วัยรุ่นคือวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของอนาคต หลายคนโชคดีที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรตั้งแต่เนิ่นๆ แต่อีกหลายคนไม่เจอ ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองชอบกันแน่ คำกล่าวว่า “เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย” จึงเกิด

ความคิดต่อจากนั้นอาจจะกลายเป็นว่า ก็อยากจะรีบๆ โตเสียที จะได้ไปให้พ้นจากความเหนื่อยตรงนี้ ซึ่งที่จริงแล้ว การเติบโตมันก็ดี แต่ช่วงเวลาแห่งวัยเด็กก็มีค่าอีกเช่นกัน เก็บเกี่ยวทุกช่วงเวลาของตัวเองเอาไว้เถิด เพราะบางอย่างที่มันหลุดลอยไปแล้วมันอาจจะไม่กลับมาอีกเลย

นี่คือลิสต์ 5 ภาพยนตร์ว่าด้วยความสับสนอลหม่าน ที่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ ‘วัยรุ่น’ มักเจอ

Juno (2007)

Juno ภาพยนตร์คัมมิ่งออฟเอจคอเมดีปนดราม่า จากฝีมือผู้กำกับเจสัน ไรท์แมน แสดงนำโดย เอลเลน เพจ นักแสดงสาวหน้าหวานที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องนี้ และไมเคิล เคร่า นักแสดงหนุ่มที่มักจะมีบทวัยรุ่นๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ อาทิ Nick and Norah’s Infinite Playlist (2008), Scott Pilgrim vs. the World (2010) และ Superbad (2007)

Juno ได้รางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม พ่วงด้วยหลายรางวัลและคำชม ทั้งยังเป็นภาพยนตร์เล็กๆ ที่ทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งในการเข้าฉายสัปดาห์แรกที่อเมริกาและอังกฤษ

เรื่องราวหลักๆ ของวัยรุ่น นอกจากเรื่องเรียนแล้วก็คงเป็นเรื่องรักนี่แหละที่ทำให้ปวดหัวมากพอๆ กัน ถึงขนาดที่ว่าบางครอบครัวอาจจะเอ่ยปากห้ามไม่ให้มีแฟนเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันแล้ว นั่นก็อาจจะรวมไปถึงเรื่องเซ็กซ์ด้วย จูโน่คือเด็กสาววัยมัธยมที่เจอปัญหาท้องไม่พร้อม เมื่อเธอกับพอลลี่ เพื่อนหนุ่มสุดเนิร์ดพลาดท่าให้กับประสบการณ์เซ็กซ์ ตอนแรกที่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ จูโน่คิดอยากจะทำแท้งเพื่อให้ทุกอย่างจบลง แต่เธอก็ไม่ได้ทำตามความคิดนั้น แล้วนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนสนิทอย่างลีอาห์แทน ซึ่งด้วยความบังเอิญ พวกเธอพบประกาศของสองสามีภรรยาที่อยากมีลูกมานาน จูโน่จึงตัดสินใจไปพบและให้พวกเขาเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ ซึ่งท้ายที่สุด มันอาจจะไม่ได้เป็นดั่งใจเธอคิด

แม้จูโน่จะดูท่าทางอวดฉลาดและมั่นอกมั่นใจไปบ้าง แต่เธอก็เป็นเด็กที่พยายามตั้งคำถามกับทุกข้อสงสัย และค้นหาคำตอบนั้นด้วยตัวเอง ซึ่งในที่สุดแล้วจะผิดหรือถูก เธอก็จะยอมรับมันไว้ ช่วงตลอดระยะเวลาที่อุ้มท้อง เรื่องราวต่างๆ ยิ่งหลั่งไหลมาสู่ตัวเธอ จูโน่ค่อยๆ เติบโตขึ้นจากวิกฤตที่เจอ เธอพบว่าการเป็นเด็กก็ไม่ได้แย่ ทุกคนไม่ต้องรีบร้อนจะเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น เพราะเวลาจะขัดเกลาและทำหน้าที่ของมันเอง อย่ารีบเร่งฉกฉวยเวลาในช่วงหนึ่งของตัวเองไป

Superbad (2007)

ภาพยนตร์อารมณ์ดีของก๊วนเด็กหนุ่มที่อยากจะก้าวย่างไปสู่โลกผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวเสียที ผลงานการกำกับของเกร็ก มอตโตลา เขียนบทโดยอีวาน โกลด์เบิร์ก และเซ็ธ โรเก็น นักแสดงสายคอมเมดี้ที่ใครๆ ต่างก็คุ้นเคย อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกของการแสดงภาพยนตร์ของนักแสดงสาวเอ็มม่า สโตนอีกด้วย

Superbad มีงบประมาณการส้ราง 20 ล้านดอลลาร์ แต่กลับทำรายได้ไปถึง 169 ล้านดอลลาร์

นักแสดงในเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่พร้อมจะเรียกรอยยิ้มจากทุกคนทั้งสิ้น ซึ่งได้แก่ ไมเคิล เคร่า, โจนาห์ ฮิลล์, เซ็ธ โรเก็น, คริสโตเฟอร์ มินซ์-พลาส และบิล เฮเดอร์

เมื่อเด็กหนุ่มกำลังจะเรียนจบไฮสคูล พวกเขาจึงโหยหาการเติบโตบางอย่างเพื่อเป็นยืนยันว่าพวกเขาได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปอีกขั้นแล้ว ซึ่งเด็กเนิร์ดคู่หูอ้วนผอมอย่างเซ็ธและอีวานหวังว่าตัวเองจะเสียความบริสุทธิ์ไปเสียที อะไรจะเป็นสุขไปกว่าการได้แอ้มสาวสักคนก่อนเรียนจบ และเมื่อทั้งสองได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ พวกเขาจึงแทบจะไม่ลังเลในการวางแผนสละเวอร์จิ้น แต่แผนการนั้นจำเป็นต้องใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวสำคัญ โฟเกลล์ เพื่อนสุดเพี้ยนอีกคนของทั้งคู่จึงปลอมบัตรประชาชนเพื่อจะได้เป็นใบเบิกทางในการซื้อสิ่งต่างๆ เรื่องเหมือนจะง่าย แต่แผนการดันล่มไม่เป็นท่า เมื่อโฟเกลล์ถูกตำรวจจับได้ เรื่องราววุ่นๆ จึงดูท่าจะไม่จบลงที่การได้นอนกับสาวสักคน และมันจำเป็นแค่ไหนกันแน่ที่พวกเขาจะต้องทำอย่างนั้น?

ภาพยนตร์เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างน่ารัก เต็มไปด้วยสีสันของความสนุกสนาน หากดูตามเนื้อเรื่องแล้วอาจจะดูว่าภาพยนตร์มุ่งหน้าไปที่เซ็กซ์เพียงอย่างเดียว แต่นั่นกลับสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติบางอย่างของวัยรุ่น และมิตรภาพระหว่างเด็กหนุ่มนั้นก็ช่างแน่นแฟ้นเสียเหลือเกิน

Easy A (2010)

หลังจากผ่านภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง Superbad (2007) มา นักแสดงสาวเอ็มม่า สโตน ก็ค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้นตามลำดับ จนถึงปัจจุบัน เธอกลายเป็นขวัญใจหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว Easy A อาจเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เอ็มม่าได้เฉิดฉายอย่างเต็มตัว และมันก็ส่งให้เธอได้แสดงฝีมืออย่างเต็มเรื่อง

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นอย่างวันธรรมดาทั่วๆ ไป ที่ใครจะไปคิดว่าคำโกหกอันน้อยนิดจะส่งผลให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วอึดใจ โอลีฟ เพนเดอร์แกสท์ เด็กสาวไฮสคูลที่ไม่มีอะไรดีเด่น ออกจะไปทางเนิร์ดเสียด้วยซ้ำ เธอไม่อยู่ในสายตาใครนอกจากเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวอย่างริแอนนอน ที่ดูจะอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกเรื่อง แล้วด้วยความหน่ายใจ โอลีฟจึงโกหกไปว่าเธอมีเดทกับหนุ่มหล่อ แต่นั่นก็ยังไม่แรงพอจะเป็นข่าวสะพัดไปได้ เมื่อมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ชื่อของเธอยิ่งถูกโหมกระหน่ำไปปากต่อปากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้โอลีฟกลายเป็นจุดสนใจ แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธใดๆ ออกมา เพราะการเป็นคนสำคัญมันช่างเป็นสุขเหลือเกินสำหรับเด็กสาวอย่างเธอ ภาพลักษณ์ของเธอเปลี่ยนไป จากเด็กเนิร์ดก็กลายเป็นสาวมั่น สวยเซ็กซี่และร้อนแรง แต่นี่คือบทเรียนราคาแพงจากความไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะข่าวลือของเธอออกมาไม่หยุดหย่อนจนกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจรับมือได้ การสนุกกับเรื่องลวงหลอกจึงกลับมาตลบหลังเธอในที่สุด

ภายนอก Easy A อาจจะดูเป็นภาพยนตร์ bitch girl ที่หาสาระไม่ได้ แต่ความจริงแล้วภาพยนตร์สอดแทรกประเด็นต่างๆ ไว้มากมาย เช่น ความน่ากลัวของโซเชียลมีเดีย การตกเป็นเหยื่อที่ไม่ต่างอะไรจากแพะรับบาป ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ที่สำคัญอีกอย่างคือการรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ

 

The Perks of Being a Wallflower (2012)

สตีเฟน ชบอสกี้ เป็นนักเขียน นักเขียนบทภาพยนตร์ และผู้กำกับฝีมือดี หนังสือที่ขายดีที่สุดซึ่งส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็คือ The Perks of Being a Wallflower หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นในปี 1999 จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2012 เขาจึงหยิบเรื่องราวและตัวละครของเขาเหล่านั้นมาโลกแล่นบนจอภาพยนตร์

The Perks of Being a Wallflower ฉบับหนังสือนั้นโรงเรียนบางแห่งก็ใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของนักเรียน แต่ในหลายๆ ครั้งโรงเรียนบางแห่งก็แบนหนังสือเล่มนี้ เนื่องมาจากการใช้ภาษาไม่เหมาะสมและมีเนื้อหาหล่อแหลมเกินไป

สำหรับภาพยนตร์ The Perks of Being a Wallflower เองก็ประสบความสำเร็จไปไม่น้อยกว่าต้นฉบับ โดยทำรายได้ไปถึง 33.4 ล้านดอลลาร์

“Wallflower” ใช้เปรียบกับคนขี้อายและไม่กล้าเข้าสังคม ซึ่งนั่นก็เป็นนิสัยของชาร์ลี เด็กหนุ่มที่อยากเรียนจบไฮสคูลตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน เขาไม่มีเพื่อน เก็บตัว แถมยังมีปมในอดีตเกี่ยวกับป้าของตัวเอง นั่นทำให้เขามีสุขภาพจิตที่ไม่ค่อยดีนัก จนวันหนึ่ง โชคชะตาก็พาให้ชาร์ลีมาพบกับแซมและแพททริค สองพี่น้องที่กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา แซมกับแพททริคเป็นเด็กร่าเริง เพื่อนเยอะ และชอบเข้าสังคมเพื่อสนุกสนานไปกับช่วงเวลาที่มีอยู่ แต่ใครจะรู้เล่าว่าแท้จริงแล้วภายใต้รอยยิ้มนั้นเก็บซ่อนอะไรไว้ มีความเจ็บปวดมากมายถูกปกปิดอยู่ เพราะไม่ว่าใครก็ต้องมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น อยู่ที่เราจะรับมือและแสดงออกอย่างไร

อดีตอันเลวร้ายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่อาจกำหนดอนาคตของเราได้ หากใจเข้มแข็งพอ และมันคงจะน่าเศร้าถ้าเราไม่สามารถเปิดใจให้ใครได้เลย ไม่มีใครอยากเป็นดอกไม้ที่ผลิบานอยู่ตามซอกกำแพง ไม่มีค่าและไม่มีใครสนใจ

 

The Fault in Our Stars (2014)

The Fault in Our Stars ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของจอห์น กรีน  ด้วยเนื้อหาและความดีงามของภาพยนตร์ก็ทำให้ The Fault in Our Stars ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าฉาย และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 307 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่มีงบประมาณในการสร้างเพียง 12 ล้านดอลลาร์

ความเจ็บป่วยไม่เลือกสถานะของคนที่มันจะโจมตี จะเด็กแค่ไหน ผู้ใหญ่แค่ไหน ฐานะยากจนหรือร่ำรวยเพียงใดก็ไม่มีความหมาย เฮเซล แลงแคสเตอร์ สาวน้อยผู้โชคร้าย เธอป่วยเป็นมะเร็งขั้นรุนแรงจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในขณะที่อายุ 13 แต่ก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์จนเวลาล่วงมาถึงวันที่เธออายุ 16 ปี เฮเซลมีพ่อแม่คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี เธอจึงไม่ย่อท้อต่อโรคภัยที่อาจจะคร่าชีวิตเธอไปวันไหนก็ได้ แม้ว่าเธอจะมีชีวิตอย่างไม่ปกติสุขแบบเด็กๆ ทั่วไป ทั้งยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แต่โชคชะตาก็พาเธอให้มาพบกับออกัสตัส วอเตอร์ส ชายหนุ่มจิตใจดี มีอารมณ์ขัน และทำให้โลกรอบข้างของเขาสดใสไปด้วย แม้ว่าหัวใจของเฮเซลจะไม่อยากรับใครเข้ามา เพราะรู้ว่าตัวเธอเองคงไม่สามารถทำให้ใครมีความสุขได้ รวมถึงไม่อยากเป็นภาระด้วย แต่ออกัสตัสแตกต่างออกไป เขาพร้อมจะทำให้เธอหัวเราะ คอยยืนอยู่เคียงข้าง และประคับประคองทุกเรื่องราวไปด้วยกัน ดังนั้นหัวใจทั้งสองจึงถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน ต่อให้ความตายมาพรากกันไปนั่นก็คงจะไม่ทำให้ใครคนใดเสียใจกับความรักครั้งนี้

ภาพยนตร์ที่เล่าถึงอาการเจ็บป่วยคู่ขนานไปกับความรักนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ซ้ำยังเกือบๆ จะน้ำเน่าจนคนเมินหน้าหนีด้วยซ้ำ แต่ The Fault in Our Stars กลับเข้าไปนั่งในหัวใจคนดูได้ง่ายๆ หลายฉากทำให้เราเอาใจช่วยและหดหู่ตาม ซึ่งในท้ายที่สุดมันค่อยๆ ปลอบประโลมเราทุกคน เพื่อบอกว่าไม่ให้หมดหวังกับชีวิต การเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันเลวร้ายนั้นจะผ่านไป แล้ววันใหม่ที่ดีกว่าเดิมจะรอคอยเราอยู่ข้างหน้า เพราะฉะนั้นจงเข้มแข็งเข้าไว้

Tags: , , , , ,