิลปินก็เป็นแบบนั้นกัน
แปลว่าคุณอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่เด็กเลยเหรอ
บอกตรงๆ ว่าการเป็นนักร้องไม่ได้มีในหัวเลย และไม่คิดว่าจะได้เป็นศิลปิน ตั้งแต่เด็กคิดแค่ว่าอยากมีชื่อเสียง อยากเป็นคนดัง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร รู้แค่ว่าตัวเองร้องเพลงได้ ตอนเรียนอยู่ ม.3 ในต่างจังหวัด ยังเคยบอกเพื่อนว่าอยากเป็นดารา เพื่อนบอกกลับมาว่า เป็นไม่ได้หรอก เพราะถ้าจะเป็น คนอายุเท่าเราก็เข้าวงการไปหมดแล้ว คิดไปคิดมาก็จริง แล้วเราก็ยังไม่สวย กลายเป็นด้อยค่าตัวเองไปอีก
พอจับพลัดจับผลูเข้าแก๊งหิ้วหวี ก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เลยมีความคิดหนึ่งลอยเข้ามาในหัวว่า เราสั่งสมชื่อเสียงแล้ว สักวันหนึ่งเราลองทำเพลงของตัวเองดูไหม จำได้ว่าเพลงแรกมิกซ์ เฉลิมศรี เขียนเพลงให้ชื่อว่า ช็อตฟีล (Buzzkill) เป็นเพลงสไตล์ Pop-punk ซึ่งเราชอบการแต่งตัว Rock Pop-punk มากๆ แต่วิธีการร้องยากเกินไปเลยมองว่า อาจไม่เหมาะกับตัวเอง จึงหาสไตล์ใหม่ตั้งต้น โดยเริ่มจากความเป็นสายฝอ ย้วยๆ เซ็กซี่ๆ ก็ไปเจอ R&B Pop ที่คิดว่าเป็นตัวเองที่สุด
แต่การจะเป็นสาว R&B ก็ต้องเซ็กซี่และสวย ทีนี้เราเริ่มกังวลเพราะอายุ 30 ปีแล้ว จะแก่ไปไหม อวบไปไหม ไปทางเซ็กซี่จะดีเหรอ ซึ่งเราคิดอยู่นานมาก รู้ไหมว่าอะไรที่เข้ามาล้มล้างความกังวลเหล่านี้ ‘ความมั่นใจ’ ไงล่ะ ทำให้เราตัดสินใจปล่อยซิงเกิลเพลงแอ่นระแนง (ARCH) ถือเป็นการเข้าสู่วงการนักร้องสาว R&B Pop อย่างเป็นทางการ
จากบทบาทแฟชั่นนิสตา-ยูทูบเบอร์ สู่การเป็น ‘ศิลปินเพลง’ ท้าทายแค่ไหน
ทุกอย่างที่เราเคยทำท้าทายทั้งหมด แต่ท้าทายคนละแบบ เป็นยูทูบเบอร์ท้าทายว่า จะทำอย่างไรให้คนเข้ามาดูคลิป และดูตั้งแต่ต้นจนจบ บางครั้งเราไม่มีอารมณ์จะถ่ายคลิป ซึ่งสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเรามาตลอด บางทีวันไหนทะเลาะกับแฟนก็จะไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย มันยากมากที่จะดึงพลังของตัวเองขึ้นมาทำคลิป แต่เราก็ต้องปลุกตัวเองขึ้นมาให้ได้ สำหรับตูนการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์หน้ากล้องมันยากมาก แต่ถ้าเราทำได้ก็ถือว่าเก่งมาก ส่วนแฟชั่นนิสตา อันนี้ต้องมีความมั่นใจ ต้องใส่เสื้อผ้าให้ดูดีทุกครั้ง สำหรับตรงนี้ตูนมองว่าไม่ค่อยยากเท่าไร เพราะชอบแต่งตัวอยู่แล้ว รู้สึกสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ และเคยทำงานด้านนี้มาเยอะด้วย
ส่วนที่ยากและท้าทายจริงๆ คือ การทำเพลง กว่าจะมาเป็นหนึ่งซิงเกิลมันใช้เวลานานมาก กว่าจะเขียนเรื่องราวเป็นเพลง กว่าจะได้อัดเสียง กว่าจะเข้าสตูดิโอมาทำมิวสิกวิดีโอ แต่ละอย่างมันใช้เวลานานมากๆ นานกว่าทำคลิป YouTube อีก มันก็ท้าทายเหมือนกันนะ บางครั้งยังเคยคิดว่า ถ้าฉันตายไปแล้วเพลงที่อัดไว้ก็อาจจะยังไม่มาเลยมั้ง
ตอนนี้บทบาทไหนที่เป็นตัวคุณที่สุด
ปัจจุบันก็ให้เป็นนักร้องแล้วกัน ชอบมาก ชอบเป็นศิลปินเพราะว่า ได้นำเสนองานศิลปะ ความเป็นตัวเอง มุมมอง และแรงบันดาลใจของเรา มันนำเสนอทุกอย่างออกไปในผลงานหนึ่งชิ้นภายในเวลา 3 นาทีแบบครบจบในทีเดียวเลย
หลังจากเข้ามาเป็นศิลปินแล้ว ตัวตนของคุณเปลี่ยนไปแค่ไหน
ตูนไม่เปลี่ยนเลย ทุกอย่างของตูนปกติเหมือนเดิม ตอแหลเหมือนเดิม ดัดจริตเหมือนเดิม แล้วก็ติดสายฝอเหมือนเดิม สนุก ตลกเหมือนเดิม ที่เพิ่มมาคือการเรียนร้องเพลงกับเพิ่มความสนใจด้านดนตรี นอกจากนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ทุกอย่างเหมือนเดิม
แปลว่าเพลงของคุณก็ใส่ความเป็นตัวเองสุดเหวี่ยงเลยใช่ไหม
ใช่ ใส่เยอะจนไม่รู้ว่าหลังๆ จะใส่อะไรอีกแล้ว แล้วต่อไปจะเล่นมุกอะไรอีก
เพลง G.A.Y เกี่ยวข้องกับตัวตนของคุณอย่างไร
มันคือรสนิยมของเรา ตั้งแต่ที่เราอยู่บนหน้าโซเชียลฯ ตูนบอกกับทุกคนตลอดว่า ตูนชอบเกย์เพราะเขาน่ารัก ดูแลตัวเอง สะอาด มุ้งมิ้ง ดุกดิก หลายคนก็ตั้งคำถามว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆ เหรอ แต่จริงๆ พอเราเปิดตัวก็มีเกย์เข้ามาคุยกับเราตลอด แต่อาจพูดคุยระยะสั้นๆ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เชื่อตูน ไม่ว่ากัน
G.A.Y เป็นเพลงที่กำลังบอกทุกคนว่า ให้มั่นใจในตัวเอง ชอบอะไรก็พูดออกมาเลย ไม่ต้องอาย ถ้าวันนี้คุณเป็นกะเทยแล้วคุณชอบทอมก็พูดออกมาเลยว่าชอบทอม ถ้าวันนี้คุณเป็นทอมแล้วชอบผู้ชายก็พูดออกมาเลยว่า คุณชอบผู้ชาย โลกมันหลากหลายมากแล้ว ความเท่าเทียมสำหรับตูนมันอาจจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ความหลากหลายมันมีอยู่จริงๆ
คุณใช้บทเพลงเป็นการ ‘คัมเอาต์’ เหรอ
ใช่ค่ะ
G.A.Y มีซีนอุบัติเหตุด้วย คุณต้องการสื่อถึงอะไร
ฉากนั้นคือเรากำลังขับรถแล้วโดนบอกเลิก เลยขับรถชนปึ้ง ฉันเจ็บกับเธอ (เกย์) มามากพอแล้วนะ แต่ทั้งๆ ที่เจ็บก็ทำอะไรไม่ได้เลย นอนแอ้งแม้งบนหลังคารถอยู่อย่างนั้น สุดท้ายจะเจ็บขนาดไหนก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปให้ได้
เพลงนี้เขียนมาจากประสบการณ์กับความไม่เคยเข็ดของเรานั่นแหละ เรายังคงยืนหยัดกับรสนิยมของตัวเองอยู่ แต่ก็พูดกับตัวเองและเพื่อนเสมอว่า รสนิยมของคนสามารถเปลี่ยนได้ตลอด และสามารถเปลี่ยนได้เป็นรายปีเลย ช่วงหนึ่งตูนก็อาจจะเปลี่ยนไปชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชายก็ได้ เราไม่ได้ปิดกั้นตั้งข้อจำกัดให้ตัวเอง และเปิดโอกาสให้กับตัวเองตลอดอยู่แล้ว
จริงหรือที่ความสัมพันธ์แบบชายรักชายไม่มีรักแท้
รักแท้ไม่มีจริงบนโลกนี้ จะชายหญิงก็ไม่มี อะไรคือนิยามของรักแท้ หรือเป็นภาพจำในนิยายสมัยก่อน ที่คุณตาคุณยายนอนจับมือตายข้างกันในหลุมศพเหรอ ไม่เชื่อในรักแท้ เชื่อในช่วงเวลาที่ได้รัก และสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่เรารักกัน เราไม่เคยรู้ว่ารักแท้คืออะไร รู้แค่ว่าตอนนั้นรักอยู่แล้วมีความสุขแค่นั้น
รับบทบาทศิลปินมาสักพักแล้ว คาดหวังอะไรกับสิ่งนี้บ้าง
ปีนี้ตั้งความหวังไว้ว่า ปลายปีจะต้องมีอัลบัม และคิดว่าถ้าทำเสร็จจะพักผลงานเพลงไปสักพักหนึ่งเพราะเราเหนื่อยมาก เพราะทำมา 2 ปี การทำเพลงมันไม่ใช่แค่พูดว่า “แกทำเพลงเป็นเปล่า” ถ้าเป็นงั้นมาทำเพลงกัน แต่เราต้องเฟ้นหาผู้คน เสียเงินกับคนนี้ไปแล้วไม่ใช่ ก็ต้องหาคนที่ใช่ต่อไปเรื่อยๆ เจอแล้วก็เก็บสะสมคนเอาไว้กว่าจะได้ทีมของตูนจริงๆ กว่าจะเจอคนที่เขามีจริตในแบบที่เราอยากได้จนเกิดมาเป็นอัลบัมของตูนมันเหนื่อยมากๆ
เส้นทางศิลปินของตูนก็เริ่มจาก 0 ตูนไม่มีค่ายเพลง ไม่มีคนสนับสนุน ไม่มีความรู้ในด้านการทำเพลง สิ่งที่มีคือความต้องการมีเพลงเป็นของตัวเอง และประสบการณ์ที่อยากจะเล่า เราอยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า ทุกคนสามารถเป็นศิลปินได้ แต่อาจจะเหนื่อยเพราะมันต้องใช้เม็ดเงิน ความฝันของเราอยู่ไม่ไกลหรอก แค่คุณต้องไปให้ถึงมันแค่นั้น
อนาคตของตูนจากนี้อีกสัก 5 ปีเป็นแบบไหน
ตูนมักจะพูดกับตัวเองเสมอว่า ไม่ชอบมองตัวเองให้ไกล ไม่ยึดติดอดีต ไม่คาดหวังอนาคต อยู่กับปัจจุบัน ถ้าปัจจุบันมีความสุข จะอดีตหรืออนาคตมันจะงดงามเสมอ ตูนมักจะมองอนาคตแค่ใกล้ๆ แค่ปีนี้หรือ 2 ปีนี้ แต่ถ้าให้มองไปอีก 5 ปี ตูนคงอยากเป็นศิลปินที่ทัวร์ทั้งประเทศไทย แล้วก็มีความสุขกับอะไรง่ายๆ ไม่มีโรคภัย มีอาหารอร่อยๆ กินในทุกวันก็พอแล้ว
มีอะไรที่ตัวเองอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำหรือเปล่า
มีอยู่แล้ว ตูนยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรเลย ถ้าให้พูดเพ้อเจ้ออยากร่วมงานกับริฮานนา (Rihanna) อยากอยู่ในหนังฮอลลีวูด อยากมีอายุหนึ่งพันปี อยากเป็นแวมไพร์ เราสามารถมีความฝันเพ้อเจ้อก็ได้ ก็ตูนเบียว อยากอยู่ไปนานๆ
อีกสิ่งที่อยากทำคือ การปฏิวัติวงการเพลงไทย อยากให้คนที่เข้ามาฟังเพลงของเราอึ้งและรู้สึกอัศจรรย์ใจไปกับมัน สุดท้ายนี้ก็หวังว่าทุกคนจะว้าวกับอัลบัมของตูน
Tags: ศิลปิน, Pop, R&B, หิ้วหวี, LGBTQIA+, เอลี่, QUEER IS HERE, กรินทร์ อ่องชุม, ตูน หิ้วหวี, หิ้วหวีไปหิ้วหวีมา, Alie Blackcobra