หนังเกี่ยวกับอะไร
หนังดัดแปลงจากนิยายขายดีของ เอ็ม. แอล. สเตดแมน บอกเล่าเรื่องราวของ ทอม เชอร์บอร์น (รับบทโดย ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) อดีตทหารผ่านศึกผู้มีบาดแผลที่มองไม่เห็นจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เลือกปลีกวิเวกมาทำอาชีพดูแลประภาคาร สถานที่เวิ้งว้าง ห่างไกลผู้คน จนหัวใจของเขาได้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้งเมื่อพบรักและแต่งงานกับ อิซาเบล เกรย์สมาร์ค (รับบทโดย อลิเซีย วิกันเดอร์) ภรรยาแสนสวยแต่ไม่อาจมีลูกด้วยกันได้ แล้ววันหนึ่งทั้งคู่ก็พบทารกน้อยลอยมากับเรือลำหนึ่ง พวกเขาไม่รีรอจะรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูก โดยไม่รู้ว่าแม่ของทารก (รับบทโดย เรเชล ไวซ์) ยังมีชีวิตอยู่อย่างโศกเศร้า เมื่อความจริงกระจ่าง ทั้งสองจะตัดสินใจเลือกส่งทารกคืนแม่บังเกิดเกล้า หรือจะอยู่กับความรู้สึกผิดในนามของความรักไปตลอดชีวิต
สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูหนัง
หากคุณเคยประทับใจกับหนังเรื่อง Blue Valentine แล้วยังคงตรึงตรากับความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาที่จริง จุก และเจ็บ สไตล์เดเรค เซียนฟรานซ์ ขอบอกว่ากดจองตั๋วไว้ได้เลย เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงบทและกำกับโดยผู้กำกับคนเดียวกัน
สิ่งที่ชอบที่สุดจากหนัง
แววตาอมทุกข์กร้านชีวิตเหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งใบของ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ มันช่างกลมกลืนกับทิวทัศน์สุดอ้างว้างของทะเลที่มาพร้อมเสียงคลื่นลมกระทบชายฝั่ง ซีนที่ชอบคือการมองทะเลจากประภาคารในสายตาของตัวละคร มันทำให้คุณตระหนักถึงชีวิตที่เป็นส่วนหนึ่งแสนเล็กน้อยของธรรมชาติและกาลเวลา หนังอาจไม่ได้สื่อสารประเด็นนี้ตรงๆ แต่กลับทำให้เชื่ออยู่หมัดว่าการกระทำคล้ายการ ‘ไถ่บาป’ ของตัวละครที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในตอนจบ ก็เป็นการตัดสินใจที่มีเหตุผลรองรับหนักแน่นอยู่ไม่น้อย
สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดจากหนัง
อาจเพราะต้องการเคารพต้นฉบับจากนวนิยายมากไป ภายในเส้นเรื่องที่กินเวลานานเกือบชั่วคน แต่ไม่อาจบรรยายความนึกคิดได้หมด จังหวะจะโคนของหนังจึงเนิบไปนิด การคลายปมในใจตัวละครจึงกะทันหันอยู่บ้าง
เราเรียนรู้อะไรจากหนัง
บางครั้งคนเราก็ยอมผลักชีวิตไปสู่ความทุกข์สุดกู่ เสียสละทุกอย่างแลกกับการทำให้คนรักเป็นสุข หนังเรื่องนี้เตือนว่าความรักก็อาจหลงทางได้ และอย่าลืมทำสิ่งที่ถูกต้อง การให้อภัยและเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ยังเป็นทางออกที่มีความหวังเสมอ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากหนัง
หนังรักเรื่องนี้อินในอินนอก เมื่อนักแสดงฝ่ายชาย ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ สารภาพว่าเขาตกหลุมรักนักแสดงสาว อลิเซีย วิกันเดอร์ ครั้งแรกในกองถ่าย กระทั่งทั้งสองต่างคบหากันหลังจากได้ร่วมงานกันในครั้งนี้ บทคู่รักในเรื่องนี้จึงเป็นธรรมชาติอย่างหมดข้อกังขา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
เหมาะกับทั้งคนที่หมดศรัทธาในความรัก และคนที่เชื่อว่ารักชนะทุกสิ่ง เพราะหนังเรื่องนี้ชวนคุณมาชั่งน้ำหนักความรักในหัวใจตัวเอง
ควรชวนใครไปดู
คนที่คุณอยากอยู่ด้วยกันไปจนแก่
ความคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป
นักวิจารณ์หลายคนฟันธงว่า ถึงแม้ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ จะพลาดรางวัลออสการ์จาก Steve Jobs แต่จากบทที่ส่งและการแสดงที่เข้าขั้นใน The Light Between Oceans ก็น่าจะส่งเขากลับเข้าไปติดโผอีกครั้งได้ไม่ยาก ยิ่งเมื่อเล่นประกบกับนักแสดงคุณภาพอย่าง อลิเซีย วิกันเดอร์ (รางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงจากเรื่อง The Danish Girl) ก็เตรียมผ้าเช็ดหน้าหรือหาบ่าคนข้างๆ เอาไว้ซับน้ำตาได้เลย
ขอ 3 พยางค์จากหนังเรื่องนี้
อย่า หยุด รัก
Tags: The Review, The Light Between Oceans, Blue Valentine, The Danish Girl