ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แคนดิเดตนายกฯ แถลงหลังทราบผลการลงคะแนนของ ส.ส.-ส.ว. ซึ่งเสียงข้างมากโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ โดยระบุว่า “วันนี้เราไม่ได้พ่ายแพ้”

“พวกเราพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรคได้สู้จนถึงที่สุด จนถึงวินาทีสุดท้าย พวกเราทำตามที่เราหาเสียงไว้ ไม่ได้ยอมแพ้ระหว่างทาง ต่อสู้ภายใต้กรอบกฎกติกาที่ระบอบรัฐประหารได้วางไว้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงสมรภูมิหนึ่งในการเดินทางอันยาวไกลกว่าจะได้มาซึ่งประชาธิปไตย”

“วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในการหยุดยั้งประชาธิปไตย ความก้าวหน้าของประเทศไทย ทำลายเสียงของประชาชน พวกเขาต้องใช้ต้นทุนการเงิน ต้นทุนสังคม ต้นทุนทางการเมืองมากน้อยเพียงไหน ต้นทุนเหล่านี้มีแต่จะหดแห้งลงทุกวัน”

“พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตย อย่าสิ้นหวัง ความหวังยังอยู่กับเรา เวลายังอยู่กับเรา” ธนาธร กล่าวพร้อมระบุว่า ต่อจากนี้เราต้องสร้างการเมืองอย่างแข็งขันร่วมกันต่อไป แล้วประชาชนจะเห็นเอง วันนี้ประชาชนได้เป็นสักขีพยานในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แล้วพวกเขาจะเห็น พวกเขาจะเปลี่ยนใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นี่ไม่ใช่จุดจบแต่เป็นจุดเริ่มต้น

“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้แสดงให้เห็นชัดว่ากลุ่มคนที่รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย ยังทำงานหนักไม่พอ เราต้องทำงานเดินหน้าต่อไปน้อยกว่านี้ไม่ได้ ถ้าเราไม่สู้อย่างแข็งขันมากกว่านี้ ลูกหลานของเราเติบโตมาจะต้องอยู่ในสังคมที่ไม่เป็นธรรม ไม่มีสิทธิเสรีภาพแบบนี้ มาทำงานร่วมกัน อย่าเพิ่งหมดหวังครับ”

สุดท้าย ธนาธร ขอบคุณแกนนำพรรคทั้งเจ็ดที่ส่งชื่อธนาธร เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกฯ และขอบคุณเพื่อน ส.ส. 244 คนที่ขานชื่อธนาธรเป็นนายกฯ คนต่อไป

สำหรับในการประชุมสภาร่วม ส.ส.-ส.ว. เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อสักครู่ ผลการลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีปรากฏว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้คะแนน 498 เสียง ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้คะแนน 244 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง จาก ส.ส.และ ส.ว. รวม 747 เสียง